
ทบ.ส่ง'เสนารักษ์'10ทีมลงพื้นที่ม็อบ
ทบ.จัด'ชุดปฏิบัติการมวลชน' ส่ง'เสนารักษ์'10ทีมลงพื้นที่ : ตะลุยกองทัพ ทีมข่าวความมั่นคง
ในภาวะที่คู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายต้องการดึง "กองทัพ" มาเข้ากับฝ่ายตน ทั้งเพื่อประทับตราความชอบธรรมในการเคลื่อนไหว และทั้งเพื่อใช้พลานุภาพแห่งกองทัพค้ำบัลลังก์ของตน การวางบทบาทของกองทัพจึงต้องระมัดระวังอย่างที่สุด เพื่อไม่ให้กลายเป็นคู่ขัดแย้งเสียเอง
ล่าสุด ในการประชุมสรุปสถานการณ์ประจำวันเมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธาน
โดยมี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผู้ช่วยผบ.ทบ. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผบ.ทบ. และพล.อ.อักษรา เกิดผล เสธ.ทบ. ร่วมประชุมด้วยนั้น
ทางผบ.ทบ. ได้เน้นย้ำถึงการทำหน้าที่ของกำลังพลในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยสถานที่ราชการสำคัญตามที่ได้รับมอบหมายภารกิจจากทางศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.)
ทั้งยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารทุกคนตรวจสอบ "อุปกรณ์การสื่อสาร" ให้มีความพร้อมสมบูรณ์ในการปฏิบัติงาน เมื่อเกิดเหตุจะได้ไม่เกิดปัญหาเรื่องการสื่อสารระหว่างกัน
ผบ.ทบ. ยังได้มอบหมายให้ผู้บังคับหน่วยลงไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลในพื้นที่ที่ได้รับมอบหมาย และตรวจสอบจำนวนทหารที่ประจำในจุดต่างๆ ด้วย
นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 จัด "ชุดปฏิบัติการมวลชน" ดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนและให้บริการทางการแพทย์กว่า 10 ชุด ทั่วพื้นที่การชุมนุม แม้ว่าจะมีการจัดกำลังพลสนับสนุนภารกิจของตำรวจแล้ว 40 กองร้อยก็ตาม
เบื้องต้น กองทัพบกได้มอบหมายให้ พล.ต.ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 และพล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมของกำลังทหารในการเตรียมการช่วยเหลือประชาชน
พล.ต.ณฐพนธ์ กล่าวถึงภารกิจที่ได้รับมอบหมายว่า ผบ.ทบ.ได้สั่งการให้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ให้แต่งกายให้เรียบร้อย และมีการใส่ "เสื้อเกราะกันกระสุน" เพื่อป้องกันเหตุการณ์จากกลุ่มผู้ไม่หวังดี และได้เน้นย้ำกำลังพลในเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก เพราะที่ผ่านมามีหลายฝ่ายพยายามดึงทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ที่ผ่านมากองทัพได้แสดงจุดยืนชัดเจนแล้ว ทั้งนี้ ในการทำงานของกำลังพลจะต้องไปเป็น "คู่บัดดี้" หากเกิดปัญหาอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้ เนื่องจากเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยส่วนหนึ่งของกำลังพล
“กำลังพลจะต้องปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง และหูตาจะต้องไวกับสถานการณ์ในขณะนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีประชาชนจำนวนมากจะต้องระมัดระวังให้ดี สถานการณ์ความรุนแรงสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หากมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่จ้องจะก่อเหตุให้เกิดความวุ่นวาย ทั้งนี้ เราจะต้องระมัดระวังตลอด 24 ชั่วโมง และปฏิบัติการจะต้องทำแบบควบคู่กันไปแบบคู่บัดดี้ โดยไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวสิ่งที่เป็นข้อขัดแย้ง และให้ยึดมั่นในคำสั่งของผบ.ทบ. อย่างเคร่งครัด” เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 กล่าว
ขณะที่ พล.ต.วราห์ กล่าวว่า ตนและเสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 ได้มาตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจตามจุดต่างๆ ว่าได้มีการวางกำลังในการดูแลรักษาความปลอดภัยถูกต้องหรือไม่ ตามที่ผบ.ทบ.ได้ให้แนวทางในการปฏิบัติงาน โดยเน้นย้ำในเรื่องการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนทั้งสองฝ่าย และพยายามไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นในช่วงที่มีการชุมนุม เพราะจะทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายได้
พล.ต.วราห์ กล่าวว่า เราจะต้องตั้งสมมติฐานในการทำงานว่าหากมีสถานการณ์รุนแรงเกิดขึ้นจะแก้ไขสถานการณ์ปัญหาอย่างไร เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด โดยมีการวางแผนเอาไว้ให้รอบคอบ 1-2-3 ตามลำดับ
"ขอให้มั่นใจว่ากำลังทหารที่ปฏิบัติงานในพื้นที่สนามจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ในฐานะที่ผมเป็นผู้บัญชาการกองกำลังทหาร จะไปตรวจเยี่ยมทุกหน่วยที่มีทหารปฏิบัติงานอยู่ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามแนวทางของกองทัพบกทั้งสิ้น" ผบ.พล.1 รอ. กล่าวย้ำ
...........................................
(หมายเหตุ : ทบ.จัด'ชุดปฏิบัติการมวลชน' ส่ง'เสนารักษ์'10ทีมลงพื้นที่ : ตะลุยกองทัพ ทีมข่าวความมั่นคง)