คอลัมนิสต์

'เขมรแดง'บนแผ่นฟิล์ม

'เขมรแดง'บนแผ่นฟิล์ม

18 ก.พ. 2559

“เขมรแดง” บนแผ่นฟิล์ม : มนุษย์สองหน้า โดย... แคน สาริกา

 
          คนไทยอาจสนใจข่าวอาจารย์หนูนั่งเครื่องบินไปพนมเปญ เพื่อสักยันต์ให้ แองเจลีนา โจลี นักแสดงสาวชื่อดังก้องโลก โดยไม่มีใครสนใจข่าวสารการเดินทางมาพำนักอยู่ในกัมพูชานานนับเดือนว่าเธอมาทำอะไร?
 
          กลางเดือนกันยายน ปีที่แล้ว มีรายงานข่าวว่า แองเจลีนา โจลี เข้าพบ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อหารือเกี่ยวกับโครงการภาพยนตร์เรื่อง “First They Killed My Father : A Daughter of Cambodia Remembers” ที่เขียนโดย เลือง อุง นักเขียนและนักสิทธิมนุษยชน ซึ่งได้บันทึกความทรงจำของเด็กหญิงคนหนึ่งที่รอดชีวิตจากระบอบเขมรแดง
 
          ดังที่ทราบว่า ยุคสมัยการปกครองของเขมรแดง มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวเขมรถึง 2 ล้านคน โดยสมเด็จฮุน เซน ก็สนับสนุนให้ “โจลี” สร้างหนังเรื่องนี้ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าใจถึงการโค่นระบอบเขมรแดง และการสถาปนารัฐกัมพูชาใหม่
 
          เดือนธันวาคม “โจลี” พร้อมครอบครัวเดินทางมากัมพูชา เพื่อเตรียมการถ่ายทำหนัง และเธอได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน 2015 International Cambodia Film Festival จัดขึ้นในกรุงพนมเปญ
 
          แบรต พิตต์ สามีของโจลี ให้สัมภาษณ์นิตยสาร Glamour ว่า “ผมเชื่อว่าบทบาทของแองเจลีนาในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์นั้น เพิ่งจะเริ่มต้น และหากในอนาคตเธออยากจะสร้างหนังร่วมกับผมอีก ผมก็มีคำตอบเดียวให้เธอ คือใช่”
 
          ว่ากันว่า แรงบันดาลใจที่เธอเลือกสร้างหนังเรื่องนี้ เพราะกัมพูชาเป็นบ้านเกิดของ “ฟอร์ด แมดด็อกซ์” ลูกชายวัย 14 ปี ลูกชายบุญธรรมที่โตมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และเธอรับมาเลี้ยงดูเมื่อปี 2545 ในช่วงที่เธอรับบทนำในหนังเรื่อง Tomb Raider ที่ถ่ายทำในอุทยานประวัติศาสตร์พระนคร แหล่งมรดกโลกของกัมพูชา
 
          วันนี้ “แมดด็อกซ์” กำลังโตเป็นหนุ่ม โจลีก็หวังให้ลูกบุญธรรมได้จดจำและระลึกว่า ตนเองเป็นใครมาจากไหน
 
          การถ่ายทำฉากสุดท้ายของหนังเรื่องนี้คือ ฉากกองทัพเขมรแดงยึดพนมเปญ เมื่อ 17 เมษายน 2518
 
          ทีมงานโจลีได้ยึดเอาเมืองพระตะบองเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากใหญ่ โดยปิดเมือง 5 วัน เพื่อจำลองสถานการณ์ในอดีต
 
          ประวัติศาสตร์นาฏกรรมแห่งชาวกัมพูชาในเวลานั้น บันทึกไว้ว่า กลุ่มเขมรฝ่ายขวานำโดย นายพลลอนนอล ก่อรัฐประหารยึดอำนาจ “กษัตริย์สีหนุ” ในเดือนมีนาคม 2513 พร้อมกับสาธารณรัฐเขมร ที่มีสหรัฐอเมริกาให้การสนับสนุน
 
          การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองดังกล่าวส่งผลให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนหนุนช่วย “พรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา” หรือ “เขมรแดง” ก่อการลุกฮือต้านรัฐบาลลอนนอลในเขตชนบท และเช้าตรู่วันที่ 17 เมษายน 2518 ตรงกับวันปีใหม่ของชาวกัมพูชา กองทัพเขมรแดงก็เคลื่อนเข้ายึดกรุงพนมเปญ ปิดฉากรัฐบาลเขมรฝ่ายขวา
 
          การปกครองภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา นำมาซึ่งโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของมวลมนุษยชาติ เมื่อมีชาวเขมรนับล้านคนถูกฆ่าตายในทุ่งสังหาร ประเมินว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ล้านคน นับเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เลวร้ายที่สุดของศตวรรษที่ 20
 
          สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีที่โตมาจากกองทัพเขมรแดง ได้กล่าวย้ำอยู่เสมอว่า ความโหดร้ายของพลพตทำให้เขาและคณะเขมรกู้ชาติตัดสินใจก่อการล้มล้างระบอบเขมรแดงเมื่อปี 2522
 
          นักการเมืองจอมเก๋าแห่งพนมเปญ จึงวาดหวังให้หนังของโจลีเป็นบทเรียนสำคัญแก่คนรุ่นใหม่กัมพูชา ได้เข้าใจว่า กว่าจะเป็นกัมพูชาที่กำลังรุ่งเรืองในปัจจุบัน พวกเขาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาอย่างไรในอดีต
 
          หากไม่มีวันนั้น ก็ไม่มีวันนี้ หนังของโจลีจะเป็นส่วนหนึ่งของการบอกเล่าประวัติศาสตร์บาดแผลแห่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์