
'คณะผู้ก่อการ'เปลี่ยนแปลงแห่งที่ราบสูง
'คณะผู้ก่อการ'เปลี่ยนแปลงแห่งที่ราบสูง : กระดานความคิด โดยบางนา บางปะกง
ปลายปีนี้ นิตยสาร “ทางอีศาน” สื่อทางเลือกที่นำเสนอเรื่องราวความเป็นอีสานหลากหลายมิติ จะยกระดับการทำงานภายใต้องค์กรอย่างเป็นรูปธรรม ในนาม “มูลนิธิทางอีศาน” โดยจะมีการจัดงานบุญฉลองการตั้งมูลนิธิทางอีศาน เพื่อเปิดตัว และบอกกล่าวด้วยกิจกรรมเต็มรูปแบบกัน
เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ปรีดา ข้าวบ่อ นักเขียนและคนทำหนังสือ พยายามปลุกปั้นนิตยสารเล็กๆ ชื่อ “ทางอีศาน” โดยมีคำขวัญว่า “ลึกซึ้งรากเหง้า เข้าใจปัจจุบัน รู้ทันอนาคต”
ผ่านวันเวลาของการเผยแพร่แนวคิดวัฒนธรรม ผ่านสถานการณ์ล้มลุกคลุกคลาน กลุ่มผู้ก่อการนิตยสารเล่มดังกล่าวจึงหยัดยืนได้อย่างมั่นคง จึงมีความคิดที่จะทำเป็นมูลนิธิ อันเป็นความตั้งใจหนึ่งที่ได้พูดคุยกันไว้ตั้งแต่แรกที่ทำนิตยสารทางอีศานแล้ว
มูลนิธิทางอีศาน มีวัตถุประสงค์ดังนี้ หนึ่ง-ดำเนินการผลิตสื่อเพื่อเพิ่มองค์ความรู้และความสุขทุกด้านแก่ประชาชน สอง-จัดกิจกรรมทางวิชาการ ศิลปวัฒนธรรมให้สมบูรณ์ด้วยแก่นสารและมีชีวิต สาม-ร่วมและส่งเสริมบุคคล คณะบุคคลในการประกอบกิจกรรมอันเป็นประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม สี่-ส่งเสริมเยาวชนให้รู้สำนึกในอัตลักษณ์ ชาติพันธุ์ และมีจิตใจเสียสละ
สำหรับผู้ที่ไม่รู้จัก นิตยสารทางอีศาน มาก่อน ขอแนะนำว่า เนื้อหาของนิตยสารเล่มนี้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ฮีตคองสังคม และการเมือง เพื่อรู้ลึกซึ้งถึงรากเหง้า เข้าใจปัจจุบัน รู้ทันอนาคต และเพื่อประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
โดยมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่คนหนุ่มสาว ปัญญาชน อิสรชน ผู้บริหารส่วนราชการ และภาคเอกชน ผู้นำองค์กรปกครองท้องถิ่น กลุ่มก้อนผู้ใฝ่ใจกับปัญหาบ้านเมืองและการสร้างความเป็นธรรมในสังคม คนอีสาน และชมรมชาวอีสานในภูมิภาคต่างๆ และต่างแดน ซึ่งมีส่วนขับเคลื่อนอนาคตอีสานทั้งสิ้น
ดังนั้นโครงสร้างกรรมการบริหารมูลนิธิจึงไม่เหมือนที่แห่งใด เช่น สนั่น ชูสกุล งานนี้มาเป็นกรรมการบริหารดูแลฝ่ายเครือข่ายสัมพันธ์
ดร.ธีรารัตน์ ลีลาเลิศสุระกุล ดูแลฝ่ายศิลปะดนตรีและการแสดงพื้นบ้าน, ต้อง บุตรศรีชา ดูแลฝ่ายอัตลักษณ์ชาติพันธุ์, ยุทธพงศ์ มาตย์วิเศษ ดูแลฝ่ายฮีตคองประเพณี เป็นต้น ซึ่งแต่ละคนล้วนแล้วเป็นผู้เชี่ยวชาญในงานแต่ละด้านทั้งสิ้น
