ซุปตาร์ ออกญาและการเมืองกัมพูชา | คมชัดลึก

              ระหว่างที่เมืองไทยกำลังสนุกสนานข่าว “แตงโม-โตโน่” ทางฟากฝั่งกัมพูชาก็ดังสะท้านแผ่นดิน ด้วยข่าว “ออกญาสุขบุน” ตบตีสาวเปรี้ยว “ซาซา” พิธีกรรายการทีวีชื่อดังในภัตตาคารหรู

              ในพนมเปญ ตำแหน่ง “ออกญา” เป็นบรรดาศักดิ์ที่พระมหากษัตริย์พระราชทาน โดยการเสนอของประธานวุฒิสภา หรือนายกรัฐมนตรี ส่วนใหญ่จะมอบให้นักธุรกิจใหญ่ เช่น ออกญาหลี ยงพัด หรือเสี่ยพัด วุฒิสมาชิก และที่ปรึกษาพิเศษทางเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน หรือออกญาคิธ เม้ง แห่งกลุ่มบริษัท รอยัล กรุ๊ป

              ออกญาสุขบุน เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีความใกล้ชิดกับซอเค็ง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีมหาดไทย

              คืนวันที่ 2 กรกฎาคม 2558 ออกญาสุขบุนไปดื่มกินกับ “ซาซา” หรือ “โสเจียตา” พิธีกรรายการทีวีที่เป็นดาวเด่นในวงสังคมพนมเปญ ซึ่งตามรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ในกัมพูชา ระบุว่า ออกญาสุขบุนจะชวนเธอไปดื่มกินต่อที่อื่น เธอไม่ยอมไป เลยเกิดมีปากเสียงกัน เธอปาโทรศัพท์ใส่นักธุรกิจใหญ่ เลยกลายเป็นชนวนเหตุลงไม้ลงมือ จนหน้าตาของเธอปูดบวม

              หลังจากคืนนั้น “ซาซา” ได้เข้าแจ้งความกล่าวหาว่า ออกญาสุขบุนทำร้ายร่างกาย และยืนกรานจะเอาความถึงที่สุด เพื่อรักษาเกียรติยศของสตรีกัมพูชา

              ภาพจากโทรทัศน์วงจรปิด เผยให้เห็นว่า ซาซาถูกลากออกจากเก้าอี้ และเตะเข้าที่ศีรษะ และขณะที่เธอกำลังพยุงตัวลุกขึ้น ก็ถูกต่อยและกระทืบ นอกจากนั้นผู้ที่คอยคุ้มกันสุขบุน ยังเอาปืนออกมาจ่อที่ศีรษะของซาซาด้วย ซึ่งกรณีดังกล่าวทำให้ผู้คนในสังคมต่างก่นประณามพฤติกรรมโหดเถื่อนของออกญา

              ในที่สุด ออกญาสุขบุน ได้เขียนจดหมายขอโทษคู่กรณี, ครอบครัว และประชาชน ซึ่งในจดหมายฉบับเดียวกันยังระบุว่า เขาได้ลาออกจากตำแหน่ง “ออกญา” ที่พระมหากษัตริย์พระราชทานให้ และได้ลาออกจากตำแหน่งประธานสมาคมประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์

              ขณะเดียวกัน เสี่ยใหญ่สุขบุน ได้ตกลงที่จะให้ค่ารักษาบาดแผลตามร่างกาย และเยียวยาสภาพจิตใจของ “ซาซา” เป็นเงิน 1 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกันนั้น เสี่ยสุขบุนได้หลบกระแสข่าวร้อนไปอยู่ที่สิงคโปร์

              ส่วน “ซาซา” หลังเกิดเหตุได้มารักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ และเดินทางกลับกัมพูชา เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม

              เธอให้สัมภาษณ์สื่อว่า ยังมีเงินค่ารักษาพยาบาล และปฏิเสธที่จะยอมรับเงินจากเสี่ยใหญ่

              เวลาเดียวกัน ฝ่ายค้านได้ส่งจดหมายไปยังสถานทูตสิงคโปร์ ขอความร่วมมือการบังคับใช้กฎหมายของกัมพูชา เนื่องจากเสี่ยสุขบุนซ่อนตัวอยู่ในสิงคโปร์

              การทำร้ายผู้หญิงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยในกัมพูชา แต่การทำร้ายในที่สาธารณะทำให้คนในสังคมไม่พอใจและมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องดังกล่าวหนาหู ขณะที่สื่อมวลชนในกัมพูชาเกาะติดเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง

              เมื่อเจอกระแสสังคมกดดัน แถมฝ่ายค้านลงมาลุยเรื่องนี้ด้วย วันที่ 16 กรกฎาคม นายกรัฐมนตรีฮุน เซน กล่าวว่า จำเป็นจะต้องจับกุมตัวสุขบุน และทำหนังสือถึงตำรวจสากลตามล่าตัวเสี่ยใหญ่

              วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม ตำรวจกัมพูชาจึงได้จับกุมเสี่ยใหญ่ขณะเดินทางกลับเข้าประเทศที่สนามบินโปเชนตง

              เกมนี้ถือว่า ฮุน เซนดูเบากระแส จึงปล่อยให้สุขบุนหลบไปสิงคโปร์ แต่กลายเป็น “สุมไฟ” ให้ร้อนแรง และฝ่ายค้านกระโดดเข้ามาเล่นด้วย

              บทเรียนของออกญาสุขบุน คงทำให้ฝ่ายรัฐบาลต้องระวังตัวกันมากขึ้น เนื่องจากสื่อสังคมออนไลน์ มีอิทธิพลต่อประชาชน และฝ่ายค้านก็ชำนาญการด้านสื่อใหม่อีกต่างหาก

              มองการเมืองเรื่องซุปตาร์กับออกญาบ้านเขา แล้วหันมาดูการเมืองบ้านเรา ก็สนุกไม่แพ้กัน ลำพัง “ลุงตู่รายวัน” ก็สุดแสนจะบันเทิงเริงรมย์