คอลัมนิสต์

เกียรติศักดิ์ของสมาชิกเนติบัณฑิตยสภา

เกียรติศักดิ์ของสมาชิกเนติบัณฑิตยสภา

28 ต.ค. 2556

เกียรติศักดิ์ของสมาชิกเนติบัณฑิตยสภา : กระดานความคิด โดยสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา

              ตามที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวเกี่ยวกับการรับสมัครสมาชิกเนติบัณฑิตยสภา ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า เนติบัณฑิตยสภามีการจัดตั้งขึ้นโดยวัตถุประสงค์ใด หลักเกณฑ์ในการพิจารณารับสมัครสมาชิกเป็นอย่างไร สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกเป็นอย่างไร
              
              เนติบัณฑิตยสภา กำเนิดมาจากโรงเรียนกฎหมายส่วนพระองค์ ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ (กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์) เมื่อ พ.ศ.2440 และมีการสอบไล่เป็นเนติบัณฑิตรุ่นแรกในปีเดียวกันนั้น ต่อมาได้โอนเป็นโรงเรียนหลวง สังกัดกระทรวงยุติธรรม โดยมีเสนาบดีกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้จัดการโรงเรียนกฎหมาย

              เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2457 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ทรงรับเนติบัณฑิตยสภาไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ และมีพระราชประสงค์เพื่อบำรุงการศึกษาวิชากฎหมาย ทั้งการรักษาความประพฤติของทนายความ

              ใน พ.ศ.2491 เนติบัณฑิตยสภาได้จัดตั้งสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภาขึ้น มี ศ.สัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นเลขาธิการสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภาคนแรก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการศึกษานิติศาสตร์ และความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพกฎหมาย เพื่อให้สามารถนำความรู้ทางกฎหมายไปใช้ในทางปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้หลักสูตรการศึกษาอบรมได้ถือแบบอย่างของสภาการศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภาประเทศอังกฤษ และมติของเนติบัณฑิตยสภาสากล ซึ่งเนติบัณฑิตยสภาไทยเป็นภาคีด้วย

              เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2507 พระราชบัญญัติเนติบัณฑิตยสภา พ.ศ.2507 ได้มีผลใช้บังคับ กำหนดให้เนติบัณฑิตยสภา ซึ่งรัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งขึ้นมีฐานะเป็นนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการศึกษานิติศาสตร์และการประกอบอาชีพทางกฎหมาย ตลอดทั้งส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิก

              การบริหารงานของเนติบัณฑิตยสภามีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นสภานายกพิเศษ มีอำนาจหน้าที่กำกับเกี่ยวกับกิจการของเนติบัณฑิตยสภา และมีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า คณะกรรมการเนติบัณฑิตยสภา ประกอบด้วย ประธานศาลฎีกาเป็นนายก ประธานศาลอุทธรณ์และอัยการสูงสุดเป็นอุปนายก และกรรมการอื่นอีก 20 คน ซึ่งเลือกตั้งจากบุคคลที่เป็นสามัญสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี ประเภทละ 5 คน คือ ข้าราชการตุลาการ ข้าราชการอัยการ ทนายความและบุคคลอื่น มีอำนาจหน้าที่บริหารกิจการของเนติบัณฑิตยสภาให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับเนติบัณฑิตยสภา
              
              คณะกรรมการเนติบัณฑิตยสภามีอำนาจในการตราข้อบังคับเนติบัณฑิตยสภา เกี่ยวกับประเภทสมาชิก คุณสมบัติของผู้สมัครเป็นสมาชิก การเข้าเป็นสมาชิก และการขาดจากสมาชิกภาพ คณะกรรมการจึงออกข้อบังคับเนติบัณฑิตยสภา พ.ศ.2507 กำหนดให้สมาชิกมี 5 ประเภท คือ

              1.สามัญสมาชิก

              2.สมาชิกวิสามัญ

              3.สมาชิกสมทบ

              4.ภาคีสมาชิก

              5.สมาชิกกิตติมศักดิ์

              ผู้สมัครเป็นสมาชิกต้องทำคำขอสมัครตามแบบที่กำหนดยื่นต่อเลขาธิการ คำขอสมัครต้องมีสามัญสมาชิกไม่น้อยกว่า 2 คน ซึ่งเป็นสามัญสมาชิกไม่น้อยกว่า 10 ปี ลงลายมือชื่อรับรองว่าผู้สมัครเป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่เป็นบุคคลที่ควรรังเกียจแก่สังคม และประกอบด้วยคุณลักษณะที่จะดำรงเกียรติในการเป็นสมาชิกแห่งเนติบัณฑิตยสภา

