คอลัมนิสต์

‘กำนันอำนวย’ผู้ยิ่งยงแห่งวังน้ำเย็น

‘กำนันอำนวย’ผู้ยิ่งยงแห่งวังน้ำเย็น

09 มิ.ย. 2559

‘กำนันอำนวย’ผู้ยิ่งยงแห่งวังน้ำเย็น : มนุษย์สองหน้า โดยแคน สาริกา

           สมัยที่ “สระแก้ว” ยังเป็นอำเภอชายแดนของ จ.ปราจีนบุรี ไม่มีข้าราชการคนไหน อยากย้ายมาประจำการอำเภอนี้ เพราะอยู่ไกลกันดาร แต่กลิ่นหอมแผ่นดินใหม่ได้เชิญชวนให้ “นักแสวงโชค” จากทั่วสารทิศ มุ่งหน้าจับจองที่ดิน และตั้งรกรากสร้างเนื้อสร้างตัว

           ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาสระแก้ว พร้อมกับการตัดถนนสายจันทบุรี-สระแก้ว เมื่อปี 2514

           ระยะบุกเบิกมีชาวบ้านอพยพย้ายถิ่นฐานมาตั้งบ้านเรือนอยู่ตามแนว 2 ฝั่งถนน ประมาณ 50 ครัวเรือน เรียกว่า “กลุ่มบ้านวังน้ำเย็น”

           “อำนวย ทงก๊ก” ประธานกรรมการกลุ่ม สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด ที่คนในพื้นที่เรียกติดปากว่า “กำนันอำนวย” ก็เป็นนักแสวงโชครุ่นแรกๆ ที่มาถึงวังน้ำเย็น

           กำนันอำนวยไม่ใช่คนปราจีนบุรี เขาเกิดที่บ้านหนองหญ้าปล้อง ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เนื่องจากครอบครัวยากจน ชีวิตจึงต้องต่อสู้ดิ้นรนตั้งแต่เด็ก

           ชีวิตเยี่ยงหนุ่มพเนจร รอนแรมไปหลายที่ และปักหลักอยู่นครสวรรค์หลายปี เมื่อตัดสินใจแต่งงาน มีลูก 3 คน แม่ยายได้ข่าว “แผ่นดินทองวังน้ำเย็น” จึงแนะนำลูกเขยอพยพให้ย้ายไปทำมาหากินที่เมืองชายแดน ปี 2520 กำนันอำนวยตัดสินใจนำเงินเก็บที่มีอยู่มาซื้อห้องแถว 3 ห้อง ที่บ้านวังสมบูรณ์ (สมัยนั้นขึ้นต่อการปกครองกิ่ง อ.วังน้ำเย็น จ.ปราจีนบุรี) โดยยึดอาชีพซื้อขายพืชไร่ไปจำหน่ายต่อ

           วังน้ำเย็นยุคสงครามชิงที่ดิน ชาวไร่ปลูกข้าวโพดเป็นหลัก พ่อค้าพืชไร่รายใหญ่ก็คือ “เสี่ยแหนม” เสนาะ เทียนทอง ที่มีฐานธุรกิจอยู่ที่ อ.วัฒนานคร และมอบหมายให้ “กำนันขวัญเรือน” น้องสะใภ้ มารับซื้อพืชไร่ที่วังน้ำเย็น

           พูดง่ายๆ กำนันอำนวยรับซื้อข้าวโพดจากชาวบ้าน ก็ส่งขายให้กำนันขวัญเรือน เลยทำให้หนุ่มใหญ่จากราชบุรี ได้รู้จักมักคุ้นกับตระกูล “เทียนทอง”

           สมัยโน้น กิ่ง อ.วังน้ำเย็น มีตำบลในการปกครอง 3 ตำบล คือ วังน้ำเย็น วังสมบูรณ์ และตาหลังใน และอยู่ในการปกครองของ จ.ปราจีนบุรี

           บุคลิกแบบคนกล้าชนเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ทำให้เพื่อนบ้านนิยมชมชอบ เดือดร้อนอะไรก็วิ่งเข้าหา และเขาเป็นปากเสียงให้ชาวบ้าน จึงได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้าน และเป็นกำนัน ต.วังสมบูรณ์ อ.วังน้ำเย็น เรื่อยมาจนเกษียณ

           ปี 2530 พืชไร่ราคาตก ชาวไร่เดือดร้อนทั่วหน้า กำนันอำนวยจึงคิดที่จะปรับเปลี่ยนให้ชาวบ้านมาเลี้ยงโคนม เนื่องจากเขาเป็นคนราชบุรี เคยเห็นความสำเร็จของสหกรณ์โคนมหนองโพ จึงคิดว่าอาชีพเลี้ยงโคนมนี่แหละ จะช่วยชาวบ้านหลุดพ้นจากความยากจนได้

           ผู้ที่จุดประกายฝันของกำนันอำนวยคือ เสนาะ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์ สมัยรัฐบาลเปรม ได้เป็นกำลังหลักผลักดันให้เกิด “สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น” ซึ่งมีการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นสหกรณ์ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2530

           กำนันอำนวย บริจาคที่ดินส่วนตัว 15 ไร่ 61 ตารางวา ให้แก่สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น เพื่อจัดตั้งสำนักงานและศูนย์รับน้ำนมดิบจากสมาชิก โดยการจัดตั้งสหกรณ์ ได้รับเงินทุนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 42 ล้านบาท ซึ่งมีเกษตรกร 200 ราย ร่วมเป็นสมาชิก และได้รับโคนมจากต่างประเทศ 1,000 ตัว

           ว่ากันตามจริง ฉายา “เจ้าพ่อวังน้ำเย็น” ของ เสนาะ เทียนทอง ก็มีจุดเริ่มต้นที่วังน้ำเย็น จากยุคสมัยที่ “เสี่ยแหนม” มารับซื้อข้าวโพดจากชาวไร่ จนมาถึงวันที่ “เสี่ยแหนม” เป็นรัฐมนตรี ก็ผลักดันให้เกิดการเลี้ยงโคนม แทนการทำไร่ข้าวโพด และตามมาด้วยสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น

           คนสระแก้วรู้ดีว่า กำนันอำนวยเป็นมือทำงานมวลชนให้แก่ตระกูลเทียนทองมายาวนาน โดยร่วมแรงร่วมใจกับ “กำนันขวัญเรือน” ดูแลพื้นที่ในทุกด้าน

           ปัจจุบัน สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น มีโคนมกว่า 4 หมื่นตัว มีสมาชิกกว่า 1,300 ครัวเรือน และมีกำลังการผลิต 150 ตันต่อวัน รวมมูลค่าธุรกิจราว 3,000 ล้านบาทต่อปี

           สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น ยังเป็นแหล่งผลิตน้ำนมใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ

           หนุ่มพเนจรที่รอนแรมจากนครสวรรค์ มาตั้งรกรากที่วังสมบูรณ์เมื่อ 40 ปีที่แล้ว มีทางชีวิตที่น่าสนใจ

           การเลือกอาชีพรับซื้อพืชไร่ ทำให้เขาได้รู้จักกับตระกูล “เทียนทอง” นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเขาโดยแท้