คอลัมนิสต์

เด็กไลบีเรียจำปาสักและลาวพรีเมียร์ลีก

เด็กไลบีเรียจำปาสักและลาวพรีเมียร์ลีก

30 ก.ค. 2558

เด็กไลบีเรียจำปาสักและลาวพรีเมียร์ลีก : มนุษย์สองหน้า โดยแคน สาริกา

              “ลาวพรีเมียร์ลีก” ลีกฟุตบอลสูงสุดของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพิ่งเริ่ม “ตั้งไข่” ก็เจอปัญหาการค้ามนุษย์ เมื่อสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ ทำรายงานพิเศษเปิดโปงเรื่องการค้ามนุษย์ที่เป็นนักฟุตบอลเด็ก จากแอฟริกาตะวันตก มาค้าแข้งกับสโมสรจำปาสัก ยูไนเต็ด

              ขณะนี้ สหพันธ์บานเตะลาว (สตล.) หรือสหพันธ์ฟุตบอลลาว แถลงว่า ได้รับการประสานมาจากสหพันธ์ฟุตบอลแอฟริกาให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าว ซึ่งทาง สตล.กำลังสอบสวน และรายงานเรื่องนี้ต่อฟีฟ่า

              ลีกฟุตบอลลาวเริ่มต้นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว โดยใช้ชื่อ “ลาวลีกสาย ก” ภายใต้การดูแลของสหพันธ์บานเตะลาว เป็นลักษณะทีมสมัครเล่น โดยมีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระบบ “ฟุตบอลอาชีพ” เมื่อปี 2556

              เนื่องจากสหพันธ์บานเตะลาวเป็นพาร์ทเนอร์รายใหญ่กับ “ฮองอันยาลาย” สโมสรชื่อดังของเวียดนาม จึงได้รับการสนับสนุนจากสโมสรฮองอันยาลาย จัดตั้ง “ลาวพรีเมียร์ลีก” ลีกอาชีพขึ้นมาอย่างเป็นทางการ

              ดังนั้น ในปีแรกของลาวพรีเมียร์ลีก จึงมีทีมลีกที่ได้รับการสนับสนุนจากสโมสรฟุตบอลเวียดนาม 2 ทีม คือ “ฮองอันอัตตะปือ” ที่มีทีมฮองอันยาลาย เป็นพันธมิตร และ “เอสเอชบี จำปาสัก” ที่ได้ทีมเอสเอชดานัง เป็นพี่เลี้ยง

              ลาวพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2556 มีแข่งกัน 8 ทีม เนื่องจากสโมสรฟุตบอลของภาคส่วนราชการติดปัญหาการจัดการฟุตบอลแบบอาชีพ จึงไม่ส่งทีมเข้าแข่งขันอย่างเช่น ทีมกระทรวงป้องกันประเทศ ที่คว้าแชมป์ลีกสาย ก มากที่สุด

              ในปีนั้น สโมสรเอสเอชบี จำปาสัก ที่ซื้อนักเตะดังในลาวและต่างชาติ โดยไม่มีนักเตะท้องถิ่นแม้แต่คนเดียว คว้าแชมป์ไปครอง ถัดมาในฤดูกาล 2557 สโมสรฮองอันอัตตะปือ ทีมเจ้าบุญทุ่มจากเวียดนามก็ได้แชมป์

              สำหรับฤดูกาล 2558 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เมื่อมีทีมเข้าแข่งขัน 11 ทีม และกลุ่มทุนชาวลาว ได้ลงทุนทำทีมฟุตบอลอย่างจริงจัง คือ สโมสรลาวโตโยต้า เอฟซี ที่ได้โตโยต้าเป็นสปอนเซอร์ และ สโมสรล้านช้าง ยูไนเต็ด ที่มีนักธุรกิจรุ่นใหม่ชาวลาว ข้ามฟากมาเป็นพันธมิตรกับสโมสรฟุตบอลไทยในลีกภูมิภาค และเป็นสโมสรแรกที่ทุ่มทุนสร้างสนามเป็นของตัวเองอยู่ที่บ้านหนองไฮ นครหลวงเวียงจันทน์

