คอลัมนิสต์

อัยการสูงสุดลุยสร้างเครือข่ายสังคมปลอดภัยไร้ความรุนแรง

อัยการสูงสุดลุยสร้างเครือข่ายสังคมปลอดภัยไร้ความรุนแรง

03 มี.ค. 2558

อัยการสูงสุดลุยสร้างเครือข่ายสังคมปลอดภัยไร้ความรุนแรง : สายตรวจระวังภัย โดยพรรณทิพา จิตราวุฒิพร

            การใช้ความรุนแรง เป็นต้นเหตุลำดับต้นๆ ที่นำมาสู่การเกิดคดีความในปัจจุบัน จากสถิติพบว่าปัจจุบันกลุ่มเด็กและผู้หญิงตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงมากที่สุด ซึ่งหลายหน่วยงานพยายามจะหาทางยุติความรุนแรงเพื่อสร้างสังคมที่เข้มแข็ง

            ล่าสุดสำนักงานอัยการสูงสุด มีความพยายามในการยุติความรุนแรงในสังคม โดยใช้วิธีจัดตั้งเครือข่ายให้ความรู้แก่ประชาชนทั้งในเรื่องกฎหมาย และหลักปฏิบัติในการยุติความรุนแรงให้แก่ประชาชนในทุกภูมิภาคภายใต้โครงการ “เครือข่ายสังคมปลอดภัย ไร้ความรุนแรง”

            ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์-1 มีนาคม ที่ผ่านมา มีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างเครือข่ายยุติความรุนแรงขึ้นที่ จ.ปราจีนบุรี โดยมีสื่อมวลชนและประชาชนใน ต.นนทรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เข้าร่วม โดยมีนางอัจฉราวรรณ บุนนาค อัยการพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานกิจการ และโครงการในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา (สพภ.) เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อดำเนินกิจกรรมตามแนวพระดำริฯ รณรงค์ตามโครงการยุติความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก

            นางอัจฉราวรรณ ระบุว่า สำนักงานอัยการสูงสุดได้สานต่อแนวพระดำริของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ในการสร้างความตระหนักให้ประชาชนเห็นว่า การกระทำความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก เป็นรูปแบบหนึ่งของการละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่ควรเพิกเฉย เพราะเป็นปัญหาสังคมไม่ใช่ปัญหาส่วนตัว และร่วมกันดำเนินโครงการโดยการจัดกิจกรรมรณรงค์และปรับเปลี่ยนทัศนคติของคนในสังคมไทยในทุกภาคส่วน

            ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาประทานโมบายกระดิ่ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ยุติความรุนแรงในทุกครัวเรือน ให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ โดยเสียงของโมบายกระดิ่งจะย้ำเตือนให้ทุกคนมีสติ ยั้งคิดยั้งทำ ไม่กระทำความรุนแรงต่อผู้อื่นในทุกรูปแบบ พร้อมทั้งยังทรงให้ความสำคัญ ในการป้องกันอาชญากรรม โดยขยายขอบเขตการดำเนินงานด้านการรณรงค์และจัดกิจกรรมภายใต้รูปแบบเครือข่ายสังคมปลอดภัยไร้ความรุนแรง เพื่อสนองแนวพระดำริฯ

            "สื่อมวลชนที่เข้าร่วมโครงการจะเป็นเครือข่ายสำคัญที่มีบทบาทในการสร้างค่านิยมใหม่ให้ปลอดภัยไร้ความรุนแรงและลดปัญหาอาชญากรรม ทุกวันนี้เรือนจำแทบจะทั่วประเทศแน่น ถ้าเราลดอาชญากรรมลงได้ก็แปลว่าเราลดงบประมาณแผ่นดินในการที่จะต้องไปเพิ่มงบกับตำรวจ อัยการ ศาล ไปถึงราชทัณฑ์ แต่เรามาแก้ที่ปัญหาสังคมดีกว่า ให้สังคมเราดีขึ้น ปัญหาสังคมที่เราช่วยกันแก้ทุกภาคส่วนจับมือกัน ลดงบประมาณที่จะสิ้นเปลืองโดยไม่มีประโยชน์” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าว

            ด้านนายสมจิต ไพเราะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านท่ากฐิน ต.นนทรี จ.ปราจีนบุรี บอกว่า การลงพื้นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ของสำนักงานอัยการสูงสุด ทำให้ประชาชนในพื้นที่รู้กฎหมายมากขึ้น ไม่ต้องเดือดร้อนจากการถูกผู้อื่นหลอก

            สอดคล้องกับ นายสุบรรณ ปัตนา กรรมการหมู่บ้านหมู่ 15 บ้านหนองคุ้ม ต.นนทรี จ.ปราจีนบุรี ระบุว่า คนในพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้เรื่องข้อกฎหมาย บางครอบครัวเมื่อเกิดคดีความมักจะเข้าไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่บางคนก็จะหลอกเอาเงิน แต่ก็ไม่สามารถช่วยคดีความได้ แต่ตอนนี้เมื่อสำนักงานอัยการสูงสุดจัดกิจกรรมให้ความรู้ ทำให้ประชาชนในพื้นที่สามารถเข้ามาขอคำปรึกษาจากอัยการจังหวัดได้ เพื่อช่วยให้คดีความได้รับความยุติธรรมมากขึ้น

            สำนักงานอัยการสูงสุดจะขยายพื้นที่ในการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายสังคมปลอดภัยไร้ความรุนแรง ต่ออีกหลายพื้นที่ ตามแผนงานยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก เพื่อสนองพระดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ที่มีพระประสงค์ให้ประชาชนรับรู้ถึงปัญหาความรุนแรงในทุกๆ ด้าน ก่อนจะร่วมมือกันยุติความรุนแรงโดยเฉพาะความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเด็กและผู้หญิงที่ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและเป็นปัญหาของสังคม