'ป๋าเหนาะ'กับวิบากกรรม'กลุ่มวังน้ำเย็น'
“กลุ่มวังน้ำเย็น” ที่เคยเรืองรุ่งยุค “เสนาะ เทียนทอง” กำลังเผชิญวิบากกรรมครั้งสำคัญ เมื่อสองขุนศึกถูกพิพากษาจำคุก !
ในชั่วโมงนี้ กลุ่มการเมืองเก่าแก่ที่คนไทยรู้จักดีคือ “กลุ่มวังน้ำเย็น” กำลังเผชิญวิบากกรรมครั้งสำคัญ
เมื่อสองขุนศึกแห่งกลุ่มวังน้ำเย็นคือ ชูชีพ หาญสวัสดิ์ และวิทยา เทียนทอง ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุกคนละ 6 ปี ในคดีฮั้วประมูลจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ของกรมส่งเสริมการเกษตร วงเงิน 367 ล้านบาท
คดีนี้เกิดขึ้นในรัฐบาลทักษิณ “ชูชีพ” เป็นรัฐมนตรีเกษตรฯ และ “วิทยา” เป็นเลขานุการรัฐมนตรีเกษตรฯ ถือว่าทั้งคู่มาตามโควต้ารัฐมนตรีจากกลุ่มวังน้ำเย็น
อีกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับ “นมโรงเรียน” แม้ไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่คนของกลุ่มวังน้ำเย็น เป็นผู้บริหารสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น
ล่าสุด คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม หรือ Milk Board สอบพบว่า กรณีนำนมโรงเรียนของไทยไปจำหน่ายในกัมพูชา ถือว่ามีความผิด จึงสั่งสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น เรียกเก็บนมทั้งหมดกลับมาแล้ว และลงโทษเบื้องต้นด้วยการลดกำลังการผลิตลง 5%
ผู้รับผิดชอบเรื่องนี้คือ อำนวย ทงก๊ก ประธานกรรมการสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น และในแวดวงการเมืองสระแก้ว ใครก็ทราบดีว่า “กำนันอำนวย” เป็นคนสนิทของ เสนาะ เทียนทอง
นี่เป็นสองกรณีที่เกี่ยวพันกับกลุ่มการเมือง “วังน้ำเย็น” ที่เคยเรืองรุ่งยุค “ป๋าเหนาะ” ปั้น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2539
ระยะหลังสื่อมวลชนหลายสำนัก มักเขียนประวัติ “เสนาะ เทียนทอง” ผิดๆ โดยยึดติดคำว่า “เจ้าพ่อวังน้ำเย็น” จึงเขียนว่า ตระกูลเทียนทอง ประกอบธุรกิจอยู่ใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว
ตระกูลเทียนทอง เริ่มต้นเส้นทางธุรกิจที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ในนาม “หจก.ส.เทียนทอง” ก่อนจะเปลี่ยนเป็น “บริษัท ส.เทียนทอง” ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง, ปั๊มน้ำมัน, เอเย่นต์ขายสุรา และซื้อขายสินค้าพืชไร่
ปี 2519 “เสนาะ” ตัดสินใจลงสมัคร ส.ส.ตามคำแนะนำของนายทหารใหญ่ ที่คุมกองกำลังบูรพาสมัยนั้น โดยสวมเสื้อพรรคชาติไทย
ปี 2526 “เสนาะ” ดึงน้องชาย วิทยา เทียนทอง ลงสนามอีกคน และสองพี่น้องตระกูล “เทียนทอง” ก็ผูกขาดตำแหน่ง ส.ส.สระแก้ว มาจนถึงทุกวันนี้
ระยะหลัง ตระกูลเทียนทอง แบ่งพื้นที่ธุรกิจการเมืองกันชัดเจน โดย “เสนาะ” มอบหมายให้น้องสะใภ้ “ขวัญเรือน เทียนทอง” ดูแลธุรกิจและการเมือง โดยใช้ อ.วัฒนานคร เป็นฐานบัญชาการ
ลูกของ “กำนันขวัญเรือน” คือ ตรีนุช เทียนทอง และ ฐานิสร์ เทียนทอง จึงเป็น ส.ส.สระแก้ว ส่วน “ป๋าเหนาะ” ก็ส่งลูกชายคนโต สรวงศ์ เทียนทอง ลงสมัคร ส.ส.รักษาพื้นที่เช่นกัน
ทั้ง “ตรีนุช-ฐานิสร์-สรวงศ์” จึงเสมือนตัวแทนของ “ป๋าเหนาะ-วิทยา”
ด้าน “วิทยา เทียนทอง” ได้มีฐานธุรกิจโรงแรมอยู่ อ.อรัญประเทศ และได้ส่งลูกชาย “ทรงยศ เทียนทอง” ลงสนามการเมืองท้องถิ่น และเป็นนายก อบจ.สระแก้ว มาหลายสมัย
ดังที่กล่าวมาข้างต้น ฐานธุรกิจการเมืองของตระกูลเทียนทอง อยู่ที่ อ.วัฒนานคร
ส่วน อ.วังน้ำเย็น นั้นเป็น “ฐานมวลชน” ที่มี “สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น” เป็นผลงานชิ้นโบแดง สมัยที่ “เสนาะ” เป็นรัฐมนตรีครั้งแรกคือ รัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์ สมัยรัฐบาลเปรม
ปี 2530 “กำนันอำนวย” หรือ อำนวย ทงก๊ก กำนัน ต.วังสมบูรณ์ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว (ปัจจุบัน ต.วังสมบูรณ์ ได้ยกฐานะเป็น กิ่ง อ.วังสมบูรณ์ แล้ว) ได้มาปรึกษาหารือกับ “เสนาะ” ว่าชาวไร่ข้าวโพดในวังน้ำเย็นประสบปัญหาภัยธรรมชาติ จึงมีความประสงค์จะเปลี่ยนอาชีพมาเลี้ยงโคนม
“เสนาะ” ที่ดูแลกระทรวงเกษตรฯ จึงรับปาก “กำนันนวย” ที่จะหาทางส่งเสริมอาชีพเลี้ยงโคนมให้แก่ชาวไร่วังน้ำเย็น
“สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น" จึงได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2530 โดยมีสมาชิกแรกก่อตั้งสหกรณ์ฯ มีจำนวน 200 ราย
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น เติบโตอย่างรวดเร็ว จนเป็นแหล่งผลิตน้ำนมใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ
อ.วังน้ำเย็น มีประชากรเป็นชาวไร่โดยส่วนใหญ่ และเป็นฐานคะแนนที่สำคัญของตระกูลเทียนทอง
ฉายา “เจ้าพ่อวังน้ำเย็น” หรือชื่อกลุ่มการเมือง “วังน้ำเย็น” จึงกลายเป็นยี่ห้อประจำตัวนักการเมืองอาวุโส เสนาะ เทียนทอง



