คอลัมนิสต์

‘ฝึกร่วมกองทัพไทย’ประจำปี58เหล่าทัพซ้อมแผนป้องกันประเทศ

‘ฝึกร่วมกองทัพไทย’ประจำปี58เหล่าทัพซ้อมแผนป้องกันประเทศ

23 ก.ค. 2558

‘ฝึกร่วมกองทัพไทย’ประจำปี58 เหล่าทัพซ้อมแผนป้องกันประเทศ : ตะลุยกองทัพ ทีมข่าวความมั่นคง

              การฝึกร่วมกองทัพไทย ประจำปี 2558 ที่สนามฝึกเขาแท่นช้าง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ในห้วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2558 มีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการการฝึกด้านยุทธการ, การส่งกำลังบำรุง, ด้านกิจการพลเรือน, การระดมสรรพกำลังเพื่อการทหาร, การพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง, การรักษาความมั่นคงภายใน และการปฏิบัติการร่วมกับส่วนราชการพลเรือน

              พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด คาดหวังว่าการฝึกร่วมกองทัพไทยจะเป็นการเตรียมความพร้อมรบของกองทัพไทยในการป้องกันประเทศด้านตะวันตก โดยใช้แผนนเรศวร และแผนป้องกันภัยทางอากาศ เป็นแนวทางในการจัดทำแผนยุทธการในการฝึก ตลอดจนให้เหล่าทัพได้ทำการทดสอบแผนรองรับ, การควบคุม และอำนวยการยุทธระดับเหล่าทัพ

              ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนป้องกันประเทศของกองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อทดสอบการใช้กำลังของแต่ละเหล่าทัพให้สอดคล้องตามแผนป้องกันประเทศด้านตะวันตก และแผนป้องกันภัยทางอากาศตามที่กำหนดไว้ โดยเน้นการประสานการปฏิบัติระหว่างกองบัญชาการกองทัพไทยกับเหล่าทัพ และเหล่าทัพกับส่วนราชการอื่น โดยมีการฝึกที่สำคัญ ประกอบด้วย

              1.การฝึกปัญหาที่บังคับการ ประกอบด้วย โครงสร้างและการจัดหน่วยเข้ารับการฝึก, กำหนดตารางการปฏิบัติ, การรับ-ส่ง, บงการ, การไหลเวียนเอกสารของหน่วยรับการฝึก หน่วยเหนือ, หน่วยรอง, หน่วยข้างเคียง และหน่วยเกี่ยวข้อง, แผนการติดต่อสื่อสาร, การใช้ระบบควบคุมบังคับบัญชา C4I VTC Email และระบบจำลองยุทธที่จะนำมาใช้ในการฝึก

              2.การฝึกแลกเปลี่ยน/ปรับมาตรฐาน ประกอบด้วย การฝึกแลกเปลี่ยน/ปรับมาตรฐาน, การปฏิบัติการร่วม 3 เหล่าทัพ, การป้องกันภัยทางอากาศร่วม และการปฏิบัติการพิเศษร่วม

              3.การฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล ประกอบด้วย การยุทธสะเทินน้ำสะเทินบก, การพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง, การปฏิบัติการพิเศษร่วม, การป้องกันภัยทางอากาศร่วม, การฝึกกองหนุน และการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง

              สำหรับ "การฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง (CALFEX)" เป็นการฝึก "แสดงกำลังป้องปรามทางยุทธศาสตร์" โดยเป็นการฝึกตอบโต้โดยกองทัพภาคที่ 3 สั่งใช้กำลังกรมทหารม้าเฉพาะกิจ ร่วมกับกองทัพอากาศ ตามแผนเผชิญเหตุ ทำการยับยั้งและสกัดกั้นกำลังของฝ่ายตรงข้าม และสถาปนาแนวตั้งรับตามแนวชายแดน

              โดยมีกำลังทางบกของกองพลทหารม้าที่ 1 (พล.ม.1) ประกอบด้วย กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3(บก.ฉก.ม.3), หน่วยเฉพาะกิจกองพันทหารม้าที่ 18 (ฉก.ม.พัน.18), หน่วยเฉพาะกิจกองพันทหารม้าที่ 26 (ฉก.ม.พัน.26),กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 30 (ป.พัน.30), กองร้อยทหารม้าลาดตระเวนกองพันทหารม้าที่ 26 (1 ร้อย.ม.(ลว.) ม.พัน.26), กองพันทหารม้าที่ 7 (ม.พัน.7) หมวดทหารช่างสนาม กองพันทหารช่างที่ 8 (มว.ช.สนาม ช.พัน.8) กำลังทางอากาศ เครื่องบินขับไล่ เอฟ 16 จำนวน 4 ลำ และเครื่องบินขับไล่กริพเพน จำนวน 2 ลำ

              การฝึกร่วมของกองทัพไทยกับเหล่าทัพถือได้ว่าครบทุกมิติทั้งบก-เรือ-อากาศ ซึ่งแม้จะมีการประเมินกันว่า ภัยคุกคามที่เป็นสงครามขนาดใหญ่จะเกิดขึ้นได้ยากในยุคปัจจุบัน แต่ก็ต้องยึดหลัก "ถ้าหวังตั้งสงบ...จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ์" ดังบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6 เอาไว้ เพราะความแน่นอนคือความไม่แน่นอน อาจเกิดเหตุการณ์พลิกผันขึ้นได้ทุกเมื่อ