คอลัมนิสต์

จารึกไว้ในหนังหมา

จารึกไว้ในหนังหมา

18 ก.ย. 2558

จารึกไว้ในหนังหมา : โดยวิธีของเราเอง โดยไพฑูรย์ ธัญญา

             “ผู้ใดกระทำบาปไส้ เทพยดานั้นก็ตราบาญชีลงในแผ่นหนังหมา แลเอาไว้แห่งหนึ่ง"

             ถ้าใครเคยอ่านวรรณคดีไทยเรื่อง “ไตรภูมิพระร่วง” หรือ “เตภูมิกถา” วรรณคดีเอกสมัยสุโขทัย เชื่อแน่ว่า คงได้เจอข้อความข้างต้นนี้บ้าง นี่คือข้อความที่กล่าวไว้ในตอนที่ชื่อว่า “ปฐมกัณฑ์ นรกภูมิ” หรือดินแดนแห่งนรก กล่าวถึงหน้าที่ของพระยายมราชผู้เป็นใหญ่ในดินแดนแห่งนี้ ว่าคอยทำบัญชีจารึกชื่อของมนุษย์ไว้อย่างละเอียดไม่รอดพ้นสายตา คนใดประกอบกุศลกรรมก็จะได้รับการจารึกชื่อในบัญชีแผ่นทองคำ ส่วนผู้ที่ทำบาปกรรมทั้งหลายก็จะถูกบันทึกไว้ในบัญชีหนังหมา ไปเกิดในนรกภูมิชดใช้ผลกรรมที่ทำเอาไว้อย่างสาสม คำว่า “จารึกไว้ในหนังหมา” ที่เป็นสำนวนก็มีที่มาจากนี้เอง

             เราไม่เคยคิดว่า การจารึกไว้ในหนังหมามันจะมีอยู่จริงในสังคม และคนที่ก่อกรรมทำชั่ว โดยเฉพาะพวกโกงกินคอร์รัปชั่นก็ไม่เคยได้รับการจดจารบันทึกชื่อเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ หลายคนอาจท้อแท้สิ้นหวังด้วยซ้ำไปที่จะเห็นคนพวกนี้ได้รับโทษทัณฑ์ ในทางตรงข้ามกลับคิดว่า พวกที่ทุจริตและฉ้อฉลเหล่านี้กลับมีฐานะสูงขึ้นทั้งหน้าที่การงานในสังคมและทรัพย์สินเงินทอง หนักเข้าก็ไปถึงขั้นทำให้คนดีๆ พากันท้อแท้ไปตามๆ กัน

             แต่ตอนนี้ใครที่เคยท้อแท้สิ้นหวังในเรื่องนี้ น่าจะดีใจและมีความหวังได้แล้วว่า ขณะที่มีการโกงกิน คอร์รัปชั่นกันอย่างขนาดใหญ่ในสังคมไทย จนถึงขั้นที่การทุจริตคอร์รัปชั่นถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาในสังคมไปแล้วนั้น ก็ยังมีกลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่งที่เฝ้ามองและติดตามปัญหานี้อย่างกังวล จนกระทั่งได้รวมตัวกันขึ้นมาจัดตั้งเป็นองค์กรต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ภายใต้การนำของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยร่วมกับองค์กรเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนจำนวนหลายสิบองค์กร โดยมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย)” โดยมีเป้าหมายสำคัญตามชื่อขององค์กรนั่นเอง

