
เจ้าพระยาเรือด่วนและบ้านท้องคุ้ง
เจ้าพระยาเรือด่วนและบ้านท้องคุ้ง : มนุษย์สองหน้า โดยแคน สาลิกา
“พี่พบเนื้อนวล มานั่งเรือด่วนสายบ้านแพน เราต่างรักกันเหมือนแฟน เมื่อเรือด่วนแล่นถึงเมืองปทุม เรือด่วนวิ่งไป เหมือนหัวใจพี่ตกหลุม พี่หลงรักแม่เนื้อนุ่ม แม่ค้าสาวชาวบ้านแพน”
มิตรรักแฟนเพลงคงคุ้นหูกับบทเพลง “แม่ค้าตาคม” จากต้นฉบับเสียงร้องของ ศรคีรี ศรีประจวบ ซึ่งเป็นศิษย์คนหนึ่งของ “คีตกวีลูกทุ่ง” ผู้ยิ่งใหญ่ “ไพบูลย์ บุตรขัน”
ว่ากันว่า ครูไพบูลย์เขียนเพลงแม่ค้าตาคม โดยแรงบันดาลใจจากการเห็น “เรือด่วนมิตรบ้านแพน” ที่แล่นผ่านหน้าบ้านทุกวัน จากบ้านแพน อยุธยาถึงท่าเตียน พระนคร
บ้านเกิดของครูไพบูลย์ บุตรขัน นั้นอยู่ที่บ้านท้องคุ้ง ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี และเป็นชุมชนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงจุดนั้น เป็นโค้งน้ำกว้าง สมชื่อว่าบ้านท้องคุ้ง ตั้งแต่เกิดมา ครูไพบูลย์ก็เห็นเรือด่วนมิตรบ้านแพน วิ่งรับส่งผู้คน และสินค้า จากท่าเตียน-บ้านแพน ทุกวัน
คีตกวีลูกทุ่งจากโลกนี้ไปนานถึง 43 ปีแล้ว เมื่อวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา สุริยะ บุตรขัน ในฐานะหลานชายของครูไพบูลย์ ได้จัดกิจกรรมทำบุญล่องเรือชม “บ้านคีตกวีลูกทุ่งไทย ครูไพบูลย์ บุตรขัน” ณ วัดสำแล อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
ต้องขอขอบคุณ “สุริยะ” ทายาทของเทิด หรือ เทอด บุตรขัน น้องชายคนรองครูไพบูลย์ ได้เป็นแม่งานปรับปรุงซ่อมแซมบ้านท้องคุ้ง ที่ครูไพบูลย์เกิดและโต ใช้เป็นที่เก็บข้าวของโดยเฉพาะแผ่นเสียง เนื้อเพลง เครื่องดนตรี รูปภาพ รางวัล ฯลฯ จนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เพลงมีชีวิต ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งนับวันจะมีคนไปเยี่ยมเยียนมากขึ้นเรื่อยๆ
“สุริยะ” เพียรพยายามก่อรูปก่อร่างสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มานานนับสิบปี โดยเริ่มจากการจัดงานทุกปีที่วัดสำแล และนายห้างวรชัย ธรรมสังคีติ เจ้าของห้างเมโทร ได้สนับสนุนเงินทุนในการซ่อมแซมบ้านที่มีการเปลี่ยนเสาบ้าน พื้นฝาบ้านใหม่ทั้งหมด เพราะของเก่าผุพังไปตามกาลเวลา นอกจากนั้นยังมีข้าวของเครื่องใช้ สมุดเขียนเพลงซึ่งเป็นลายมือของครูทั้งหมดมาแสดง
รวมถึงการจัดทำ “หุ่นขี้ผึ้งครูไพบูลย์” ในท่านั่งเขียนหนังสือ ซึ่งหุ่นต้นแบบจัดสร้างจากโรงหล่อปฏิมาพรเลิศ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
ภายในบ้านครูไพบูลย์ มีการจัดวางสิ่งของต่างๆ ไว้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะภาพที่ติดอยู่ในห้องด้านหน้าบ้าน เป็นภาพครูไพบูลย์ถ่ายกับพี่น้อง ซึ่งส่วนใหญ่เสียชีวิตไปหมดแล้ว
มาถึงวันนี้ หลานและเหลนของครูไพบูลย์ บุตรขัน ได้ทำให้บ้านไม้ยกพื้น ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดบทเพลงอันแสนไพเราะมาแล้วมากมาย กลายเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับเพลงลูกทุ่งไทย
ในอนาคตทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านท้องคุ้ง ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้วางแผนจัดเส้นทางการเรียนรู้ภายในจังหวัด ด้วยการสร้างพิพิธภัณฑ์อีกแห่งไว้ที่วัดสำแล เชื่อมโยงการเดินทางมายังบ้านพิพิธภัณฑ์ริมน้ำเจ้าพระยา
สรุปว่าโครงการบ้านพิพิธภัณฑ์ และหุ่นขี้ผึ้งครูไพบูลย์ บุตรขัน เป็นความมุ่งมั่นของหลานและเหลนครูไพบูลย์ กับนายห้างเมโทร จวบจนถึงปัจจุบัน สภาวัฒนธรรมตำบลเชียงรากใหญ่ และสำนักงานสภาวัฒนธรรม จ.ปทุมธานี ได้มาช่วยกันทำงาน โดยทางวัดสำแล ได้มอบที่ดินติดแม่น้ำให้สร้างพิพิธภัณฑ์ เพื่อเป็นแหล่ง ค้นคว้าหาข้อมูลและรำลึกถึงผลงานของคีตกวีลูกทุ่งไทย
อยากแนะนำให้มิตรรักนักเพลงได้เข้าชมแฟนเพจ “ไพบูลย์ บุตรขัน” ที่เป็นแหล่งเผยแพร่ข่าวจากบ้านครูไพบูลย์ และหากมีเวลาขอเชิญชวนไปเยือนโครงการสร้างพิพิธภัณฑ์ และหุ่นขี้ผึ้งครูไพบูลย์ ณ บ้านท้องคุ้ง เมืองปทุมธานี
บ้านไม้ยกพื้นริมน้ำหลังนั้น จะบอกเล่าประวัติและผลงานของครูไพบูลย์ บุตรขัน อันเป็นต้นแบบเพลงลูกทุ่งพันธุ์แท้ ดังนั้น การเก็บรักษาบ้านเก่าไว้ ก็เหมือนการเก็บภาพความทรงจำในการทำงานของคีตกวีลูกทุ่งไทยเอาไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษา