ศรีลังกาได้ตีลังกาเป็นประชาธิปไตย | คมชัดลึก

             กรุงโคลัมโบ-เมืองหลวงแห่งนี้เปลี่ยนไปมาก ไม่ได้มา 7 ปี สถานการณ์ตอนนี้สงบมาก การไปมาหาสู่กันในเมืองและต่างจังหวัดสะดวกขึ้น ไม่ต้องมีทหารหรือตำรวจตรวจเช็กระหว่างทางซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องกีดขวางติดลวดหนามอยู่ตลอดเวลา หลังจากรัฐบาลศรีลังกาภายในการนำของประธานาธิบดีราชาปักษาได้วิธีโหดเหี้ยมปราบด้วยกองกำลังติดอาวุธต่อกลุ่มพยัคฑ์ทมิฬจนพ่ายแพ้เมื่อหกปีก่อน ทำให้บ้านเมืองนี้สงบขึ้นมาก และเริ่มมีการพูดถึงการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างจริงจัง

             ผู้เขียนมาศรีลังกาครั้งนี้เพื่อมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับกลุ่มรณรงค์เพื่อเสรีภาพและการฏิรูปสื่อที่กำลังดำเนินการอยู่ในประเทศนี้ หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่เหลือเชื่อที่ได้เกิดขึ้นตั้งแต่มกราคมปี 2014 คือพรรคฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้งและสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้โดยมีประธานาธิบดีไมตรีพลา และนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห ทำให้ประธานาธิบดีราชาปักษาซึ่งอยู่ในอำนาจมานานถึงสองวาระต้องตกจากเก้าอี้ทันที

             ในอดีต เสรีภาพสื่อมวลนในศรีลังกาไม่น้อยหน้ากว่าโลกตะวันตก มีมากพอๆกัน พร้อมทั้งยังมีนักข่าวเก่งกล้าสามารถเต็มไปหมด นักข่าวศรีลังกายังมีบทบาทในการพัฒนาการเขียนข่าวกีฬาภาษาอังกฤษในประเทศไทยอีกด้วย เช่น นายแอนตัน เปเรร่า ของ นสพ.เดอะเนชั่น และนายเอ็ดเวิร์ด ตังคลาจา ของนสพ.บางกอกโพสต์ เป็นผู้บุกเบิกรายงานข่าวคริกเก็ตและกอล์ฟ

             รัฐบาลชุดใหม่มีทัศนคติที่ต่างจากชุดก่อนคือส่งเสริมเสรีภาพสื่อมวลชนเต็มที่จนนายกรัฐมนตรีรานิลต้องมานั่งบ่นกับผู้เขียนว่า สื่อที่นี่น่าจะเขียนอะไรที่มีความรับผิดชอบมากกว่านี้ไม่ใช่เขียนข่าวโคมลอย (ฟังดูแล้วน่าเห็นใจ เพราะอาการแบบนี้ไม่ใช่มีแต่สื่อมวลชนศรีลังกาเท่านั้น เป็นอาการทั่วๆ ไปของสื่อทั่วโลก

             ตอนนี้สภาผู้แทนราษฎรกำลังพิจารณาผ่านกฎหมายว่าด้วยการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ซึ่งทันสมัยและก้าวหน้าพอสมควรเพราะกฎหมายฉบับนี้รวมถึงข้อมูลของภาคประชาสังคมและบริษัททำสัญญาหรือข้อตกลงต่างๆ กับหน่วยงานรัฐ ในประเทศอื่นๆ เช่นในประเทศไทย พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารไม่รวมถึงภาคประชาสังคม

             สงครามกลางเมืองตั้งแต่ปี 1983 ได้ชะลอการเติบโตของประเทศ ครั้งหนึ่งในอดีต นายกรัฐมนตรีลี กวน ยู จากสิงคโปร์ได้เยือนเกาะแห่งนี้และเปรยว่าจะสร้างสิงคโปร์ให้เป็นศรีลังกาให้ได้ หลังรับอิสรภาพใหม่ๆ เกาะแห่งนี้โดดเด่นมากในเอเชีย มีโครงสร้างที่ดี ประชาชนมีการศึกษาสูง ในสมัยอาณานิคมอังกฤษ ศรีลังกาเป็นศูนย์บริหารในเครือจักรภพอังกฤษ

             ขณะนี้สายสัมพันธ์ไทย-ศรีลังกาดีมากๆ ไม่ใช่เพราะเป็นประเทศนับถือศาสนาพุทธด้วยกันเท่านั้น แต่เป็นเพราะความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชนแน่นแฟ้นมากขึ้น ในยี่สิบปีก่อนรัฐบาลศรีลังกาไม่เคยไว้ใจไทย เชื่อว่าทางฝ่ายไทยแอบช่วยกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬกำลังต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาล เนื่องจากเครือข่ายการเงินและลอจิสติกส์ของกลุ่มก่อการร้ายนี้ได้ตั้งสาขาอยู่ในต่างประเทศๆ เช่น ยุโรป แคนาดา ส่วนในเอเชียมีที่ฮ่องกง มาเลเซียและไทยที่เป็นแหล่งใหญ่

             ตอนนี้รัฐบาลศรีลังกาชุดใหม่ได้เชิญนักธุรกิจไทยมาลงทุนในศรีลังกา ซึ่งต้องการเงินทุนจากต่างประเทศ รัฐบาลชุดใหม่มีท่าการทูตต่างจากรัฐบาลชุดก่อนคือต้องการถอยห่างจากจีนไม่อยากอยู่ใกล้ชิดเกินไป ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้เข้าหารัฐบาลศรีลังกาชุดเก่าไว้มาก เรียกได้ว่าการลงทุนทุกอย่างของจีนเพื่อสร้างฐานสำหรับการดำเนินการต่างประเทศในเอเชียใต้ของจีน

             สัมพันธ์ไทย-ศรีลังกาก็เพิ่งฉลองครบรอบ 60 ปีในปีที่แล้ว ประธานาธิบดีไมตรีพลาได้มาเยี่ยมเมืองไทย เป็นผู้นำประเทศคนแรกจากเอเชียใต้ที่มาเยือนไทยเพื่อกระชับความร่วมมือทางด้านเกษตรกรรมและอื่นๆ

             ปีที่แล้วรัฐบาลศรีลังกาได้แจ้งกับฝ่ายไทยว่า อยากสมัครเป็นคู่เจรจาอาเซียนเฉพาะทางด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว คงจำกันได้ตอนก่อตั้งอาเซียนในปี 1967 ไทยต้องการสมาชิกที่เป็นพุทธเข้ามาเป็นสมาชิก เลยเชิญศรีลังกาเข้ามา แต่ปรากฏว่าไม่มีฉันทามติระหว่างสมาชิกผู้ก่อตั้งทั้งห้า ในนี้รัฐบาลศรีลังกาเชื่อมั่นว่าอาเซียนคงสามารถตัดสินใจได้ว่าศรีลังกาควรเป็นคู่เจรจาได้หรือไม่