คอลัมนิสต์

สภ.บางระกำเน้นมวลชนจัดโครการ'เยี่ยมบ้านยามเย็น'

สภ.บางระกำเน้นมวลชนจัดโครการ'เยี่ยมบ้านยามเย็น'

27 ก.ค. 2558

สภ.บางระกำเน้นมวลชนจัดโครการ'เยี่ยมบ้านยามเย็น' : สายตรวจระวังภัย โดยอายุทัย นนท์นิติรัตน์

                สภ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เดินหน้าโครงการเยี่ยมบ้านยามเย็น เพื่อปรับทัศนคติของชาวบ้านให้มีความเข้าใจในการทำหน้าที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าถึงประชาชนได้ง่ายขึ้น และลดการเกิดอาชญากรรม โดยเน้นจัดระบบการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นภายในชุมชน ก่อนที่จะมีการดำเนินการทางกฎหมาย
                
                พ.ต.อ.นิวัฒน์ นาคโสมกุล ผกก.สภ.บางระกำ กล่าวว่า ตามนโยบายของพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเข้าถึงประชาชน และสร้างความไว้ใจนั้น สอดคล้องกับทางพล.ต.ท.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 6 ได้มีนโยบาย "stop walk and talk" เพื่อเป็นการพูดคุยและเข้าถึงประชาชนได้ง่ายขึ้น ทำให้ สภ.บางระกำ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ชุมชน หรือย่านชนบท ได้มีแนวคิดจากเดิมที่มีเจ้าหน้าที่สายตรวจออกปฏิบัติหน้าอยู่แล้ว แต่การดำเนินการไม่ได้เข้าไปพบปะพูดคุยกับชาวบ้านเท่าที่ควร จึงได้หันมาจัดทำโครงการ “เยี่ยมบ้านยามเย็น”
    
                สำหรับโครงการเยี่ยมบ้านยามเย็นนี้ ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งโครงการนี้จะให้เจ้าหน้าที่ออกพบปะพูดคุยกับชาวบ้านสัปดาห์ละ 2 ครั้งในช่วงเวลาตั้งแต่ 16.00 น. เป็นต้นไป หรือในช่วงเวลาที่ชาวบ้านสะดวก เน้นการเข้าถึงกลุ่มผู้นำหมู่บ้าน เพื่อที่จะกระจายข้อมูลได้อย่างทั่วถึง โดยจะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นหัวหน้าโรงพัก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อื่นเข้าพบปะชาวบ้านโดยจำนวนของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่ที่จะไป
    
                เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่สายตรวจประจำตำบล ประสานไปยังผู้ใหญ่บ้าน หรือแกนนำชาวบ้าน ในการเข้าไปพบปะพูดคุย  ซึ่งทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ง่ายขึ้น โดยได้มีการพูดคุยถึงประเด็นปัญหาของชาวบ้านที่ได้พบ และชี้แจงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ชาวบ้านได้เข้าใจ รวมถึงได้เน้นย้ำ กรณีที่มีปัญหาภายในชุมชน เช่น ทะเลาะเบาะแว้ง หรืออาชญากรรมที่ไม่เป็นเรื่องใหญ่ ก็จะให้ชุมชนแก้ไขปัญหาในระดับหมู่บ้านเสียก่อน หากไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้ ก็ให้ประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากกรณีดังกล่าว หากปัญหาที่พบเป็นเรื่องเล็กน้อย เมื่อแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ก็จะอยู่ในขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมายทันที จึงอยากให้มีการพูดคุยไกล่เกลี่ยกันเสียก่อน                

                ทั้งนี้ หลังจากที่ได้มีการชี้แจงปัญหาต่างๆ ก็ได้ร่วมรับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งในช่วงนี้ก็จะได้มีการพูดคุยมีความสนิทสนม สามารถเข้าถึงชาวบ้านได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลจากโครงการเยี่ยมบ้านยามเย็นจากเดิมที่ชาวบ้านไม่เข้าใจ ขั้นตอนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ชาวบ้านต้องเข้าไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่อย่างบ่อยครั้ง ซึ่งมีทั้งส่งผลดีและผลกระทบให้แก่ชาวบ้านเอง ผลจากการดำเนินโครงการในระยะเวลาที่ผ่านมาหลายเดือนพบว่า การเข้ามาแจ้งความของชาวบ้านและการเกิดอาชญากรรมในพื้นที่มีจำนวนลดน้อยลง เนื่องจากคนในชุมชนสามารถจัดระบบการจัดการกับปัญหาได้เป็นอย่างดี