'ก.ทรัพย์ฯ-ทัพเรือ'วางแนวปะการัง'ร.ล.พระทอง' | คมชัดลึก

           นับเป็นภาพแห่งความทรงจำของชาว อ.คุระบุรี จ.พังงา เมื่อเรือรบลำใหญ่ของกองทัพเรือนามว่า "เรือหลวงพระทอง" ค่อยๆ จมดิ่งลงไปใต้ทะเลอย่างช้าๆ จนมิดเสากระโดงเรือเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา เรือรบลำนี้มีชื่อเดียวกับ "เกาะพระทอง" แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของ จ.พังงา

           พิธีวางเรือลงทะเลมีการวางพวงมาลา เป่าแตรนอน กล่าวสดุดีเรือหลวงพระทองในระหว่างที่แล่นออกจากฝั่ง 800 เมตร โดยมี พล.ร.ต.กิตตินันท์ ศิรินาวิน รองผู้บัญชาการกองทัพเรือภาคที่ 3 นายชัยวัฒน์ ศิรินุพงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายอานุภาพ  รอดขวัญยอดระบำ นายอำเภอคุระบุรี นายนพพล ศรีสุข อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นสักขีพยาน

           จุดเริ่มต้นของโครงการนี้มีที่มาจาก "โครงการจัดทำและวางปะการังเทียมแบบบูรณาการ" ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ปี 2557 ภายใต้การสนับสนุนของกองทัพเรือ (ทร.) ที่นำเรือรบปลดประจำการขนาดใหญ่สูงเท่าตึก 4 ชั้นมาจัดวางใต้ทะเล

           นายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เผยว่า โครงการนี้เป็นการดำเนินการตามโครงการอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเลเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรทางทะเล เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยหลบภัยวางไข่อนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน เป็นแหล่งประกอบอาชีพประมง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้ประชาชนใน จ.พังงา

           กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้น้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มาดำเนินการ เพื่อปลูกจิตสำนึกในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล

           สาเหตุที่เลือกเกาะพระทอง จ.พังงา เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามสมบูรณ์ ทั้งชายหาด ทุ่งหญ้าสีทองรอบเกาะ ป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ และแหล่งหญ้าทะเลที่ใหญ่ที่สุดของ จ.พังงา

           น้ำทะเลที่นี่ยังสวย ใส สะอาด มี "แนวปะการังกองปลาเหลือง" ที่ถือว่าเป็น "แหล่งดำน้ำในฝัน" ทั้งยังเป็นแหล่งวางไข่ของเต่าทะเลที่สำคัญในฝั่งอันดามัน แต่ได้รับความเสียหายไม่น้อยจากเหตุการณ์ "สึนามิ" ปี 2547

           กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลเพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์สู่ท้องทะเลไทย เช่นที่เกาะพระทอง ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของชาว จ.พังงา

           พล.ร.ต.กิตตินันท์ ศิรินาวิน รองผู้บัญชาการกองทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า ร.ล.พระทอง ต่อที่อู่เจฟเฟอร์สันโบ๊ต สหรัฐอเมริกา มีขนาดยาว 98.1 เมตร กว้าง 15 เมตร ระวางขับน้ำ 1,780 ตัน ความเร็วสูงสุด 11.2 นอต รัศมีทำการเมื่อความเร็วสูงสุด 17,000 ไมล์

           ระบบอาวุธ ประกอบด้วย ปืน 40/60 แท่นคู่ 2 แท่น,ปืน 40/60 แท่นเดี่ยว 4 แท่น, ปืน 0.50 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก กำลังพลประจำเรือ 129 นาย โดยขึ้นระวางเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2520

           ร.ล.พระทอง เรือยกพลขนาดใหญ่ ซึ่งในชั้นนี้มีอยู่ทั้งหมด 5 ลำ คือ 1.ร.ล.อ่างทอง 711 2.ร.ล.ช้าง 712 3.ร.ล.พงัน 713 4.ร.ล.ลันตา 714 5.ร.ล.พระทอง 715 โดยเรือชั้นนี้ตั้งตาม "ชื่อเกาะ" ที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย

           ต่อมา โครงการจัดสร้างอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเล จ.กระบี่ ได้ใช้เรือรบที่ปลดระวาง 4 ลำ เพื่อจัดสร้าง "ปะการังเทียม" หนึ่งในนี้มี ร.ล.พระทอง รวมอยู่ด้วย ทว่า จ.พังงา ได้ดำเนินการ "ทวงคืน" ร.ล.พระทอง ที่มีชื่อตรงกับเกาะพระทอง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงร่วมกับกองทัพเรือ ทำตามความประสงค์ของคนท้องถิ่นจนประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม

....................

(หมายเหตุ : กระทรวงทรัพย์ฯจับมือทัพเรือ วางแนวปะการัง'ร.ล.พระทอง' :  ตะลุยกองทัพ ทีมข่าวความมั่นคง)