โครงการสายตรวจ'Koban'ดูแลประชาชนใกล้ชิด | คมชัดลึก

              โครงการสายตรวจ Koban ตามนโยบายของ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่เคยให้ไว้สมัยดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ. ดร.สงคราม เสงี่ยมพักตร์ ผกก.สภ.เมืองนครนายก และ พ.ต.ท.ชาตรี พรหมลัมภัก รอง ผกก.ป้องกันปราบปราม สภ.เมืองนครนายก เป็นผู้ดำเนินการจัดตั้งและจัดหาคณะกรรมการเพื่อดำเนินโครงการสายตรวจ Koban หรือสถานีตำรวจชุมชนบ้านใหญ่ เพื่อเป็นสถานีตำรวจชุมชนนำร่องใน จ.นครนายก ซึ่งจะต้องมีทุกตำบลและอำเภอใน จ.นครนายก และจะต้องมีการขยายโครงการไปทั่วประเทศต่อไปในอนาคต

              พ.ต.อ. ดร.สงคราม เปิดเผยว่า สายตรวจ Koban หรือ สถานีตำรวจชุมชน หมายถึง หน่วยบริการประชาชน ซึ่งยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประขาชน โดยบูรณาการทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม และสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนทุกคนมีส่วนรับผิดชอบตามหลักการที่ว่า ประชาชน คือ ตำรวจคนแรก โดยนำแนวคิดการตำรวจชุมชน (Community Policing) และระบบหน่วยความจำขนาดเล็ก (Police Box System) ซึ่งได้เริ่มในประเทศญี่ปุ่นโดยรู้จักกันในชื่อว่า Koban เป็นแนวทางในการดำเนินการโดยยึดหลัก 4 ประการ

              ประการแรก  การเป็นหุ้นส่วนระหว่างตำรวจกับประชาชน ร่วมมือร่วมใจ ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมกันในฐานะเจ้าของพื้นที่ ประการที่สอง การสร้างกลุ่มสนับสนุน ได้แก่ ประชาชนในพื้นที่ ชุมชน อาสาสมัคร องค์กรเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประการที่สาม การปฏิบัติงานแบบเกาะติดพื้นที่ควบคู่กับการกระจายการบริการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าประจำพื้นที่เพื่อรับผิดชอบในพื้นที่ และประการสุดท้าย ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ต้องถือเป็นนโยบายสำคัญที่ต้องปฏิบัติ โดยเฉพาะหัวหน้าสถานีตำรวจ เพื่อขยายการบริการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระจายลงไปในพื้นที่หรือชุมชนให้มากที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกล หรือพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของประชากรอยู่ในระดับสูง หรือพื้นที่ที่มีปัญหาอาชญากรรมสูง โดยจะปฏิบัติงานร่วมกับเครือข่ายชุมชนการป้องกันอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยให้แก่ชุมชนและท้องถิ่น

              พ.ต.อ. ดร.สงคราม บอกด้วยว่า สำหรับ สภ.เมืองนครนายกได้เลือก ตำบลบ้านใหญ่ บริเวณแยกบายพาสบุ่งกระเบา เป็นสถานที่ตั้งสถานีตำรวจชุมชนบ้านใหญ่ เนื่องจากจุดดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่เส้นทางในการท่องเที่ยวและสัญจรไปมาของประชาชนจึงถือว่าเป็นจุดที่เหมาะสม  โดยมีการจัดสร้างอาคารและเครื่องมือเครื่องใช้วัสดุครุภัณฑ์ เช่นโต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์ วิทยุสื่อสารกล้อง แผงกั้น เครื่องมือดับเพลิง ตู้เก็บเอกสาร รถจักรยานยนต์ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ หากมีเหตุการณ์ไม่ปกติ เช่น โล่ กระบองสั้น กระบองยาว และไม้ค้ำยันยาว

              "จะจัดกำลังพลในการทำงานประจำสถานีตำรวจชุมชน ให้เป็น 3 ผลัด แต่ละผลัดมี คนอย่างน้อย 3 คนทำหน้าที่ผลัดละ 8 ชั่วโมง หมุนเวียนเปลี่ยนสับตามหน้าที่การทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยให้ 1 คน อยู่ประจำสถานี อีก 2  คนให้ออกตรวจ หากที่สถานีมีการรับแจ้งเหตุ และบริการประชาชน ต้องแต่งกายให้เรียบร้อย โดยมุ่งหวังเพื่อป้องกันและปราบปรามปัญหาอาชญากรรมและยาเสพติดในชุมชนให้หมดไป พร้อมทั้งบริการประชาชนในพื้นที่ให้ได้รับความสะดวกในการติดต่อกับทางราชการ หรือแจ้งความร้องทุกข์ต่างๆ" ผกก.สภ.เมืองนครนายก กล่าวย้ำ