คอลัมนิสต์

เรื่องของเหี้ย

เรื่องของเหี้ย

06 ก.ค. 2552

ในที่สุดตัวเหี้ยก็ยังคงเป็นตัวเหี้ย โดยไม่ได้ถูกเปลี่ยนชื่อไปเป็น “วรนุช” แต่อย่างใด ความคิดเรื่องชื่อใหม่ของเหี้ย เกิดจากการที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

เกิดปิ๊งไอเดียว่าเหี้ยมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Varanus Salvator ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่าวรนุชในภาษาไทย ดังนั้นหากเปลี่ยนมาใช้เรียกเหี้ยว่าวรนุช ก็ฟังดูไพเราะเพราะพริ้งขึ้น จนคนไทยอาจจะคลายความรังเกียจสัตว์ประเภทนี้ลง นับเป็นความปรารถนาดีต่อเหี้ยเป็นอย่างยิ่ง จนเผลอลืมความรู้สึกของคนที่ชื่อวรนุช ซึ่งคงจะมีจำนวนไม่ใช่น้อยไปเสียสนิท

 อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย เนื่องจากอาจเกิดผลกระทบต่อหญิงไทยที่ชื่อวรนุช ทั้งชื่อตัวเงินตัวทองที่ใช้กันอยู่ก็ดีอยู่แล้ว เรื่องนี้จึงน่าจะหาทางเปลี่ยนทัศนคติของคนที่มีต่อสัตว์ประเภทนี้มากกว่า ซึ่งก็เป็นความเห็นที่น่าสนใจ เพียงแต่ฝ่ายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มองในประเด็นของสัตว์ และกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มองในประเด็นของคน แต่ก็ทำให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติออกมาแก้ข่าวว่าเรื่องการเปลี่ยนชื่อเหี้ยเป็นวรนุชเป็นเพียงการพูดกันเล่น ๆ ในที่ประชุมของกรมเท่านั้น

 จริงๆ แล้ว เหี้ยเป็นสัตว์โบร่ำโบราณ ในพระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกายชาดก ก็กล่าวถึงเรื่องที่พระโพธิสัตว์ถือกำเนิดเป็นเหี้ยซึ่งใฝ่ใจในการฟังธรรม แต่เมื่อดาบสตนเดิมที่เหี้ยนับถือย้ายไปอยู่ที่อื่น และมีดาบสตนใหม่มาพำนักที่อาศรมแทน เหี้ยก็ยังคงหลงให้ความเคารพนับถือ ดาบสตนนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งชาวบ้านทำอาหารที่ปรุงจากเนื้อเหี้ยมาถวาย ดาบสได้กินก็ติดใจในรสชาติ จึงวางแผนจะจับเหี้ยที่มาฟังธรรมกินเป็นอาหาร แต่เหี้ยรู้ทันจึงติเตียนดาบสว่า “นี่เจ้าผู้โง่เขลา จะมีประโยชน์อะไรแก่เจ้า ด้วยชฎาและการนุ่งห่มหนังเสือเหลือง ภายในของเจ้าแสนจะรกรุงรังเจ้าดีแต่ขัดสีภายนอกเท่านั้น”  - ใครที่เคยด่าคนอื่นว่า “เหี้ย” ลองมาฟังเหี้ยด่าคนบ้าง ก็อาจจะอึ้งกิมกี่ไปเหมือนกัน

 ผมไม่เคยกินเนื้อเหี้ย ก็เลยไม่รู้ว่ามันเอร็ดอร่อยอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ก็คือไข่เหี้ยนั้นเป็นพระกระยาหารจานโปรดของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จนครั้งหนึ่งไม่อาจหาไข่เหี้ยมาถวายได้ เนื่องจากนอกฤดูที่เหี้ยวางไข่ เจ้าจอมแว่น พระสนมเอกจึงคิดประดิษฐ์ขนมไข่เหี้ยถวายแทน แต่คนในชั้นหลังทนชื่อขนมชาววังที่ชื่อไข่เหี้ยไม่ได้ เลยเปลี่ยนเป็นขนมไข่หงส์ และหากมีการเปลี่ยนชื่อเหี้ยเป็นวรนุชสำเร็จ ขนมชนิดนี้ก็อาจจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นขนมไข่วรนุชไปด้วยก็ได้

 สาเหตุที่ทำให้เหี้ยเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ของคนไทย ก็เนื่องมาจากแต่เดิมคนไทยนิยมปลูกบ้านเรือนอยู่ตามริมแม่น้ำลำคลองอันเป็นที่ที่เหี้ยอาศัยอยู่ และเหี้ยก็มักขโมยกินเป็ดไก่ที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ นอกเหนือจากพฤติกรรมในการกินซากสัตว์ต่างๆ ที่ลอยมาตามน้ำหรือเกยฝั่ง รวมทั้งการที่เหี้ยขึ้นเรือนก็ถือว่าเป็นอุบาทว์หนึ่งในอุบาทว์เทวดาทั้งแปดหรือโพธิอุบาทว์ ทำให้คนไทยทวีความรังเกียจเหี้ยยิ่งขึ้นไปอีก

 ผมไม่ทราบว่าเหี้ยได้กลายเป็นคำผรุสวาทที่ติดปากคนไทยมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และเป็นคำที่ใช้กันอย่างครอบจักรวาล หรืออเนกประสงค์ ทั้งๆ ที่บางเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของเหี้ยเลยแม้แต่น้อย และพฤติกรรมของคนเองนั้นหลายต่อหลายเรื่องก็เลวร้ายยิ่งกว่าเหี้ยด้วยซ้ำไป