
เข้ม'ซาเล้ง'วิ่งถนนหลักเสี่ยงอุบัติเหตุ-ขวางจราจร
เข้ม'ซาเล้ง'วิ่งถนนหลักเสี่ยงอุบัติเหตุ-ขวางจราจร : สายตรวจระวังภัย กมลชนก ทีฆะกุล
ผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะที่ใช้ถนนสายหลักในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ร้องเรียนมายังทีมข่าวสายตรวจระวังภัยอยู่บ่อยครั้ง กรณี "รถซาเล้ง" วิ่งกันขวักไขว่บนถนนสายหลักในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
โดยผู้ร้องเรียนอ้างว่า ผู้ขับขี่ "ซาเล้ง" จำนวนไม่น้อยไม่เคารพกฎจราจร มีการขับขี่รถย้อนศร กลับรถในที่ห้าม ไม่ชิดขอบทางด้านซ้ายทั้งที่ใช้ความเร็วต่ำ บางรายบรรทุกสิ่งของจนล้นคันรถดูแล้วน่าหวาดเสียว ที่สำคัญในยามค่ำคืน "ซาเล้ง" ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพเก่าไม่มีไฟส่องทาง ไม่มีไฟท้าย ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนซึ่งขับขี่ร่วมทางมองไม่เห็นพุ่งชนเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
"เท่าที่จำได้ พ.ร.บ.ขนส่งทางบกระบุไว้ชัดเจนว่ารถดัดแปลงสภาพไม่สามารถนำมาใช้ขับขี่บนถนนสายหลักได้ ซาเล้งติดเครื่องมอเตอร์ไซค์ชัดเจนว่าเป็นรถดัดแปลงสภาพ ไม่มีทะเบียน ไม่มีใบขับขี่ ไม่มีประกันภัยบุคคลที่ 3 ไม่สวมหมวกกันน็อก ไม่มีไฟหน้าไฟท้ายแล้วทำไมวิ่งฉิวกันบนถนนทุกสาย วิ่งทั้งกลางวันกลางคืน วิ่งผ่านด่านตรวจของตำรวจ ได้ทุก สน. ตอนกลางคืนจะอันตรายมากเนื่องจากซาเล้งไม่มีไฟหน้าไม่มีไฟท้ายทำให้มองไม่เห็น อีกทั้งซาเล้งมีความเร็วต่ำแต่ไม่ขับชิดขอบทางด้านซ้าย รถที่ขับตามหลังมามีโอกาสชนท้ายได้สูง จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องจัดระเบียบโดยด่วน" ผู้ร้องเรียนรายหนึ่งให้ข้อมูล
ทีมข่าวสายตรวจระวังภัยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า มีรถซาเล้งวิ่งบนถนนสายหลักจำนวนไม่น้อยอย่างเช่นที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจริง โดยมีมากในแถบพื้นที่ที่มีร้านรับซื้อของเก่าตั้งอยู่จำนวนมาก เช่น ถนนพระรามที่ 3 ถนนพระรามที่ 2 ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนเกษตร-นวมินทร์ รวมถึงพื้นที่ปริมณฑลอย่าง จ.นครปฐม สมุทรปราการ ปทุมธานี และนนทบุรี
พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วยผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานด้านจราจร ยอมรับว่า รถซาเล้งมีส่วนที่ทำให้เกิดปัญหาการจราจรชะลอตัว เนื่องจากเครื่องยนต์กำลังไม่สูงมาก ทำให้เคลื่อนตัวช้าและอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ก่อนหน้านี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเคยกำชับให้ตำรวจทางหลวงและตำรวจพื้นที่สอดส่องดูแล โดยให้บังคับใช้ พ.ร.บ.การจราจรทางบก พ.ศ.2522 อย่างจริงจัง ซึ่งระยะหลังพบว่า ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวนรถซาเล้งลดน้อยลง แต่ในพื้นที่ปริมณฑล อาทิ นครปฐม สมุทรปราการ ปทุมธานี นนทบุรี ยังมีอยู่ เพราะพื้นที่เหล่านี้ จะมีร้านรับซื้อของเก่าค่อนข้างมาก จึงทำใหัมีรถซาเล้งเข้ามาเก็บของเก่าเพื่อนำไปขายให้แก่ร้านรับซื้อจำนวนมาก ซึ่งหลังจากนี้จะกำชับให้ตำรวจเข้มงวดมากขึ้น
"เราเข้าใจผู้ขับขี่รถซาเล้งว่าจำเป็นต้องทำมาหาเลี้ยงชีพ แต่ต้องเคารพสิทธิของผู้อื่นด้วย ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งหากขับกันในตรอกซอกซอยก็พออนุโลมไป แต่หากออกมาขับบนถนนสายหลักในเวลากลางคืน ต้องติดสัญญาณไฟส่องทาง เเละสัญญาณไฟเตือน บริเวณตัวรถ เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่น สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ที่สำคัญต้องปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดอย่าขับรถด้วยความประมาท โดยให้ชิดขอบทางด้านซ้ายให้มากที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ" พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ กล่าว