
นรต.เสริมเขี้ยวเล็บบรรจุ'ไทยไฟต์'หลักสูตรต่อสู้
นรต.เสริมเขี้ยวเล็บบรรจุ'ไทยไฟต์'หลักสูตรต่อสู้ : สายตรวจระวังภัย โดยอริย์ธัช พรอัศวโยธิน
นับเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกของโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน จ.นครปฐม ซึ่งได้นำวิชาศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวระดับโลกอย่าง (ไทยไฟต์) มาบรรจุเป็นหลักสูตรของนักเรียนนายร้อยตำรวจฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพตำรวจไทย โดยโรงเรียนนายร้อยฯ ได้จับมือกับภาคเอกชน ภายใต้โครงการ “Thai Fight Police Academy”
"ไทยไฟต์" ถือเป็นวิชามวยไทยแขนงหนึ่ง ที่มีการใช้อวัยวะทุกส่วนของร่างกายเป็นอาวุธในการต่อสู้ และศิลปะการต่อสู้ชนิดนี้ ถือว่าเป็นแม่ไม้มวยไทยชั้นสูง ที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก เพราะมีศักยภาพในการต่อสู้ที่เฉียบขาด และสามารถเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ผู้ได้รับการฝึก มีทักษะความชำนาญในการต่อสู้ ดังนั้น ทางโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน นำโดย พล.ต.ท.ศักดา เตชะเกรียงไกร ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยฯ จึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการต่อสู้ป้องกันตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าควรได้รับการพัฒนาฝึกวิชาการป้องกันตัว นอกจากหลักสูตรเดิมที่มีอยู่ จึงนำศิลปะการต่อสู้ชนิดนี้ บรรจุเข้าเป็นหลักสูตรของนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน โดยประสานงานไปยังนายนพพร วาทิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยไฟท์ จำกัด และ นายวิเชฐ ตันติวานิช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เพื่อจัดครูฝึกเข้าสอน
พล.ต.ท.ศักดา กล่าวว่า "ไทยไฟต์" เป็นวิชาการต่อสู้แขนงหนึ่งที่ทางโรงเรียน ได้นำมาบรรจุเป็นวิชาป้องกันตัวให้แก่นักเรียน โดยนำเอายอดมวยไทยแห่งยุค และครูมวยไทย ซึ่งเป็นนักมวยอาชีพอย่าง ยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์ ไทรโยค พุ่มพันธุ์ม่วง วินดี้สปอร์ต สุดสาคร ส.กลิ่นมี แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม อิกคิวซัง ก.รุ่งธนะเกียรติ อองตวน และ ลีโอ ปินโต นักมวยไทยไฟท์ และนักมวยไทยหญิง น้องพีช ภู่ระหงษ์ ศิษย์จ่าแดง และ น้องเซี๊ยะ ชมมณี ส.เต๊ะหิรัญ มาเป็นครูผู้ฝึกสอนวิชามวยไทยให้แก่นักเรียนนายร้อยตำรวจทั้งชายและหญิง โดยนับเป็นครั้งแรกของโรงเรียนนายร้อยฯ ที่ได้นำวิชาการต่อสู้ระดับโลก มาบรรจุเป็นหลักสูตรวิชาศิลปะป้องกันตัวให้แก่นักเรียนนายร้อยฯ และในเทอมหน้านี้จะเป็นการเปิดหลักสูตรนี้เป็นรุ่นแรก
"การบรรจุวิชาศิลปะป้องกันตัวชนิดนี้ เพื่อเสริมศักยภาพให้แก่นักเรียนนายร้อยตำรวจ ที่จะออกปฏิบัติหน้าที่จริงเมื่อพวกเขาเรียนจบไป และยังเป็นลดการกระทำเกินกว่าเหตุในการจับกุมคนร้าย ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นจากข่าวหลายๆ ครั้งว่า ในบางเหตุการณ์ที่ตำรวจต้องเผชิญหน้ากับคนร้าย แต่ตำรวจไม่สามารถใช้ความรุนแรงได้ แม้จะมีอาวุธปืนอยู่ในมือ และหลายเหตุการณ์ ตำรวจต้องตกเป็นจำเลยถูกกล่าวหาว่า ทำเกินกว่าเหตุ และอีกหลายครั้งที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากการถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง หรือใช้อาวุธมีดแทง หรือต่อสู้ด้วยอาวุธต่างๆ รวมทั้งถูกแย่งอาวุธปืนในบางเหตุการณ์ ฉะนั้น "ไทยไฟต์" จึงเป็นวิชาศิลปะป้องกันตัวขั้นสูง ที่จะเข้ามาเป็นส่วนช่วยในการปฏิบัติหน้าที่จริงของบรรดานักเรียนนายร้อยในอนาคต