
ท่าทีกิริยาที่ตำรวจจราจรไม่ควรทำ
เสียความรู้สึกเรื่องตำรวจจราจร(ตอนสุดท้าย)ท่าทีกิริยาที่ตำรวจจราจรไม่ควรทำ : โลกตำรวจ โดยปนัดดา ชำนาญสุข
“โดนด่าจนทนไม่ไหว” รองผู้กำกับการสถานีตำรวจที่มีหน้าที่รับผิดชอบงานจราจรในจังหวัดแห่งหนึ่ง เริ่มต้นอธิบายที่มาของการตอบโต้ต่อการตำหนิ เพ่งโทษตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณสี่แยกแห่งหนึ่งซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า นานแรมปีด้วยวิธีของตำรวจบ้านนอก จนๆ
ตำรวจผู้ปฏิบัติใช้วิธีปฏิบัติหลักที่นิยมทำกัน คือ อดทนต่อความเจ็บใจ (จากการถูกด่า) เอาหูทวนลม และระบายออกผ่านการแสดงกิริยา ท่าทาง บุคลิกภาพที่ชวนให้ตีความหมายว่า ตำรวจแสดงท่าทีกิริยาที่ไม่สุภาพต่อประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่
สัญญาณไฟจราจรเสีย จนเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเพราะความเสี่ยงและความไม่สะดวก
“ทำไมไม่มีตำรวจจราจรมายืนโบกรถ? ปล่อยให้รถชนกัน ปาดกันไปปาดกันมาอยู่อย่างนี้ได้ยังไง?” นี่คือคำถามยอดฮิต เป็นข้อสงสัยที่เจืออารมณ์ไม่พอใจ
“ไม่เคยเห็นตำรวจเข้ามาในชุมชน เขาอยู่แต่ร้านทอง ร้านเซเว่น เขาไม่อยู่หรอกกับชาวบ้านจนๆ” เสียงของชาวบ้านที่เรียกหาตำรวจสายป้องกันปราบปรามที่ไม่แตกต่างจากผู้ใช้รถใช้ถนนเรียกหาตำรวจจราจรไปดูแลความสะดวกและความปลอดภัยเช่นกัน
จะมีใครสักกี่คนที่รู้ว่า ตำรวจกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งในแต่ละสถานีตำรวจจะต้องทำหน้าที่ทั้งในบทบาทของการป้องกันปราบปรามและในบทบาทของงานจราจรด้วย รวมถึงต้องทำงานธุรการจำนวนมากที่ถูกสั่งมาจากหน่วยเหนือภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทำตามคำสั่งที่หน่วยเหนือได้รับการร้องขอจากหน่วยงานนอกหน่วย ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข (กระทรวงที่ผู้ปฏิบัติงานไม่จำเป็นต้องควักเงินส่วนตัวในการทำงานมีระบบการบริหารจัดการทรัพยากรที่พอเหมาะพอสม และบางหน่วยอาจจจะเรียกได้ว่า เกินพอ?) มหาดไทย (ซึ่งรวมองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น) และ กระทรวงคมนาคม (กระทรวงที่ใครๆ ก็อยากเป็นเจ้ากระทรวง? เพราะอะไร?)
บ่อยครั้งที่ตำรวจไพร่พลคนทำงานตัวเล็กๆ ตั้งคำถามว่า “ทำไมเขาไม่ให้คนของเขาทำงานเหล่านี้ หรืองานฝากเหล่านี้มีการจัดสรรทรัพยากรในการทำงานมาให้ด้วยหรือไม่ ในเมื่อใครๆ ก็รู้ว่ากระทรวงต่างๆ เหล่านั้น “ดูแลทุกข์สุข คนของเขาดีกว่าองค์กรตำรวจมากมาย จนน่าอิจฉา” ภาระงานมากมายที่เกินหน้าที่ส่งผลให้งานในหน้าที่บกพร่อง"
ในที่สุด ป้ายที่ลงทุนด้วยเงินส่วนตัวถูกนำไปใช้ในการติดตั้งตรงสัญญาณไฟจราจรทุกจุดที่ใช้การไม่ได้มานานแรมปี โดยมีข้อความว่า
“สัญญาณไฟจราจรจุดนี้รับผิดชอบโดย(ระบุชื่อหน่วยงาน)” นายตำรวจอธิบายว่า “ประชาชนเขาจะได้ด่าถูกตัวเสียที ไม่งั้นเขาก็คิดว่าเป็นความบกพร่องของตำรวจ เพราะเขาเห็นแต่ตำรวจเท่านั้นที่อยู่บนถนน”
หากโครงสร้างและระบบที่ก่อให้เกิดปัญหาการขับขี่ยังคงดำรงอยู่เช่นนี้ ต่อให้ตำรวจจราจรบังคับใช้กฎหมายจนคนเกลียดทั่วเมืองก็ไม่มีวันลดอุบัติเหตุทางถนน หรือเพิ่มความสะดวกในการใช้รถใช้ถนนได้สำเร็จ
ความไม่มีประสิทธิภาพในการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานนอกสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น เป็นปัญหาสำคัญที่นำไปสู่การไม่บรรลุผลสำเร็จอย่างแท้จริงในการบริหารจัดการจราจร
อย่าไปเชื่อเลยว่า หน่วยงานใด องค์กรใด แก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนและการจราจรได้สำเร็จ บรรลุผล
ตัวเลขก็เป็นแค่เพียง ความจริงที่ถูกสร้างขึ้นเท่านั้น!!!!