แนวทางกิจกรรม มีทิศทางเฉพาะตัว โดยยึดวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งเป็นหลัก โดยมีกรรมการบริหารแต่ละฝ่ายเป็นกำลังหลักในการประสานเชื่อมโยงไปยังกลุ่มเป้าหมายกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวที่มีสำนึกรักบ้านเกิด และพร้อมที่จะคืนถิ่นฐานค้นหารากเหง้าของตนเอง
นอกจากนี้ยังลงลึกไปถึงเรื่องเศรษฐกิจ, สังคม, ศิลปวัฒนธรรม, ธรรมชาติ, สิ่งแวดล้อม, ประวัติศาสตร์, อัตลักษณ์ ฯลฯ
ผู้ก่อการมูลนิธิทางอีศานพบว่า ภาคอีสานมีปัญหามากมาย โดยเฉพาะปัญหาปากท้องของชาวบ้าน ไม่ว่าปัญหาปากมูล ปัญหาที่ดินทำกินที่ทับซ้อนอุทยานฯ ปัญหาเรื่องเหมืองแร่ ฯลฯ
แต่ปรากฏว่า “เสียง” ชาวบ้านเหล่านั้นยังไม่ดังไปถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาเท่าใดนัก แนวทางของเราคือ เข้าไปทำงานกับกลุ่มเหล่านี้ ซึ่งเขามีกลุ่มที่ทำงานศึกษาปัญหาเหล่านี้อยู่แล้ว มูลนิธิทางอีศานก็จะมีบทบาทด้านการเผยแพร่กิจกรรมให้ “เสียง” ดังขึ้น โดยเราจะไปเรียนรู้จากเขาเพื่อนำมาถ่ายทอดให้สังคมรับรู้มากขึ้น ในแง่การเปลี่ยนแปลงหวังว่า ถ้าคนมีสิทธิมีเสียงชัดเจนแล้ว ปัญหาต่างๆ แก้ไขได้แล้ว ผู้คนจะได้หันมาอ่านมาดูมาเสพงานศิลปะมากขึ้น
จุดหมายปลายทางของคณะผู้ก่อการคือ คนอีสานและทุกภูมิภาคต้องเข้มแข็งและมีพลังชีวิต แต่จะทำยังไง ก็ต้องสร้างคนเล็กคนน้อยให้เข้มแข็ง ต่อไป เมื่อเราเข้มแข็งและรู้จักตัวตนของเราแล้ว การก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนก็เป็นไปอย่างเข้มแข็ง เพราะจะไปรู้จักคนอื่นได้เราต้องรู้จักตัวตนและรากเหง้าของเราก่อน
มูลนิธิทางอีศานจะหาคำตอบจากพี่น้องประชาชน คนรุ่นใหม่ที่กลับไปทำงานในบ้านเกิด เราก็จะไปร่วมเรียนรู้แล้วนำมาเผยแพร่ คำถามหนึ่งคือ แล้วทางอีศานนำความรู้มาจากไหนกัน
คำตอบคือ หนึ่ง-จากคนเฒ่าคนแก่ปราชญ์ชาวบ้าน สอง-นักวิชาการรุ่นใหม่ ที่เราย่อยข้อมูลที่เป็นประโยชน์แล้วนำมาเสนอ มูลนิธิไม่หยุดนิ่ง แต่กวาดสายตาดูสถานการณ์ความเป็นไปของสังคมแล้วลงภาคสนามศึกษาด้วยตนเอง เพราะเราทำงานอย่างนี้มาทั้งชีวิต
ฉะนั้นผู้ใดสนใจจะไปร่วมบุญฉลองสร้างตั้ง “มูลนิธิทางอีศาน” วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม 2558 ณ ไร่ธารเกษม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โปรดติดเลขานุการมูลนิธิ โทร.08-6388-9095
เกิดเป็นคน ทุกคนย่อมมีรากเหง้า คณะผู้ก่อการ “ทางอีศาน” จึงพร้อมแล้วที่จะนำคนบ้านเฮาไปแผ้วถางทางสายใหม่ ไปสร้างแปงประเทศไทย