
ตร.ถกร้านทอง-สะดวกซื้อแนะตั้ง'ชมรม'ป้องกันโจร
ตร.ถกร้านทอง-สะดวกซื้อแนะตั้ง'ชมรม'ป้องกันโจร : สายตรวจระวังภัย โดยทีมข่าวอาชญากรรม
เหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านทอง-ร้านสะดวกซื้อเกิดขึ้นบ่อยครั้งในหลายพื้นที่ ทำให้ตำรวจเร่งหามาตรการป้องกัน เช่นเดียวกับในท้องที่ จ.พิษณุโลก พล.ต.ต.ชฎิล พรหมไพบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก (ผบก.ภ.จ.พิษณุโลก) ที่เชิญผู้ประกอบการร้านทองและร้านสะดวกซื้อมาหารือร่วมกันเรื่องมาตรการการดูแลความปลอดภัย
"จ.พิษณุโลก มีร้านทองและร้านสะดวกซื้อทั้งหมด 126 ร้าน แบ่งเป็นร้านสะดวกซื้อจำนวน 64 ร้าน ร้านทองจำนวน 62 ร้าน ผมได้เชิญผู้ประกอบการทั้งหมดมาประชุมหารือเพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัยจากเหตุอาชญากรรม และกำหนดมาตรการให้สามารถเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้" พล.ต.ต.ชฎิลกล่าว
สถิติที่ผ่านมาช่วงฤดูท่องเที่ยวในหน้าหนาว เหตุจี้ปล้นร้านค้าทองและร้านสะดวกซื้อมักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมาเกิดขึ้นมาแล้ว 1 ครั้ง ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2556 ที่ร้านห้างทองเยาวราชกรุงเทพฯ ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แต่ตำรวจสามารถวิทยุสกัดจับคนร้ายตามเส้นทางหลบหนีได้อย่างรวดเร็ว คือ นายสมเกียรติ บุญมี อายุ 24 ปี พร้อมของกลาง สร้อยคอทองคำจำนวน 15 เส้น รถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนี โดยนายสมเกียรติให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง รายได้น้อย แต่มีภาระส่งเสียแฟนสาวที่กำลังศึกษาอยู่ ทำให้เงินไม่พอใช้ จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จ.พิษณุโลกถือว่าเป็นเมืองที่กำลังขยายตัว เนื่องจากเขตเมืองขยายออกไปเรื่อยๆ หากนับศูนย์กลางที่สถานีรถไฟออกไปในรัศมีทั้ง 4 ทิศ ในความรับผิดชอบของ สภ.เมืองพิษณุโลก ประมาณ 16 กิโลเมตร จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.บุญญฤทธิ์ โล่สุวรรณ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองพิษณุโลก ลงพื้นที่ตรวจสอบและเซ็นชื่อทุกจุดทุกร้าน โดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง คำนวณเป็นระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร เมื่อพื้นที่กว้างมากขึ้นการดูแลรักษาจำเป็นต้องปรับแผนอย่างมากทีเดียว ต้องขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการด้วย
"ขอให้ทางร้านติดตั้งกล้องวงจรปิด ให้มีมุมกล้องอยู่ในระดับเห็นหน้า เห็นตา ไม่ใช่ติดตั้งกล้องมุมสูง หากติดบริเวณหน้าร้านจะสามารถจับภาพได้ว่า คนร้ายมาทางไหน ไปไหน มีใครมารับหรือไม่ เพื่อให้ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว"
ฉะนั้นจำเป็นต้องวางมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มการตรวจตราสถานที่ต่างๆ หรือร้านค้าให้มากขึ้น แต่ร้านค้าเองก็ต้องหาวิธีการป้องกันด้วย ทั้งการติดตั้งอุปกรณ์กริ่งสัญญานเตือนภัย การติดตั้งกล้องวงจรปิด ส่วนร้านทองจะต้องติดรั้ว หรือกระจก รวมทั้งให้ความร่วมมือกับตำรวจในการเข้าไปตรวจตรา และซักถามข้อมูล เหล่านี้จะช่วยให้ปัญหาอาชญากรรมลดน้อยลง
สำหรับร้านทองได้ขอให้เจ้าของร้านรวมตัวกันตั้งเป็นชมรมกำหนดเวลาเปิด-ปิดให้เป็นเวลา รวมทั้งกำหนดวันหยุดจะเป็นวันอาทิตย์หรือไม่ เจ้าหน้าที่จะได้สะดวกในการจัดกำลังเข้าไปดูแลความปลอดภัยได้อย่างครอบคลุม หากบางร้านไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงคงไม่มีกฎหมายอะไรไปบังคับได้ แต่เชื่อว่าน่าจะคุยกันเข้าใจ
"ผมขอความร่วมมือกับเจ้าของร้าน ไม่ได้กำหนดกรอบว่าจะเป็นรูปธรรมเมื่อนั้น เมื่อนี้ แต่จะเป็นการช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกช่องทอง" พล.ต.ต.ชฎิลกล่าวในตอนท้าย
............
(หมายเหตุ : ตร.ถกร้านทอง-สะดวกซื้อแนะตั้ง'ชมรม'ป้องกันโจร : สายตรวจระวังภัย โดยทีมข่าวอาชญากรรม)