
หมวกสี:สัญลักษณ์แห่งเกียรติยศ ศักดิ์ศรี
หมวกสี:สัญลักษณ์แห่งเกียรติยศ ศักดิ์ศรี : โลกตำรวจ โดยผศ.ดร.ปนัดดา ชำนาญสุข
ในค่ายทหารจะมีข้อความเขียนอยู่ตามอาคารต่างๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งโรงนอนของทหารเกณฑ์ ที่ส่วนใหญ่แล้วจะมีเนื้อหาสาระที่ตอกย้ำในเรื่อง “เกียรติ” และ ”ศักดิ์ศรี” เป็นสำคัญ ดังเช่น ทางไปสู่เกียรติศักดิ์ จักประดับดอกไม้หอมยวลชวนจิตไซร้ ไป่มี
เกียรติมีความสำคัญอย่างไร ทำไมในโลกของทหารต้องรักษาเกียรติยศ ศักดิ์ศรีจนกลายเป็นวัฒนธรรมที่เข้มแข็งอย่างมากที่จะไม่กระทำสิ่งใด หรือให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งมากระทำให้เกียรติของทหารต้องเสื่อมเสียไป?
หากในโลกของทหารมีการให้ความสำคัญกับ “เกียรติ” และ ”ศักดิ์ศรี” อย่างมากจริงดังข้อความมากมายที่ปรากฏอยู่ในค่ายทหารและตามที่มีผู้กล่าวขานกันโดยทั่วกันแล้วนั้น
ในโลกของตำรวจมีการให้ความสำคัญกับ “เกียรติ” และ ”ศักดิ์ศรี” เช่นเดียวกับทหารหรือไม่?
“ถ้าหากมีโอกาส ช่วยบอกให้ผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหันมาสนใจนักเรียนนายร้อยตำรวจ หรือโรงเรียนนายร้อยบ้างนะครับ เพราะโรงเรียนนายร้อยทำหน้าที่ในการสร้างผู้นำที่จะออกไปเป็นเหล่าหลักในการปกปักรักษาประเทศชาติ...ช่วยบอกพี่ๆ ผู้ใหญ่ทุกท่านให้หันกลับมาให้ความสำคัญกับน้องๆ นักเรียนนายร้อยบ้างอย่าทิ้งน้อง” เสียงของนายตำรวจรุ่นเล็กฝากบอกพี่ๆ ตำรวจรุ่นใหญ่ด้วยอารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจ
“พวกผมก็แค่น้อยใจพี่ๆ ที่จบไปที่ให้ความสำคัญกับนักเรียนนายร้อยน้อยกว่าที่ควรหากเทียบกับ จปร. (นักเรียนทหารบก) พวกเขาแทบจะไม่ให้ใครมาแตะสถาบันของเขาให้เสียเกียรติ สถาบันของเขาศักดิ์สิทธิ์จริงๆ"
แต่ทำไมโรงเรียนนายร้อยตำรวจจึงได้รับการกระทำทั้งจากคนในองค์กรและคนนอกองค์กรที่แตกต่างอย่างมากเช่นนี้?
พิธีกรรมต่างๆ ที่ถูกผลิตสร้างขึ้นในสถาบันหลักของตำรวจนี้เป็นวิถีวัฒนธรรมและประเพณีในระบบการเรียนการสอนของสถาบันสูงสุดในเหล่าทหารและตำรวจที่ล้วนถูกผูกโยงกับระบบเกียรติศักดิ์แทบทั้งสิ้น
อาจเนื่องมาจากสถาบันเหล่านี้มุ่งหวังผลิตผู้นำที่ต้องมีลักษณะพิเศษมิใช่แต่มีความรู้เท่านั้น หากแต่ต้องมีคุณลักษณะทางร่างกายและจิตใจที่เข้มแข็งอย่างพิเศษด้วยจึงจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่จำต้องปฏิบัติงานอยู่ในภาวะบริบทที่กดดันและตึงเครียดมากที่สุด
เรื่องราวที่มาเบื้องหลังของถ้อยคำน้อยใจที่ฝากถึงพี่ๆ ผู้หลักผู้ใหญ่นั้น เกิดขึ้นจาก “เรื่องเล็กๆ” ในสายตาของพี่ๆ (ตำรวจบางนาย) ไปกระทบ ”ความรู้สึกที่ทำให้สะเทือนเกียรติที่ภาคภูมิใจผ่านประสบการณ์มากมายที่ถูกหล่อหลอมในระหว่างการศึกษาเหล่าเรียน"
"กว่าจะได้มาซึ่งหมวก นรต.มันมีเรื่องราวที่พวกเราทุกคนถือว่าเป็นสิ่งมีเกียรติไม่สมควรเอามาให้คนนอกที่ไม่ได้เคยรับประสบการณ์จนเกิดความรู้สึกเช่นเดียวกับพวกเรานำไปใส่เล่นเป็นแฟชั่น"
“ผมให้เกียรติคนนอกนะครับ แต่บางทีคนนอกก็ควรรู้ถึงสิ่งที่มีความหมายกับพวกผมบ้าง” ถ้อยคำตัดพ้อถึงแม้ว่าจะมีเสียงตั้งคำถามว่า เป็นเพราะคนในมิใช่หรือที่สร้างพิธีการนี้ให้แก่คนนอกที่อาจไม่รู้ที่มาที่ไปและประวัติศาสตร์แห่งการสร้างเกียรติยศผ่านระบบมอบหมวกสีของ นรต.
หมวกที่นายร้อยตำรวจและนายตำรวจหลายๆ นายกล่าวถึงกันอย่างขวัญเสียนี้ คือ หมวกสี นรต.ที่ถูกนำไปประยุกต์ใช้ในการมอบให้ "ผู้เข้าอบรมระยะสั้นๆ” สวมใส่ และมีภาพเผยแพร่ออกไปในลักษณะที่ไม่เหมาะสม
หมวกสีของ นรต.ใช้ประกอบเครื่องแบบชุดศึกษาและชุดลำลองภายใน รร.นรต.มีใช้มายาวนาน จนถือเป็นสัญลักษณ์ของผู้เข้ารับการฝึกศึกษาที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
การสวมหมวกสีมีความเกี่ยวโยงกับระบบการปกครองภายในกลุ่มนักเรียนที่มีระบบการปกครองเพื่อสร้างวินัยและระบบเกียรติศักดิ์ในการบังคับบัญชาระหว่างกัน
กว่าจะได้สวมหมวกสีทุกคนจะได้รับการฝึกและการทดสอบความเข้มแข็งทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างมากจนกระทั่งหมวกสีกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจ
เมื่อศิษย์เก่าเห็นหมวกสีครั้งใด จะหวนระลึกถึงภาพความทรงจำเมื่อครั้งที่ยังรับการฝึกในรั้วสามพรานเสมอ
เรื่องราวความสะเทือนใจจากการกระทำที่กระทบต่อความภาคภูมิใจ เกียรติยศ ศักดิ์ศรี ไม่ว่าจะเป็นคนใด กลุ่มใดก็เป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงเวลาที่สังคมต้องการความสุขและความสงบ
อย่าคิดถึงความสำเร็จและผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นเฉพาะกลุ่มตนจนมองข้ามเรื่องเล็กๆ ที่อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ลึกซึ้งและกินใจจนยากเกินเยียวยา ดังเช่นที่สังคมไทยเคยประสบมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นของการกระทบกับระบบสัญลักษณ์ที่ผูกโยงกับการให้คุณค่าและความหมายทางจิตใจ!!!