              เมื่อเลขาธิการได้รับคำขอสมัครแล้ว จะต้องประกาศชื่อ ถิ่นที่อยู่ และอาชีพของผู้สมัคร เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน เพื่อให้บุคคลทั่วไปทำคำคัดค้าน จากนั้นเลขาธิการจะเสนอใบสมัครพร้อมด้วยคำคัดค้าน (ถ้ามี) ต่อที่ประชุมคณะกรรมการเนติบัณฑิตยสภา เพื่อพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับผู้สมัครดังกล่าว

              ในการพิจารณารับผู้สมัครเป็นสมาชิก ให้คณะกรรมการคำนึงถึงความสมควรที่ผู้สมัครจะพึงได้รับเกียรติเป็นสมาชิกแห่งเนติบัณฑิตยสภาหรือไม่ด้วย และคณะกรรมการย่อมมีสิทธิเด็ดขาดในอันที่จะวินิจฉัยตามที่เห็นสมควร ถ้ามีการไม่รับผู้ใดเป็นสมาชิกประเภทใดด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม ผู้นั้นมีสิทธิยื่นคำขอสมัครเป็นสมาชิกในประเภทนั้นอีกได้เมื่อพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่วันที่มีมติหรือคำสั่งไม่รับแล้วแต่กรณี และถ้ามีการไม่รับผู้ใดเป็นสมาชิกในประเภทนั้นอีก ผู้นั้นหมดสิทธิ์ที่จะขอสมัครเป็นสมาชิกประเภทนั้นอีกต่อไป

              การพิจารณารับสมัครสมาชิก นอกจากหลักเกณฑ์ที่กล่าวข้างต้นแล้ว ผู้สมัครต้องแจ้งกรณีเคยถูกลงโทษทางวินัย เคยต้องคำพิพากษาคดีแพ่ง คดีอาญา หรือคดีล้มละลาย เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการด้วย

              เมื่อคณะกรรมการได้รับบุคคลใดเป็นสมาชิกแล้ว สามัญสมาชิก สมาชิกวิสามัญและสมาชิกกิตติมศักดิ์ มีสิทธิสวมเสื้อครุยเนติบัณฑิตตามกฎหมายว่าเสื้อครุยเนติบัณฑิต ทั้งการเป็นสามัญสมาชิกเป็นคุณสมบัติข้อหนึ่งที่จะมีสิทธิสมัครสอบเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาและอัยการผู้ช่วย อีกทั้งการประกอบวิชาชีพทนายความจะต้องเป็นสมาชิกวิสามัญด้วย

              นอกจากนี้คณะกรรมการมีอำนาจในการถอนชื่อหรือลบชื่อสมาชิกออกจากทะเบียนก็ได้ ในกรณีดังต่อไปนี้

              1.กระทำความผิดอาญาต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ความผิดที่เป็นลหุโทษหรือความผิดที่มีกำหนดชั้นลหุโทษ หรือความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท

              2.ต้องคำพิพากษาให้ล้มละลาย หรือ

              3.ประพฤติตนในทางที่อาจนำความเสื่อมเสียมาสู่เนติบัณฑิตยสภา

              ถ้าคณะกรรมการเห็นว่าการกระทำของสมาชิกผู้นั้นยังไม่ร้ายแรงถึงควรลบชื่อ จะภาคทัณฑ์หรือเพียงแต่ว่ากล่าวตักเตือนก็ได้

              ดังนั้นการพิจารณาของคณะกรรมการเนติบัณฑิตยสภาจะรับบุคคลใดเป็นสมาชิกหรือไม่ต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติเนติบัณฑิตยสภา พ.ศ.2507 และข้อบังคับเนติบัณฑิตยสภา พ.ศ.2507 โดยคำนึงถึงความประพฤติของผู้สมัครและคุณลักษณะที่จะดำรงเกียรติในการเป็นสมาชิกแห่งเนติบัณฑิตยสภาเป็นสำคัญ