คอลัมนิสต์

เร่งแก้ปัญหาตำรวจฆ่าตัวตาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เร่งแก้ปัญหาตำรวจฆ่าตัวตาย : บทบรรณาธิการประจำวันที่23ต.ค.2556

              โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดเผยข้อมูลเรื่องที่ตำรวจฆ่าตัวตายโดยอิงข้อมูลตามปีงบประมาณ พ.ศ.2551-2556 พบว่ามีข้าราชการตำรวจฆ่าตัวตายเฉลี่ย 29.17 นายต่อปี สำหรับปีนี้ปีเดียวมีตำรวจฆ่าตัวตายไปแล้ว 31 นาย ตัวเลขนี้หากเทียบกับการฆ่าตัวตายของประชาชนโดยทั่วไป ตำรวจมีอัตราฆ่าตัวตายสูงกว่าถึง 2.32 เท่า จากการวิเคราะห์พบสาเหตุมาจากเรื่อง ปัญหาครอบครัว ปัญหาสุขภาพ ปัญหาส่วนตัว ปัญหาหนี้สิน และปัญหาที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงานท่ามกลางสภาพการทำงานที่กดดันและตึงเครียด น่าตกใจมากสำหรับตัวเลขดังกล่าว อาชีพตำรวจในประเทศไทยอาจจะต่างจากประเทศอื่นในภูมิภาคนี้หรือประเทศอื่นๆ ทั่วโลก เพราะตำรวจไทยนั้นในสภาพความเป็นจริงต้องรับงานหลายหน้าที่ในคนคนเดียว ทั้งเกี่ยวข้องโดยตรงกับประชาชนในแง่การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เข้าไปเกี่ยวข้องในการชุมนุมทางการเมือง ปัญหาการจราจร ถึงแม้จะมีการแบ่งสายงานกันชัดเจนแต่ก็เกี่ยวพันกันไปหมด

              สาเหตุการฆ่าตัวตายของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่โฆษกสตช.ชี้แจงนั้น ล้วนแล้วแต่มีส่วนสัมพันธ์กันเช่น ปัญหาครอบครัว ต้องยอมรับว่าตำรวจทำงานเกือบตลอดเวลาไม่มีวันหยุดถูกระดมรับงานทั้งการเมืองและอาชญากรรม ทำให้เกิดความห่างเหินกัน ปัญหาด้านสุขภาพยิ่งตำรวจจราจรด้วยแล้วต้องอยู่กับมลพิษเกือบตลอดทั้งวันโดยเฉพาะตำรวจชั้นประทวนมีไม่น้อยที่เป็นโรคปอดเรื้อรังและเสียชีวิตในที่สุด ปัญหาส่วนตัวกับหนี้สินในสภาวะค่าครองชีพในปัจจุบัน เงินเดือนตำรวจนั้นก็เท่าๆ กับส่วนราชการอื่น แต่งานของหน่วยราชการอื่นมีลักษณะเช้ากลับเย็นไม่ต้องมีภาระงานต่อเนื่องคล้ายตำรวจที่ต้องตามจับกุมคนร้าย บางรายเกิดหนี้สินตามมาหรือต้องไปหาเงินจากสิ่งผิดกฎหมาย หาเงินนอกระบบเข้ามาจุนเจือ และปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับการทำงานทั้งตึงเครียดและกดดัน ส่วนหนึ่งก็มาจากคำสั่งผู้บังคับบัญชาที่หมิ่นเหม่ต่อกฎหมายแต่ต้องรับปฏิบัติ มีนายตำรวจไม่น้อยที่สุดท้ายถูกดำเนินคดีเพราะคำสั่งที่ไม่เป็นตัวอักษรและแรงกดดันโดยเฉพาะการตามจับตัวคนร้ายจากคดีสำคัญๆ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน

              การแก้ไขปัญหาตำรวจฆ่าตัวตายต้องถือเป็นเรื่องเร่งด่วนสำหรับผู้บังคับบัญชาในทุกระดับและรัฐบาล การแก้ไขระบบงานอย่างเดียวไม่สามารถช่วยได้เพราะที่ผ่านมาแม้จะมีเงินตามตำแหน่งเพิ่มขึ้น แต่ปัญหาก็ไม่ได้หมดไป ไม่ว่างานจราจร งานสืบสวน หรือแม้กระทั่งพนักงานสอบสวนที่มีทั้งเงินเพิ่มและอัตราตำแหน่งสูงระดับ พ.ต.อ. ตามโรงพัก ทั้งหมดจึงไม่ใช่คำตอบเพราะนอกเหนือจากเงินรายได้ตามงบประมาณแผ่นดินแล้ว ตำรวจยังมีเงินนอกระบบ เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นลำดับต้นๆ ผู้บังคับบัญชาสั่งให้ลูกน้องหาเงินส่ง เก็บส่วยจากธุรกิจสีเทาเสี่ยงต่อกฎหมาย จะว่าไปแล้วเกือบทุกสายงานทั้งจราจร สายปราบปราม งานสืบสวน และกลุ่มพนักงานสอบสวนที่เรียกว่า ค้าสำนวน ตรงนี้คือจุดสำคัญที่ทำให้เกิดแรงกดดันต่ออาชีพ หน้างานทั้งหมดของตำรวจที่ยกมานั้นหากมีเงินตอบแทนที่เร็วและเบิกได้อย่างคล่องตัว เชื่อว่าจะลดความตึงเครียดลงไปได้ การทุจริตคอร์รัปชั่นก็น้อยลง สิ่งสำคัญคือเงินขับเคลื่อนที่ใช้ติดตามงาน มีนายตำรวจหลายคนให้สัมภาษณ์แต่ละคดีต้องใช้เงินนับล้าน ถามว่าเอามาจากไหนหากไม่ใช่เงินธุรกิจผิดกฎหมาย รัฐบาลต้องให้ความสำคัญลงมาแก้ไขปัญหาทั้งแง่โครงสร้างและการเบิกจ่ายงบประมาณ ไม่ใช่เรียกตำรวจไปรับใช้กันอย่างเดียว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