คอลัมนิสต์

‘บูรพาพยัคฆ์’กับการเมืองไทย

‘บูรพาพยัคฆ์’กับการเมืองไทย

01 ก.ย. 2558

‘บูรพาพยัคฆ์’กับการเมืองไทย : กระดานความคิด โดยบางนา บางปะกง

           สื่อมวลชนอาจนับเอา พล.อ.ธีรชัย นาควานิช เป็นนายทหารคนที่ 5 ซึ่งเติบโตมาจาก “กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์” ที่ได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก คนที่ 39

           โดยก่อนหน้านั้น มีแม่ทัพบก ที่มาจากภาคพื้นบูรพาแล้ว 4 คน คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร

           ในวัยหนุ่ม นายทหารเหล่านี้ล้วนผ่านสมรภูมิรบแห่งยุคสงครามเย็นมาแล้วทั้งสิ้น

           หากเอ่ยถึงยุทธการเลือดเดือด “สมรภูมิเขาพนมปะ” ปี 2525 ก็ต้องนึกเห็นวีรกรรมของทหารเสือราชินี ภายใต้การนำของ “อนุพงษ์-ประยุทธ์-อุดมเดช” แห่งกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ค่ายนวมินทร์ ชลบุรี

           ย้อนกลับไปปี 2523 “สมรภูมิโนนหมากมุ่น” อันกระเดื่องเดช ชาวไทยต้องจดจำวีรกรรมของ “ผู้การประจักษ์” และนายทหารหนุ่มชื่อ “ธีรชัย” แห่งค่ายจักรพงษ์

           ช่วงนั้น ร.ท.ธีรชัย นาควานิช เพิ่งเข้าประจำการที่กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 พัน.2 รอ.) โดยมี พ.ท.ประภาส พูนขำ เป็นผู้บังคับกองพัน และ พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร เป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 รอ.) ค่ายจักรพงษ์ ปราจีนบุรี

           ปี 2522 ไฟสงครามชายแดนลุกโชน เมื่อทหารเวียดนามเรือนแสนยึดครองกัมพูชา โดยหนุนรัฐบาลเฮงสัมริน บุกเข้าถล่มฐานทหารเขมรเสรี เขมรสีหนุ และเขมรแดงตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยบางครั้งก็รุกล้ำเข้ามาในดินแดนไทย

           รุ่งสางวันที่ 23 มิถุนายน 2523 เวียดนามส่งทหาร 2 กองร้อย เข้ายึดบ้านโนนหมากมุ่น อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ทหารไทยที่ตั้งค่ายอยู่ไม่ห่างจากหมู่บ้านส่งกำลัง 1 หมวดเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน แต่ระหว่างทางโดนซุ่มโจมตีทหารไทยเสียชีวิต 18 นาย และถูกจับเป็นเชลย 2 นาย

           “พ.อ.ประจักษ์” ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังเฉพาะกิจ ได้สั่งทหาร ร.2 รอ. ลุยแหลกเข้าไปขับไล่ผู้รุกราน จนสามารถยึดบ้านโนนหมากมุ่นคืนมาได้สำเร็จ ทหารเวียดนามเสียชีวิต 30 นาย

           สมรภูมิเลือดเดือด ณ บ้านโนนหมากมุ่นคราวนั้น ร.ท.ธีรชัย นาควานิช ผู้บังคับกองร้อยได้นำกำลังบุก “ชิงศพทหารไทย” และนำทหารไทยที่ตกเป็นเชลยกลับคืนมาได้ วีรกรรมศึกโนนหมากมุ่น ส่งผลให้ร.ท.ธีรชัย ได้ครองยศ ร.อ. และชื่อ “ผู้การประจักษ์” เป็นที่น่าเกรงขามของอริราชศัตรู

           วันที่ 1-3 เมษายน 2524 พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร ได้นำกำลังทหาร 3 กองพันจากค่ายจักรพงษ์ เข้าร่วมก่อการยึดอำนาจร่วมกับ “เพื่อนนายทหารยังเติร์ก” แต่กระทำการไม่สำเร็จ กลายเป็นกบฏ

           กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ จึงมีการเปลี่ยนตัวผู้บังคับกองพันทั้งหมด พ.ต.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 พัน.2 รอ.) ถูกย้ายมาเป็นผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 พัน.2 รอ.) แทน พ.ท. ประภาส พูนขำ ที่ถูกเด้งเพราะนำกำลังเข้าไปยึดอำนาจ

           ร.อ.ธีรชัย ยังเป็นผู้บังคับกองร้อย กองพันเดิม แต่มี “นายใหม่” ชื่อ พ.ต.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คนแถวปราจีนบุรี จึงคุ้นชินกับภาพนายทหารหนุ่ม “หน้านิ่ง” คอยขับรถจี๊ปพา “นายประวิตร” ไปตามสถานที่ต่างๆ

           นี่คือจุดเริ่มต้นของสายสัมพันธ์อันแนบแน่น ระหว่าง “พี่ป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ “น้องหมู” พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ที่แสนจะยาวนาน

           ครั้งที่ “ประวิตร” เป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ (ร.12 รอ.) ค่ายไพรีระย่อเดช สระแก้ว ก็ดึงนักรบคู่บุญชื่อ “ผู้พันหมู” ไปช่วยปราบมาเฟียชายแดน บรรดาขาใหญ่แถวตาพระยา ต่างประจักษ์ในผลงาน “ทีมงานจ่าขาโหด” ของผู้พันหมูเป็นอย่างดี

           บรรดาลูกน้องเก่าของ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ในพื้นที่ปราจีนบุรี และสระแก้ว ต่างให้การยอมรับในความเป็นผู้นำทางทหาร กล้าสู้กล้าเอาชนะ แม้ภายนอกจะดูราว “พยัคฆ์หน้านิ่ง” แต่ในสนามรบก็จัดว่าเป็น “นักรบเลือดเดือด”

           บนเส้นทางเหล็กของ “บิ๊กหมู” พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ตั้งแต่สมรภูมิเลือดโนนหมากมุ่น จนก้าวขึ้นเป็นแม่ทัพบก อาจถูกมองว่า เป็นการสืบต่ออำนาจของ “บูรพาพยัคฆ์” แต่หากมองให้ลึกลงไป พล.อ.ธีรชัย มีความต่างจากพล.อ.อนุพงษ์ พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.อุดมเดช

           ตรงที่พล.อ.ธีรชัย เป็นนายทหารสายบูรพาพันธุ์แท้ คือเกิดจาก ร.2 รอ. ที่มีนาม “บูรพาพยัคฆ์” อยู่ใต้รูปเสือกับดาบ และนี่คือ “บ้านบูรพาพยัคฆ์” ที่มีความหมายต่างจากที่สื่อมวลชนส่วนใหญ่เรียกขาน

           ความขัดแย้งในกัมพูชาตั้งแต่ปี 2518-2532 ได้ส่งผลกระทบต่อแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และเหล่านักรบบูรพาพยัคฆ์ ได้ต่อสู้ขับไล่อริราชศัตรูอย่างดุเดือด เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย

           ดั่งที่กล่าวมาข้างต้น หากเอ่ยถึง “วีรกรรมเขาพนมปะ” กับ “ทหารเสือราชินี” ก็ต้องไม่ลืม “วีรกรรมโนนหมากมุ่น” กับผองนักรบ “บูรพาพยัคฆ์” ที่ห้าวหาญ

           สงครามเย็นจบลงแล้ว แนวชายแดนคืนสู่สันติสุข แต่ “บูรพาพยัคฆ์” ภารกิจไม่สิ้น เมื่อถูกดึงเข้าสู่ “สมรภูมิการเมือง” ตั้งแต่ปี 2549 จวบจนถึงปัจจุบัน

           ต้องบันทึกไว้ว่า พล.อ.ธีรชัย นาควานิช เป็นแม่ทัพบกคนที่สอง ซึ่งมาจากกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ หรือ “บูรพาพยัคฆ์” สืบต่อจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