             ชื่อขององค์กรก็บอกชัดแจ้งอยู่แล้วว่าตั้งขึ้นมาเพื่อจะทำอะไร เมื่อลองเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์กรนี้ ก็ยิ่งทำให้เห็นเจตนารมณ์์อันกล้าหาญในการที่จะช่วยกันป้องกันและขจัดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นที่เป็นเสมือนเชื้อมะเร็งร้ายที่แผ่ลามไปทั้งสังคมในทุกระดับชั้น โดยเฉพาะในหน่วยงานของราชการให้หมดสิ้นไป พวกเขามีแผนงานและภารกิจที่ต้องทำมากมาย อาทิ การเสนอ เอกสารแผนแม่บท ปฏิรูปการป้องกันปราบปรามคอร์รัปชั่น...อย่างเห็นผลและยั่งยืน ให้สังคมได้พิจารณา เพื่อป้องปรามและแก้ไขการโกงกินอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ โดยนำเสนอแนวทางการปฏิรูป 5 แนวทาง คือ 1.การปฏิรูปด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม 2.การปฏิรูปด้านการสร้างการมีส่วนร่วมกับภาคประชาชนและสังคม 3.การปฏิรูปด้านการรณรงค์คุณธรรม จริยธรรมและการต่อต้านคอร์รัปชั่น 4.การปฏิรูปด้านมาตรการเรื่องความโปร่งใสฯ และ 5.การปฏิรูปด้านการสร้างความเข้มแข็งหน่วยงานต่อต้านคอร์รัปชั่นภาครัฐ ซึ่งเมื่อดูแล้วจะเห็นว่า เป็นการวางแผนปฏิรูปที่ดำเนินการอย่างครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำเลยก็ว่าได้

             แต่สิ่งที่ฮือฮาที่สุด และเปรียบเสมือนกิจกรรมในการเปิดตัวขององค์กรนี้ให้สาธารณะได้รับรู้ก็คือ การจัดกิจกรรมในวันต่อต้านคอร์รัปชั่นแห่งชาติ 2558 “Active Citizen…ปลุกสำนึกไทย ต้านภัยคอร์รัปชั่น” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา

             เหตุที่บอกว่าฮือฮามากก็เพราะในงานนี้ได้มีการเปิดตัว "พิพิธภัณฑ์กลโกงชาติ” ซึ่งจัดเป็นพิพิธภัณฑ์รวบรวมข้อมูลหลักฐานและเรื่องราวต่างๆ มาแสดงให้ประชาชนได้ดู เช่นเดียวกับหลักการจัดทำพิพิธภัณฑ์ทั่วไป แต่สิ่งที่นำมาแสดงให้ดูกันในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือข้อมูลแห่งการโกงกินระดับชาติที่ถูกนำมาตีแผ่เปิดโปง หลังคดีความเหล่านี้ได้ผ่านกระบวนการทางยุติธรรมตัดสินมาแล้ว มีการจัดลำดับความเลวร้ายของการโกงให้เห็นกันจะจะ พร้อมกับมีประติมากรรมกลโกงชาตินำมาแสดงประกอบด้วย ชนิดที่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นรูปแทนคนโกงคนใดบ้าง

             การจัดทำพิพิธภัณฑ์กลโกงแห่งชาติขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ต้องบอกได้เลยว่า นี่คือ การทำบัญชีจารึกไว้ในหนังหมาแบบที่พระยายมราชได้กระทำมาก่อนในเมืองนรก เป็นการจารึกชื่อคนชั่วให้สังคมได้ประจักษ์ โดยการรวบรวมคดีความที่เกี่ยวกับการโกงชาติ พร้อมรายละเอียดความเสียหายคิดเป็นเงินมหาศาลออกมาแสดงให้ดูกันอย่างไม่เกรงใจใคร แน่นอน ในเมื่อมันถูกจัดเก็บและแสดงในรูปพิพิธภัณฑ์ ก็คงจะอยู่อีกต่อไปยาวนาน กลายเป็นประวัติศาสตร์และตำนานการโกงชาติ ที่ถูกนำมา “ประจาน” ไว้ให้เยาวชนคนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ ถึงความเลวร้ายของกระบวนการบ่อนทำลายชาติที่ร้ายแรงที่สุด

             มันเป็นยาแรง และสุ่มเสี่ยงต่อต้านละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลได้เหมือนกัน แต่สำหรับคนโกงชาติ โกงแผ่นดิน ประจานกันแค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