คอลัมนิสต์

สทป.เสริมเขี้ยวเล็บกองทัพสู่ผู้นำเทคโนโลยีของอาเซียน

สทป.เสริมเขี้ยวเล็บกองทัพสู่ผู้นำเทคโนโลยีของอาเซียน

30 ก.ค. 2558

สทป.เสริมเขี้ยวเล็บกองทัพ สู่ผู้นำเทคโนโลยีของอาเซียน : ตะลุยกองทัพ โดยทีมข่าวความมั่นคง

              สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) เป็นองค์การมหาชนในกำกับดูแลของกระทรวงกลาโหม มี พล.อ.สมพงศ์ มุกดาสกุล เป็น ผอ.สปท. มีภารกิจในการวิจัยและพัฒนายุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อนำไปสู่ “ผู้นำด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศของภูมิภาคอาเซียน" ภายใต้ยุทธศาสตร์ 15 ปี (พ.ศ.2553-2567) โดยมีความก้าวหน้าสำคัญในปี 2553-2558 คือ

              1.งานวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีจรวด และอาวุธนำวิถี ปี 2554 ได้ส่งมอบต้นแบบระบบจรวดหลายลำกล้องแบบไม่นำวิถี DTI 1 ระยะยิงไกลสุด 180 กม. ให้แก่กองทัพบก เพื่อทดลองใช้งาน

              จากนั้นได้ต่อยอดจากแบบไม่นำวิถีไปสู่ "แบบนำวิถี" รุ่น (DTI 1G) ซึ่งเป็นระบบจรวดหลายลำกล้องระยะไกลสุด 150 กม. ที่มีความแม่นยำสูงมาก นอกจากนั้นยังได้วิจัยระบบจรวดสมรรถนะสูงขนาด 122 มม. ระยะยิงไกลสุดไม่เกิน 40 กม.

              สทป.ได้สาธิตการยิงจรวดสมรรถนะสูงขนาด 122 มม. ในงาน “วันรวมอำนาจการยิงเหล่าทหารปืนใหญ่” เมื่อปลายปี 2557 ณ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จ.ลพบุรี  รวมทั้งได้ก่อสร้างโรงปฏิบัติการวิจัย และพัฒนาจรวด และอาวุธนำวิถี ซึ่งเป็นแห่งแรก และทันสมัยที่สุดในอาเซียน ที่ จ.นครสวรรค์ และลพบุรี

              2.งานวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีระบบยานไร้คนขับ สทป. ให้ความสำคัญเร่งด่วนกับการวิจัย และพัฒนา "ระบบอากาศยานไร้คนขับ (UAS)" ในหลากหลายรูปแบบ เช่น 2.1 ระบบอากาศไร้คนขับแบบปีกนิ่ง (Fixed Wing UAV) มีระยะปฏิบัติการตั้งแต่ 50-150 กม. 2.2 ระบบอากาศยานไร้คนขับแบบขึ้น-ลงทางดิ่ง (VTOL UAV) ใน 2 รูปแบบ ได้แก่ VTOL UAV ระยะปฏิบัติการ 50 กม. ซึ่งวิจัยร่วมกับกองทัพเรือ และภาคเอกชน และ Multi Rotor UAV ที่วิจัยร่วมกับภาคเอกชน

              2.3 ระบบอากาศยานไร้นักบินขนาดเล็ก (Mini UAV) ระยะปฏิบัติการ 10 กม. วิจัยร่วมกับโรงเรียนนายเรืออากาศ โดยส่งมอบต้นแบบขนาดเล็กให้กองทัพบกนำไปใช้สนับสนุนการแก้ไขปัญหาการก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

              สำหรับระบบอากาศยานไร้นักบินอีก 2 ระบบ (Fixed Wing, VTOL/Multi Rotor) จะเริ่มส่งมอบให้กองทัพไปทดสอบ และทดลองใช้งานภายในสิ้นปี 2558

              3.งานวิจัยและพัฒนาด้านระบบอาวุธ และยานรบ โดยร่วมกับภาคเอกชนวิจัย และพัฒนา "ต้นแบบยานเกราะล้อยาง 8x8" เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของกองทัพบก และกองทัพเรือ โดยต้นแบบที่มีมาตรฐานสากลจะแล้วเสร็จในปลายปี 2558 ก่อนจะส่งมอบแบบให้ภาคอุตสาหกรรมไปผลิตตามความต้องการของกองทัพต่อไป

              4.งานวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีระบบจำลองยุทธ์และการฝึกเสมือนจริง สทป. ได้ส่งมอบต้นแบบระบบสนามฝึกยิงปืนเสมือนจริงขั้นต้นให้กองทัพบก และกองทัพอากาศ นำไปทดลองใช้แล้ว และปลายปี 2558 จะส่งมอบต้นแบบที่สมบูรณ์ให้กองทัพนำไปใช้งานต่อไป

              5.งานวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการป้องกันประเทศ ร่วมกับกองบัญชาการกองทัพไทย วิจัยและพัฒนาระบบแสดงภาพการปฏิบัติการร่วม หรือ Common Operation Picture (COP) และส่งมอบให้กองทัพไทยเมื่อปี 2556

              สทป.ยังร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรภาค 4 ส่วนหน้า วิจัยและพัฒนาระบบสารสนเทศแบบรวมศูนย์ และโปรแกรมประยุกต์ (Data Exchange Center) เช่น ด่านอัจฉริยะแบบเคลื่อนที่ เพื่อตรวจสอบยานพาหนะ, บุคคล และระบบติดตามยานพาหนะฝ่ายเรา

              รวมถึงระบบวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสนับสนุนการวางแผนทางยุทธวิธีให้แก่หน่วยเฉพาะกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และส่งมอบต้นแบบขั้นต้นไปให้ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ทดลองใช้แล้วในปีงบประมาณ 2558

              6.ความร่วมมือทางวิชาการด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในระดับอาเซียน เมื่อวันที่ 23-24 เมษายน 2558 สทป.ร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ จัดงาน The First Asian Conference on Defence Technology (ACDT 2015) ช่วยจุดประกายความร่วมมือทางวิชาการด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในอาเซียนได้อย่างเป็นรูปธรรม

              สทป.ยังจัดทำ "บัญชีนวัตกรรมไทยด้านความมั่นคง" เพื่อลดการจัดซื้อจากต่างประเทศ และเน้นการพึ่งพาตนเอง การจัดตั้ง "ศูนย์การมาตรฐานระบบอากาศยานไร้คนขับ" เพื่อต่อยอด/พัฒนา ลดความซ้ำซ้อนด้านงานวิจัย รวมถึงการเป็นผู้นำด้านวิชาการด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศเพื่อก้าวไปสู่ผู้นำด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศของภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง