คสช.วาง3เสาหลัก'อาเซียน'มุ่งพาไทยสู่'ผู้นำ' | คมชัดลึก

               คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินหน้าประเทศไทยในการที่จะเข้าสู่ "ประชาคมอาเซียน" ในปี 2558 โดยเน้นหนักใน 3 เสาหลักของอาเซียน คือ ประชาคมการเมือง และความมั่นคง (เอพีเอสซี) ประชาคมเศรษฐกิจ (เออีซี) และประชาคมสังคมวัฒนธรรม (เอเอสซีซี)

               พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทหารสูงสุด) ในฐานะรองหัวหน้า คสช. และทำหน้าที่ประธานกรรมการ "ศูนย์อำนวยการเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน" เผยถึงแนวทางการทำงานว่า ศูนย์ดังกล่าวจะรับนโยบายโดยตรงจากหัวหน้า คสช. มีระบบการบังคับบัญชาแบบซิงเกิลคอมมานด์ มีการสั่งการที่ชัดเจนเป็นเอกภาพ

               ทั้งนี้ ในส่วนของกองทัพในอนาคตจะมีการตั้ง "กองกำลังอาเซียน" เพื่อความร่วมมือในการปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ โดยจะเห็นชอบการปฏิบัติร่วมกันในส่วนที่แต่ละประเทศมีความเชี่ยวชาญ

               "เช่นการรักษาสันติภาพ แทนที่เราจะต้องส่งคนของเราไปทั้งกองพันหรือพันคน เราก็จะส่งเฉพาะสิ่งที่เราชำนาญ เพื่อนบ้านชำนาญ หรือว่ากองกำลังเกี่ยวกับภัยพิบัติ ซึ่งขณะนี้มีความก้าวหน้า และปีนี้ก็มีการฝึกเอชเอดีอาร์ ที่ผ่านมาก็มีฝึกหลายครั้ง ทั้งที่ประเทศบรูไน จ.เพชรบุรี และ จ.ฉะเชิงเทรา ที่มาฝึกประมาณ 15 ประเทศ ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสัมพันธ์มาต่อเนื่อง"

               นอกจากนี้ ในกลุ่ม 10 ประเทศอาเซียน จะมี "กรรมการอาเซียน" ประจำอยู่ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะเป็นศูนย์รวม "ทูตอาเซียน" โดยความสัมพันธ์นั้นถือว่าเป็นปึกแผ่น มีความสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งรูปแบบการเจรจาร้องขอจะเป็นไปในฉัน "ครอบครัว" มากกว่า

               "เช่นในช่วงที่ผ่านมา 7 เดือน เรามีสถานการณ์ที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด ถ้าช่วงนั้นเราไม่ปรับเปลี่ยนสถานการณ์ก็จะพาเพื่อนทั้ง 9 ประเทศลงไปด้วย เมื่อเราพลิกฟื้นสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ เพื่อนก็มีความสุขที่เห็นเราฟื้นตัว และสามารถพยุงหรือก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆ กัน ทำให้เกิดความมั่นคงในอาเซียน" พล.อ.ธนะศักดิ์ ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของอาเซียน

               พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะรองหัวหน้าคสช. และรองประธานกรรมการศูนย์อำนวยการเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ระบุว่า ในส่วนของเสาประชาคมสังคม และวัฒนธรรม ทุกประเทศได้กระชับความสัมพันธ์กันมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเรื่องการเคลื่อนย้ายแรงงาน เชื่อว่าความสัมพันธ์ดังกล่าวจะมีประโยชน์ในการทำงานร่วมกัน โดยประเทศไทยมีจุดแข็งทั้งในเรื่องที่ตั้ง การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม ซึ่งน่าจะสามารถดึงดูดผู้คนเข้ามาท่องเที่ยวได้มากขึ้น

               พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะรองหัวหน้าคสช. และรองประธานกรรมการศูนย์อำนวยการเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ระบุว่า ในด้านเศรษฐกิจนั้น ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้เกิดความสำเร็จในการเป็นประชาคมอาเซียน สิ่งที่เป็นนโยบายร่วมกันคือ การดำเนินการให้อาเซียนเป็นจังหวะเดียวกัน ทั้งการผลิตและการบริการ ซึ่งต้องมีการตกลงกันในเรื่องแนวทางการลงทุนว่าสัดส่วนควรจะเป็นเท่าไร รวมถึงการใช้แรงงาน ทรัพยากร และภาษี ซึ่งจะต้องมีการตกลงกัน

               "เราต้องดูความพร้อมของแต่ละประเทศด้วย และต้องคำนึงถึงจุดอ่อนจุดแข็งของเราด้วยว่า ส่วนใดที่มีความพร้อมที่สุด เราก็จะเดินหน้าตรงนั้นไปก่อน ส่วนโครงการใดที่ยังไม่พร้อมเราก็ชะลอไปก่อน ซึ่งจากนี้จะเร่งตั้งคณะอนุกรรมการในส่วนของเสาหลักด้านเศรษฐกิจเพื่อทำงานตามโรดแม็พ คสช. จากนั้นจะมีการปรับกฎกติกา การคมนาคมขนส่ง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากต่างชาติให้ไทยกลับมาเป็นผู้นำในอาเซียนอีกครั้ง" พล.อ.อ.ประจิน กล่าวให้คำมั่น

               จากความมุ่งมั่นในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนนั้น เชื่อว่า จุดมุ่งหมายในการก้าวเดินไปสู่การเป็น "ผู้นำอาเซียน" ของ คสช.ที่รับผิดชอบเสาหลักทั้ง 3 ด้าน จะนำพาประเทศไทยไปสู่จุดที่เราเคยยืนได้อีกครั้ง

.................................

(หมายเหตุ : คสช.วาง3เสาหลัก'อาเซียน' มุ่งพาไทยสู่'ผู้นำ'ในภูมิภาค! : ตะลุยกองทัพ โดยทีมข่าวความมั่นคง)