              ทั้งสองสโมสรมีจุดแข็งคือ การประชาสัมพันธ์ผ่านทางเฟซบุ๊ก เป็นกลยุทธ์ในการสร้างฐานแฟนบอล, มีสปอนเซอร์ และมีการขายของที่ระลึก รวมทั้งมีการทำพันธมิตรเพื่อสร้างอคาเดมี รุ่น 8-14 ปี

              สโมสรฟุตบอลในลาวพรีเมียร์ลีก ส่วนใหญ่จะอยู่ในนครหลวงเวียงจันทน์ อาทิ ลาวโตโยต้า เอฟซี (Lao Toyota), ล้านช้าง ยูไนเต็ด (Lanexang UTD), เอสเอชบี เวียงจันทน์ (SHB Vientiane), ตำรวจลาว หรือ ปกส. (Lao Police), อิสเทิร์นสตาร์ (Eastern Star), ไฟฟ้าลาว (EDL FC), ช้างน้อย ยูไนเต็ด (Young Elephant) และเอซร่า เอฟซี (Ezra FC)

              ส่วนที่อยู่ต่างแขวง มีเพียง 3 ทีม คือ ฮองอันอัตตะปือ (Hoang Anh Attapeu), ไอดีซี จำปาสัก ยูไนเต็ด (IDSEA Champasak) และสะหวัน เอฟซี (Savan FC) แต่ทีมฮองอันอัตตะปือใช้รังเหย้าอยู่ที่สนามกีฬาแห่งชาติ หลัก 16

              ลาวพรีเมียร์ลีกอาจเป็นลีกอาชีพขนาดเล็ก ที่ไม่มีใครสนใจมากนัก หากไม่เกิดเรื่องที่สโมสรไอดีซี จำปาสัก ยูไนเต็ด ถูกสำนักข่าวบีบีซีมาขุดคุ้ยเรื่องการค้ามนุษย์

              จริงๆ แล้ว เมื่อต้นปี 2558 สโมสรไอดีซี จำปาสัก ยูไนเต็ด ของ “หลุย” พอนสะหวัน กิ้วละวง เศรษฐีใหม่ที่มั่งคั่งจากกิจการคอมพิวเตอร์ในนามกลุ่มบริษัทไอดีซี ลงทุนเปิดอคาเดมีฟุตบอล หรือ “ศูนย์พัฒนากีฬาบานเตะเยาวชน ไอดีซีเอเชียและแอฟริกา” โดยร่วมมือกับสมาคมฟุตบอลไลบีเรีย

              “พอนสะหวัน” บอกว่า ถ้าไม่ยกระดับฟุตบอลลาวก็ไม่มีทางสู้เพื่อนบ้านอาเซียนได้ ดังนั้นหลุยจึงคิดเร็วทำเร็ว สร้างอคาเดมีฟุตบอลเด็กขึ้นมา โดยเอาเด็กแอฟริกามาฝึกร่วมกับเด็กลาว เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้และปรับทัศนคติต่อกีฬาฟุตบอลของเด็กลาว

              การคิดเร็วทำเร็วแบบนักธุรกิจรุ่นใหม่ใจถึง ได้สร้างปัญหาให้แก่สโมสรไอดีซี จำปาสัก และอาจส่งผลถึงสหพันธ์บานเตะลาว หากฟีฟ่าตรวจสอบพบว่ามีการค้ามนุษย์จริง ซึ่งลาวพรีเมียร์ลีกย่อมได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน

              หากเป็นเช่นนั้น จะเป็นเรื่องเศร้ามากๆ สำหรับลาวพรีเมียร์ลีก ที่เพิ่งตั้งไข่ ต้องมีอันเป็นไป เพราะความหวังดีที่ไม่รอบคอบของเศรษฐีหนุ่มแห่งลาวใต้