คอลัมนิสต์

‘กู้ภัย’อ่างทองร่วมป้องกันเหตุ

‘กู้ภัย’อ่างทองร่วมป้องกันเหตุ

10 ก.พ. 2559

‘กู้ภัย’อ่างทองร่วมป้องกันเหตุ : สายตรวจระวังภัย โดยสุรศักดิ์ หริ่มสืบ

               การก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคดี “ฉก ชิง วิ่ง ราว จี้ ปล้น”  เป็นปัญหาสำคัญที่มักส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ พ.ต.ท.บุญญาภิวัฒน์ บุญนิ่ม สารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองอ่างทอง ผนึกกำลังในส่วนภาคประชาชน เข้ามาร่วมปฏิบัติงานในเชิงรุก เพื่อให้สอดคล้องกับอัตรากำลังพลที่มีอยู่อย่างจำกัด

               เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.ท.บุญญาภิวัฒน์  เล่าว่า การทำงานเชิงรุกของ สภ.เมืองอ่างทอง ทางผู้บังคับบัญชาคือ พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง ได้เน้นย้ำในเรื่องการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในทุกรูปแบบ ทั้งนี้ ถึงแม้ว่ากำลังพลของ สภ.เมืองอ่างทอง จะมีจำนวนจำกัดก็ตาม ดังนั้นจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนยุทธวิธี โดยมีการเชิญคณะกรรมการสมาคมวีอาร์กู้ภัยอ่างทอง ประกอบด้วย หัวหน้าจุด รองหัวหน้าจุด และอาสาสมัครเจ้าหน้าที่ พร้อมรถกู้ภัย รถตรวจเหตุ รถพยาบาลของสมาคมวีอาร์กู้ภัยจังหวัดอ่างทอง และชุดเคลื่อนที่เร็วจุดอ่างทอง เข้ามาร่วมหารือ เพื่อเข้ามาช่วยเหลือในภารกิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการสอดส่องป้องกันเหตุอาชญากรรมตามจุดเสี่ยงต่างๆ ใน จ.อ่างทอง

               “กำลังพลของ สภ.เมืองอ่างทอง รวมถึงรถตรวจเหตุ ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด ปัจจุบันมีรถสายตรวจเพียง 1 คัน โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำรถเพียง 1 นาย รถสายตรวจนี้จะวิ่งตรวจในเขต อ.เมือง 3 เส้นทาง ดังนั้นเมื่อมีการสนธิกำลังจึงมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่อาสาและชุดกู้ภัยในพื้นที่ เพื่อให้เข้ามาร่วมป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน ซึ่งทำให้ยานพาหนะที่ใช้ในการปฏิบัติงานมีจำนวนเพิ่มขึ้น ทำให้การปฏิบัติหน้าที่สามารถบรรลุตามเป้าหมายที่วางเอาไว้” สารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองอ่างทอง กล่าว

               พ.ต.ท.บุญญาภิวัฒน์ ระบุด้วยว่า การออกตรวจแต่ละครั้้งจะมีการเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยควบคุมดูแล โดยจะให้รถกู้ภัยที่ปฏิบัติหน้าที่วิ่งเปิดสัญญาณไฟไปตามท้องถนน เพราะสัญญาณไฟจากไซเรนจะช่วยยับยั้งชั่งใจผู้ที่คิดจะกระทำผิดให้หยุดพฤติกรรมในลักษณะที่จะก่อเหตุลงได้ นอกจากนี้ยังมีการตั้งจุดตรวจ เพื่อคอยตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ทั้งยาเสพติด อาวุธปืน และสิ่งของผิดกฎหมายต่างๆ  ทั้งนี้การออกปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละครั้งจะมีการแจ้งจำนวนกำลังพล จำนวนรถ รวมถึงสถานที่จะออกปฏิบัติ เพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบทุกขั้นตอน พร้อมลงบันทึกไว้เป็นเอกสาร ที่สำคัญเวลาออกปฏิบัติหน้าที่แต่ละครั้งจะต้องสวมเครื่องแบบตามที่กำหนด เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่

               ขณะที่ นายมณเฑียร  อ่อนสกุล นายกสมาคมวีอาร์กู้ภัยจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า หลังจากได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเรียกลูกข่ายทั้งรถกู้ภัย รถพยาบาล มาร่วมประชุม ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกนายล้วนเต็มใจในการปฏิบัติหน้า เพื่อช่วยเหลือสังคม ทั้งนี้ทุกๆ คืนได้ออกปฏิบัติงานทุกวัน พร้อมทั้งมีการแบ่งสายปฏิบัติงานกันอย่างชัดเจน โดยหลังรับแจ้งเหตุก็จะแจ้งเข้าศูนย์วิทยุของจุดนั้นๆ ก่อนที่เจ้าหน้าที่วิทยุของจุดจะประสานเข้าไปยังศูนย์วิทยุใหญ่ของสมาคม เพื่อแจ้งรายละเอียดในการปฏิบัติหน้าที่