คอลัมนิสต์

เขมรเสริมกำลังปักหลัก'ช่องตาเฒ่า'ชัยภูมิสำคัญ!

เขมรเสริมกำลังปักหลัก'ช่องตาเฒ่า'ชัยภูมิสำคัญ!

07 พ.ย. 2556

เขมรเสริมกำลังรับคำตัดสินศาลโลก ปักหลัก'ช่องตาเฒ่า'ชัยภูมิสำคัญ! : ตะลุยกองทัพ โดยกวินทรา ใจซื่อ/ทีมข่าวความมั่นคง


              คำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ในคดีตีความคำพิพากษาของศาลโลกปี 2505 จะมีขึ้นในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ ท่ามกลางความหวั่นวิตกว่า คำพิพากษาจะถูกนำไปขยายผลเป็นประเด็นทางการเมืองของทั้ง 2 ประเทศ และอาจเป็นชนวนให้เกิดการปะทะกันของกองกำลังทั้งสองฝ่ายได้โดยง่าย

              แหล่งข่าวความมั่นคงระดับปฏิบัติการในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ รายหนึ่งให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. วันที่ 4 พฤศจิกายน ได้รับรายงานว่า ทหารฝั่งกัมพูชาใช้รถบรรทุกหกล้อ จำนวน 25 คัน ขนกำลังเข้ามาเสริมในพื้นที่ตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง

              "รถบรรทุกได้ทยอยลำเลียงทหารไปส่งที่ห้วยตามาเรีย จากนั้นให้ทหารเดินเท้าไปยังภูมะเขือ ซึ่งการลำเลียงกำลังพลในช่วงกลางคืนทำให้จุดตรวจการณ์ไม่สามารถทราบจำนวนที่ชัดเจน เบื้องต้นคาดว่ามีประมาณ 700-800 คน" แหล่งข่าวความมั่นคงให้ข้อมูล

              แหล่งข่าวคนเดิมวิเคราะห์ว่า การเสริมกำลังดังกล่าวมีความเป็นไปได้ 2 ทาง คือ 1.สร้างสถานการณ์นำกำลังชุดเดิมเข้ามาสับเปลี่ยน เพื่อตบตาฝ่ายไทย หรือ 2.นำกำลังขึ้นมาเสริมจริง โดยนำลูกเมียของทหารเข้ามาอยู่ด้วยกัน เพื่อใช้ในการยั่วยุ และใช้เป็นโล่มนุษย์

              นอกจากนี้ ยังพบว่ามีกำลังทหารบางส่วนค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาอยู่ที่ "ช่องตาเฒ่า" ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ หากทหารกัมพูชาสามารถเข้ามายึดพื้นที่ได้ จะทำให้ทหารชุดปฏิบัติการถูกลอยแพทันที เพราะเป็นเส้นทางหลักในการส่งกำลังบำรุงเข้าไปสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่

              แหล่งข่าวความมั่นคงคนเดิมเผยด้วยว่า ในระดับผู้ปฏิบัติงานได้มีการพูดคุยเพื่อประเมินสถานการณ์เบื้องต้นถึงคำตัดสินของศาลโลกว่า ไทยมีโอกาส "เสียดินแดน" สูง เพราะขณะนี้มีคนกัมพูชาบางส่วนเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่มีปัญหาอ้างกรรมสิทธิ์ของกัมพูชาโดยอ้างแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 แล้ว ซึ่งไทยเองก็อ้างว่าพื้นที่นี้เป็นของไทยเช่นกัน

              "เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้กัมพูชาได้รับประโยชน์ ขณะที่ไทยมีเพียงเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่ไม่มากนัก ประเมินว่า มีความเป็นไปได้มากที่ศาลจะตัดสินเข้าข้างกัมพูชา จึงไม่มีความเป็นไปได้ที่กัมพูชาจะยิงปะทะก่อน ขณะที่คำสั่งของทหารชั้นผู้ใหญ่ก็ไม่มีความสอดคล้องกับการปฏิบัติหน้าที่ทำให้ทหารในพื้นที่ทำงานยาก" แหล่งข่าวคนเดิม กล่าว

              ด้านแหล่งข่าวอีกรายในพื้นที่ชายแดนด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวตรงกันว่า ทหารฝ่ายกัมพูชาระดมกำลังเข้าประชิดชายแดน พร้อมรบเต็มกำลัง โดยมีการนำปืนใหญ่ไปวางไว้ 2 จุดยุทธศาสตร์สำคัญ คือ ภูมะเขือ และปราสาทโคปุระ คาดว่าเป็น "ปืนใหญ่" ที่ทำขึ้นในจีนหรือรัสเซีย มีระยะการยิงถึงตัวอำเภอกันทรลักษ์

              แหล่งข่าวความมั่นคงคนเดิมระบุว่า ขณะนี้การลาดตระเวนในพื้นที่มีความเข้มข้นมากขึ้นทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายกัมพูชามีการเสริมกำลังเข้ามาจำนวนมาก แต่มีการอ้างว่า เป็นการผลัดเปลี่ยนกำลังให้เกิดความเหมาะสม รวมทั้งการขนสัมภาระเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม

              ขณะที่แหล่งข่าวความมั่นคงระดับสูงอีกรายกล่าวว่า เรื่องของกำลังพลในพื้นที่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ยืนยันว่า การรักษาอธิปไตยของประเทศนั้น ทหารไทยไม่เป็นรองอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าสถานการณ์คงไม่พาไปถึงจุดนั้น เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลไทย และรัฐบาลกัมพูชาได้พูดคุยกันมาตลอด รวมถึงระดับผู้นำกองทัพก็ได้ต่อสายพูดคุยกัน ซึ่งแต่ละฝ่ายก็ยืนยันจะยอมรับคำตัดสิน

              แหล่งข่าวระดับสูงคนเดิมยืนยันว่า ได้มีการปรับเปลี่ยนกำลังตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เข้าไปทำหน้าที่แทนทหารตามคำสั่งของศาลโลกอยู่เช่นเดิม โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้ พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง แม่ทัพภาคที่ 2 ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และระมัดระวังอย่างเต็มที่ เพราะไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุจนนำไปสู่การปะทะ และสูญเสียกันขึ้น

............

(หมายเหตุ : เขมรเสริมกำลังรับคำตัดสินศาลโลก ปักหลัก'ช่องตาเฒ่า'ชัยภูมิสำคัญ! : ตะลุยกองทัพ โดยกวินทรา ใจซื่อ/ทีมข่าวความมั่นคง)