
เส้นทางนักร้องจำเป็นของศรีนวล
เส้นทางนักร้องจำเป็นของศรีนวล : มนุษย์สองหน้า โดยแคน สาริกา
ช่วงที่มีข่าว สุรชัย สมบัติเจริญ เข้าโครงการเฟซ ออฟ ก็ทราบว่า “แม่ศรีนวล” ในวัย 80 ปี ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนย่านฝั่งธนบุรี และเช้าวันที่ 1 มีนาคม คู่ชีวิตราชาเพลงลูกทุ่ง สุรพล สมบัติเจริญ ได้เสียชีวิตลงด้วยอาการไตวาย
เอ่ยถึง “ศรีนวล สมบัติเจริญ” คอเพลงลูกทุ่งรุ่นเก่าก็คงนึกถึง “รักหน่อย” เพลงแรกในชีวิตของเธอ
“รักหน่อย แต่อย่ารักหมดใจ หวั่นไปกลัวใคร มาแบ่งปัน อาจจะมี หญิงที่ดีดีกว่าฉัน อาจจะรวย สาวสวยมีร้อยพัน ใจฉันยังนึกหวั่น กลัวทุกวันช้ำใจ”
“ศรีนวล” พบรักกับ “สุรพล” ตั้งแต่สมัยเป็นทหารอากาศ ทั้งสองร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาจนมีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นเจ้าของธุรกิจวงดนตรี พ่วงด้วย “ธูปหอมสมบัติเจริญ”
ช่วงที่ครูสุรพลพาชาวคณะออกเดินสายไปเปิดการแสดงทั่วไทย “ศรีนวล” ก็ดูแลธุรกิจธูปหอมอยู่ที่บ้านย่านซอยสารภี วงเวียนใหญ่
ครั้นครูสุรพลถูกคนร้ายบุกสังหารเสียชีวิตเมื่อเดือนสิงหาคม 2511 “ศรีนวล” ต้องแบกรับภาระอันใหญ่หลวง มิเพียงลูกๆ 5 คน คือ สมพงษ์ สมบัติเจริญ, สุรชัย สมบัติเจริญ, ศิรินทร์ทิพย์ สมบัติเจริญ, สุรชาติ สมบัติเจริญ และสุรเดช สมบัติเจริญ หากแต่ยังมี “ลูกวง” หรือสมาชิกชาวคณะวงดนตรีอีกร้อยชีวิต ที่รอคอย “ผู้นำ”
ดั่งที่ทราบกัน หลังสิ้นสุรพล ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อเปลื้อง สมบัติเจริญ (บิดาของสุรพล) กับสะใภ้ศรีนวล มิสู้ราบรื่นนัก
อย่างเช่น ศรีนวลขายลิขสิทธิ์ชีวิตครูสุรพลให้นายทุนคนหนึ่งสร้างหนังเรื่อง “16 ปี แห่งความหลัง” ส่วนพ่อเปลื้องก็ลงทุนสร้างหนังเรื่อง “สุรพลลูกพ่อ”
ด้านวงดนตรี ศรีนวลตัดสินใจเป็นผู้นำ แม้จะไม่เคยร้องเพลงมาก่อน แต่เสียงเรียกร้องจากกลุ่มลูกศิษย์ครูสุรพล ทำให้เธอต้องมายืนถือไมค์ไฟส่องหน้า
บังเอิญว่า ช่วงก่อนที่ครูสุรพลจะถูกยิงเสียชีวิต หนุ่มเมืองชลชื่อ “ชาตรี ศรีชล” ได้มาสมัครอยู่วงดนตรีสุรพล และชาตรีนี่เองที่ช่วยเคาะจังหวะการร้องเพลงให้ศรีนวลในช่วงแรกๆ
ชาตรีมีพรสวรรค์ในการแต่งเพลง จึงเขียนเพลง “รักหน่อย” และ “บุหงาลนไฟ” ให้ศรีนวลร้องอัดแผ่นเสียง
ถ้าฟังเพลง “รักหน่อย” ร้องโดยศรีนวล ก็ต้องให้เครดิตคนแต่งเพลงอย่างชาตรี ที่เลือกทำนองเพลงง่ายๆ แต่โดนใจคนฟัง เนื่องจาก “เนื้อเสียง” ของศรีนวลนั้น พูดกันตรงๆ ว่า “สอบไม่ผ่าน” แต่เพลงมันดัง
“รักหน่อย มากรักไม่เป็นไร แม้ห่างไกล อย่าให้ฉันต้องเฉลียว รักมานาน ขอกันเพียงหน่อยเดียว ให้คุณจริงหญิงใดไม่แลเหลียว แม้ใครปองข้องเกี่ยว รักเดียวเชียวนะคนดี”
จังหวะเดียวกันนั้น กลุ่มนักร้องที่เติบโตมากับครูสุรพลได้แยกตัวออกจากภรรยาหัวหน้าเก่า มาตั้งวงดนตรีชื่อ “ศิษย์สุรพล” นำโดย กังวานไพร ลูกเพชร, ศรีไพร ลูกราชบุรี, ละอองดาว-สะกาวเดือน, ศักดิ์ชาย วันชัย, แทน นครปฐม ฯลฯ
ด้วยเหตุนี้ศรีนวลจึงประกาศรับสมัครทีมงานใหม่ ตั้งแต่นักร้อง นักดนตรี ตลกยันหางเครื่อง
โชคเป็นของศรีนวล เมื่อ ชาตรี ศรีชล กลายเป็นนักร้องแม่เหล็กประจำวง เนื่องจากเพลง “สมัครรักสมัครแฟน” , “เมาเหล้าเมารัก” และ “ช้ำรักจากเมืองชล” ดังระเบิด วงศรีนวลจึงรับงานการแสดงยาวเหยียด แต่เมื่อชาตรีแยกตัวออกไปตั้งวงเอง ศรีนวลก็ประกาศเลิกกิจการวงดนตรี โดยหันมาดูแลลูกๆ แทน
ปี 2516 วงดนตรีศิษย์สุรพลก็ถึงกาลอวสาน ศิษย์ครูสุรพลต่างแยกย้ายกันไปตั้งวงเป็นของตัวเอง บางรายก็รุ่ง บางรายก็ร่วง
ปี 2522 ศรีนวลกลับมาสู่วงการลูกทุ่งอีกครั้ง โดยเปิดตัวลูกชายสุดรัก “สุรชัย สมบัติเจริญ” ฉายานักร้องลูกทุ่ง “หัวนอก” เพราะเธอส่งลูกชายคนนี้ไปเรียนระดับมัธยมที่ประเทศอังกฤษ
ด้วยการรวมพลังของยอดโฆษกวิทยุ ประจวบ จำปาทอง กับคอลัมนิสต์ขาใหญ่ ยิ่งยง สะเด็ดยาด “สุรชัย” ก็ดังชั่วข้ามคืน
จากนั้นเป็นต้นมา “สุรชัย” ได้กลายเป็นผู้สืบสานมรดกเพลงลูกทุ่งจากพ่อสุรพลมาจนถึงวันนี้