ตร.ดอนเจดีย์รุกโครงการชุมชนปลอดภัยไร้อาชญากรรม | คมชัดลึก

              ยุคสมัยในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วทุกๆ ด้าน ทำให้ปัญหาทั้งทางด้านอาชญากรรม ยาเสพติด สตรีถูกล่อลวง และละเมิดทางเพศ เพิ่มมากขึ้น ลักษณะการแก้ปัญหาที่ผ่านมาจะเป็นการตั้งรับ โดยเน้นการจับกุม และบังคับใช้กฎหมายเป็นหลัก ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาอาชญากรรมได้ดีเท่าที่ควร จึงต้องมีการปรับระบบให้เข้าต่อสถานการณ์มากขึ้น ตำรวจภูธรภาค 7 จึงได้จัดทำโครงการชุมชนปลอดภัยไร้อาชญากรรม เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน

              พ.ต.อ.นิวัติ มาตะราช ผกก.สภ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับนายวรภพ ฉิมพันธ์ นายก อบต.ไร่รถ นายธงชัย กล่อมสมร กำนันตำบลไร่รถ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุมชนสัมพันธ์(CPO) และชาวบ้าน ร่วมกันเปิดโครงการชุมชนปลอดภัยไร้อาชญากรรม ที่บ้านหนองระกำ หมู่ 10 ต.ไร่รถ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี โดยหวังว่าตำรวจจะต้องเป็นที่พึ่งลำดับแรกของประชาชน จึงมอบหมายให้สถานีตำรวจภูธรทุกแห่งของตำรวจภูธรภาค 7 จำนวน 104 แห่ง จัดหาหมู่บ้าน สภ.ละ 1 แห่ง พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุมชนสัมพันธ์ ที่ผ่านการฝึกอบรมมาแล้วเป็นผู้เข้าไปประสานและดำเนินงานตามโครงการ

              ด้าน พล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 ชี้แจงว่า การนำทฤษฎี Community Policing และหลักการพัฒนาแก้ปัญหาที่พลิกผันไปตามแนวทางของชุมชนมาใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เน้นความสามารถในการป้องกันและแก้ไขปัญหาของชุมชนควบคู่ไปกับการใช้กฎหมาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ และสร้างความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจชุมชนสัมพันธ์ ประชาชน และหน่วยงานต่างๆ ในชุมชน ในการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอาชญากรรมความรู้สึกหวาดกลัวภัยอาชญากรรม ตลอดจนสภาพความเรียบร้อย และเสื่อมโทรมในสังคม เพื่อให้ประชาชนรู้ถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และไว้วางใจตำรวจพร้อมให้ความร่วมมือ โดยมีตำรวจที่ผ่านการอบรมเข้าไปอยู่ในพื้นที่ของโครงการเป็นเวลา 6 เดือน

              ขณะที่นายวรภพ ฉิมพันธ์ นายก อบต.ไร่รถ กล่าวเสริมว่า โครงการดังกล่าวเป็นแนวทางที่ดีและสอดคล้องกับในสภาวะปัจจุบัน ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม ตลอดจนการขยายตัวของชุมชน เช่นหมู่บ้าน เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สถิติอาชญากรรมประเภทประทุษร้ายต่อทรัพย์มีแนวโน้มสูงขึ้น มาตรการในการป้องกันอาชญากรรมโดยทั่วไปของสถานีตำรวจต่างๆ คือการจัดสายตรวจออกตรวจตราระวังป้องกันและระงับเหตุตามจุดล่อแหลมต่างๆ เพื่อตัดโอกาสในการกระทำผิดของคนร้าย ซึ่งก็ได้ผลในระดับหนึ่ง

              "ปัจจุบันรูปแบบ วิธีการ และลักษณะการกระทำผิดของคนร้าย มีแนวโน้มที่จะมีความรุนแรง สลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เพราะมีการวางแผน มีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และมีการรวมตัวเป็นกลุ่ม เป็นแก๊ง หรือขบวนการ จึงทำให้การป้องกันอาชญากรรมมีความยากลำบากมากยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องแสวงหาความร่วมมือจากประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและในชุมชนที่อยู่อาศัย" นายวรภพ กล่าว 

              โครงการนี้จะสามารถเข้ามาช่วยสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชาวบ้านในชุมชน ประชาชนในแต่ละพื้นที่จะเข้ามามีบทบาทดูแลชุมชนของตัวเองและทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อพัฒนาแต่ละชุมชนไปในทิศทางเดียวกัน ในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของแต่ละชุมชน