นครบาลจัดรถตู้สายตรวจ รับส่งประชาชนเส้นทางเปลี่ยวทั่วกรุง | คมชัดลึก

           แน่นอนว่ากรุงเทพมหานครเป็นจุดศูนย์รวมใหญ่ประชากรของประเทศ ทั้งมาดำเนินธุรกิจ ประกอบอาชีพสาขาต่างๆ และศึกษาเล่าเรียน แม้กระทั่งมีแรงงานต่างด้าวที่ผู้ประกอบการคนไทยจ้างมาใช้แรงงาน จึงมีจำนวนประชากรแฝงจำนวนมหาศาล ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีนัก ทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรม โดยเฉพาะเหตุ “ลัก วิ่ง ชิง ปล้น” ถือเป็นภัยสังคม คุกคามความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากสถิติเหตุอาชญากรรมเกี่ยวกับทรัพย์ส่วนใหญ่มักจะเกิดในช่วง “โพล้เพล้” ตั้งแต่พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลับขอบฟ้า จนถึงรุ่งสางก่อนฟ้าสว่างของอีกวัน หรืออาจเรียกได้ว่า “ช่วงเวลาดาวโจร”

           ด้วยเหตุนี้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้พยายามหาวิธีป้องกัน สร้างความปลอดภัยอุ่นใจให้แก่พี่น้องประชาชนเรื่อยมาหลายยุคสมัย โดยก่อนหน้านี้กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 (บก.น.7) ได้ริเริ่มโครงการ “รถตู้สายตรวจรับส่งประชาชน” ถือเป็นหน่วยงานตำรวจในนครบาลเจ้าแรกๆ ที่บริการประชาชนในรูปแบบนี้ เพื่อให้ความปลอดภัยคลอบคลุมทั่วถึงประชาชนทุกพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานคร พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. ได้นำโครงการนี้มา “ปัดฝุ่น” สั่งการให้ทุกกองบังคับการ และทั้ง 88 โรงพักสังกัด บช.น. ดำเนินโครงการ “รถตู้นครบาลบริการรับส่งประชาชน” ซึ่งจะมีรถตู้ตำรวจที่เป็นรถสายตรวจสำหรับรับส่งประชาชน จำนวน 88 คัน ไว้ให้บริการตั้งแต่พลบค่ำจนถึงเช้ามืดอีกวัน

           พล.ต.ท.ศานิตย์ อธิบายหลักการว่า เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ใน กทม. เลิกงานหรือเลิกเรียนช่วงเวลาค่ำมืด การเดินทางกลับที่พักอาศัยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งระหว่างทางอาจมีกลุ่มมิจฉาชีพอาศัยช่องทางในการทำประทุษร้ายร่างกายต่อชีวิตหรือทรัพย์สิน ทางตำรวจจึงจัดตั้งโครงการนี้ เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน พร้อมกับอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน โดยให้เจ้าหน้าที่สายตรวจที่ออกปฏิบัติหน้าที่ขับรถตู้รับส่งในพื้นที่ ตั้งแต่ช่วงเวลา 17.00-05.00 น. ของทุกวัน เพื่อมุ่งหวังลดปัญหาอาชญากรรม เสริมสร้างลักษณะที่ดีของตำรวจในสายตาประชาชน และแสวงหาความร่วมมือกับประชาชนพื้นที่ในการให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ จนนำไปสู่การพัฒนาและปรับปรุงการทำงานของตำรวจนครบาล

           “ประชาชนที่กลับบ้านดึกต้องการใช้บริการรถตู้ตำรวจสามารถติดต่อไปยังสถานีตำรวจทั้ง 88 สน. ได้ในทันที โดยเจ้าหน้าที่จะถามพิกัดจุดที่เราอยู่ ชื่อ-นามสกุล และเบอร์ติดต่อ สำหรับประสานรถตู้สายตรวจไปรับ เมื่อรถตู้บริการประชาชนมาถึงตำรวจจะบันทึกภาพประชาชนก่อนขึ้นรถ เพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ เมื่อส่งประชาชนเรียบร้อยแล้วก็จะบันทึกภาพอีกครั้ง เป็นการยืนยันว่า ประชาชนที่ใช้บริการถึงบ้านเรียบร้อยปลอดภัย โดยมีสมุดให้ลงชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ รวมทั้งแสดงความคิดเห็นในการใช้บริการด้วย” พล.ต.ท.ศานิตย์ อธิบาย

           อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่สายตรวจที่ออกปฏิบัติหน้าที่นั้น จะต้องขับรถตู้รับส่งประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะในเส้นทางจุดเสี่ยง เพื่อลดปัญหาการเกิดอาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้น และโครงการนี้จะทำให้ประชาชนทราบว่า นอกจากปกติเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจะต้องออกตรวจตราอยู่แล้ว ก็เสริมให้มีการรับใช้ประชาชนเพิ่มเติมไปด้วย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ประชาชน ซึ่งผู้บังคับการ 1-9 ก็ได้สานต่อสั่งการให้ตำรวจในสังกัดประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าว โดยเริ่มต้นประชาสัมพันธ์กับผู้นำชุมชนต่างๆ ที่มาประชุมที่สำนักงานเขตให้แจ้งประชาชนในชุมชนผ่านเสียงตามสาย นอกจากนี้สายตรวจที่เข้าไปตรวจก็จะประชาสัมพันธ์ไปด้วย และมีการติดป้ายประชาสัมพันธ์อีกหนึ่งช่องทาง สำหรับประชาชนที่ขอใช้บริการในพื้นที่แต่บ้านพักอยู่ระหว่างรอยต่อพื้นที่ก็จะพิจารณาประสานกับโรงพักใกล้เคียงให้มารับช่วงต่อไปส่งที่บ้านของประชาชน

           ทั้งนี้ ประชาชนที่ใช้บริการต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า โครงการนี้ของตำรวจถือเป็นโครงการที่ดี เป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านมาก สร้างความอุ่นใจ มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หากทำอย่างต่อเนื่องเชื่อว่าจะช่วยลดปัญหาอาชญากรรม ป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย