คอลัมนิสต์

นายทุนเช่าที่ดิน99ปี?

นายทุนเช่าที่ดิน99ปี?

02 ก.พ. 2559

นายทุนเช่าที่ดิน99ปี? : กระดานความคิด โดยบางนา บางปะกง

           “เช่าที่ดิน 99 ปี” เรื่องนี้กลับมาร้อนแรงในสื่อโซเชียลได้อย่างไร?

           ประเด็นร้อน น่าจะเริ่มจาก สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งให้กระทรวงการคลัง กรมธนารักษ์ เร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อยุติการแก้ไขกฎหมายเช่าที่ดินได้ยาว 99 ปี เนื่องจากระยะเวลาการเช่า 50 ปี ยังเป็นปัญหาอุปสรรคต่อการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ไม่จูงใจการลงทุนขนาดใหญ่ที่มีระยะเวลาการคืนทุนที่ยาวนาน ส่งผลให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศไม่กล้าตัดสินใจลงทุน

           หากแก้สัญญาให้นักลงทุนเข้ามาบริหารดูแลโครงการถึง 99 ปี จะจูงใจนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น

           ก่อนหน้านี้กรมธนารักษ์ได้เสนอคณะรัฐมนตรี แก้ไข พ.ร.บ.การเช่าอสังหาริมทรัพย์จาก 50 ปี เป็น 99 ปี โดยให้เหตุผลความจำเป็นว่า ให้ไปตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือ ซูเปอร์บอร์ด ที่จะพัฒนาพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยให้ รฟท.โอนที่ดินมาให้กรมธนารักษ์เพื่อนำมาบริหารให้เอกชนเข้ามาทำประโยชน์เป็นระยะเวลา 99 ปี
          
           ท่าทีของ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล แบ่งได้ออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรก ตอนเรื่องเช่าที่ดิน 99 ปี ตกเป็นข่าวใหม่ๆ

           “สรรเสริญ” แจกแจงว่า กฎหมายนี้ริเริ่มโดยส่วนราชการ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจ ทำงานร่วมกันหลายหน่วยงาน ที่เห็นว่าควรปรับแก้ไขให้เป็นสากล ส่วนการแก้กฎหมายให้เช่าที่ดิน 99 ปีนั้น ก็เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศ

           ช่วงที่สอง มีเสียงวิจารณ์มากขึ้น “สรรเสริญ” ก็ต้องมาแถลงอีกรอบว่า กรณีกระแสข่าวรัฐบาลจะเอาที่ดินของรัฐไปให้เอกชนและนักธุรกิจต่างชาติเช่า เป็นเวลา 99 ปี รัฐบาลยังไม่พูดคุยในเรื่องนี้กันเลย และยังไม่ได้กำหนดนโยบายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว

           ข่าวที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากกรณีที่การรถไฟแห่งประเทศไทยจะให้กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เช่าที่ที่มักกะสันเพื่อเอาไปพัฒนา เป็นการบริหารสินทรัพย์ แต่กระทรวงการคลังเห็นว่า การให้เช่าที่ดินในระยะเวลา 50 ปี ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน อาจจะต้องมีระยะเวลาที่ยาวกว่านั้น แต่ด้วยข้อกฎหมายกำหนดระยะเวลาการเช่าสูงสุดไว้แค่ 50 ปี จึงมีการเสนอแก้ไขกฎหมาย ทั้งหมดนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับต่างชาติเลย 000

           อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เคยออกมาชุมนุมต้านระบอบทักษิณยังระแวงแคลงใจในเรื่องนี้อยู่ เนื่องจากการผลักดันให้แก้ไขกฎหมายเช่าที่ดินให้เป็น 99 ปี เคยเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2547

           ยุครุ่งเรืองของพรรคไทยรักไทย รัฐบาลทักษิณได้เสนอร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษ ในมาตรา 26 กำหนดให้ต่างชาติเช่าที่ดินได้ไม่ต่ำกว่า 50 ปี แต่ไม่เกิน 99 ปี จากเดิม 30 ปี แต่ไม่เกิน 50 ปี

           มาตรา 27 กำหนดให้การให้เช่าหรือเช่าช่วงที่ดินเกิน 100 ไร่ ได้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมที่ดิน และเงื่อนไขสัญญาจะต้องให้เช่าช่วงได้

           มาตรา 78 กำหนดให้ทรัพย์สินของเศรษฐกิจพิเศษไม่อยู่ในความรับผิดชอบแห่งการบังคับคดี ยึดทรัพย์ไม่ได้ หรือ มาตรา 99 ที่กำหนดว่า ถ้าคนไทยเข้าไปเขตเช่าของต่างชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต กำหนดโทษให้จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท

           พลันที่มีข่าวดังกล่าว นักการเมืองฝ่ายค้าน เอ็นจีโอ และนักวิชาการ ดาหน้ากันออกมาคัดค้านอย่างหนัก บ้างก็เกรงว่าจะเป็นการยกที่ดินให้ต่างชาติครอบครอง

           สุดท้าย รัฐบาลทักษิณก็ต้องถอย เพราะไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็น “รัฐบาลขายชาติ”

           สำหรับรัฐบาลประยุทธ์ เข้าใจว่า มันมาจากโครงการพัฒนาที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ภาครัฐมองว่า เดิมกำหนดการเช่าที่ดินไว้ไม่เกิน 50 ปีนั้น เป็นอุปสรรค คือไม่สร้างแรงจูงใจให้นักลงทุน ทั้งไทยและต่างประเทศเข้ามาลงทุนพัฒนาที่ดินในเชิงเศรษฐกิจผ่านโครงการขนาดใหญ่

           เมื่อรองนายกรัฐมนตรีพูดไม่เคลียร์ โฆษกรัฐบาลอธิบายไม่ชัดในตอนแรก กระแสต้านการเช่าที่ดิน 99 ปี จึงกระหึ่มในโซเชียลมีเดีย

           กลุ่มที่เคยต้านระบอบทักษิณ ก็ออกมาโจมตีทำนองว่า “ทักษิณคิด ประยุทธ์ทำ” หรือไม่ก็วิจารณ์ว่า รัฐบาลทหารคิดแบบเดียวกับทักษิณ

           จริงๆ แล้ว การแก้ไขกฎหมายดังกล่าว หากทำกันจริง ซึ่งคงไม่ยากเพราะมีอำนาจพิเศษในการจัดการเรื่องต่างๆ

           บางคนเสนอว่า การแก้ไขกฎหมายให้สามารถเช่าที่ดินได้ถึง 99 ปี เพียงอย่างเดียว โดยไม่มีมาตรการป้องกันใดๆ ก็อาจเป็นการยกแผ่นดินไทยให้ต่างชาติ

           ถ้านำเอาทฤษฎีเศรษฐศาสตร์การเมืองมาจับในเรื่องนี้ ก็เข้าใจได้ถึงความเป็น “รัฐราชการ” กับธรรมชาติของกลุ่มทุน

           ดังที่เคยเขียนไว้ในคอลัมน์นี้ บ้านเราเมืองเรากำลังอยู่ในสถานการณ์ “ประชารัฐ” คือการเป็นพันธมิตรของ “ปืน” กับ “ทุนใหญ่”