ชาวนาดาวแดงและสนามหลวง | คมชัดลึก

              กลางสัปดาห์ที่แล้ว มีผู้ชุมนุมร้อยกว่าชีวิต สวมเครื่องแบบทหารดาวแดงไปยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก โดยเรียกร้องให้กองทัพแห่งชาติ ต่อสู้เอาชนะเผด็จการรัฐสภา ทุนผูกขาดที่ทำลายสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และบ่อนทำลายกองทัพอย่างร้ายแรง

              เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อย คงแปลกใจอยู่ครามครันว่า "คอมมิวนิสต์ไทย" กลับชาติมาเกิดอีกหรือ? จึงมีคนแต่งกายคล้ายทหารป่ามาเดินอยู่กลางนาคร

              ผมเคยเขียนเรื่องชุด "ทหารดาวแดง" ในคอลัมน์นี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็คือ อดีตทหารป่าสังกัด "กองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย" (ท.ป.ท.) หรือ "ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย" (ผรท.) ในปัจจุบัน

              พวกเขาเป็นผลพวงของคำสั่งที่ 66/2523 ลงนามโดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีสมัยนั้น แต่กว่าจะถึงวันที่มีการออกคำสั่งดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องกระทำกันชั่วข้ามคืน หรือแค่พลิกฝ่ามือ

              เหตุที่ผมต้องเขียนเรื่องคำสั่ง 66/2523 อีกครั้ง เพราะมีบางคนบิดเบือนข้อมูลทำนองว่า เป็นความเมตตากรุณาปรานีที่หล่นมาจากฟากฟ้า แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ มันมีการต่อสู้ทางความคิดภายในกลุ่มทหารอย่างดุเดือดแหลมคม

              ผมมีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ "9 ปี ใน กอ.รมน." เขียนโดย พ.อ.หาญ พงศ์สิฏานนท์ จัดพิมพ์เมื่อปี 2518 เมื่อหยิบมาอ่านใหม่ ก็ได้ความรู้ใหม่ๆ จากประสบการณ์ตรงของ "หัวหน้ากองข่าว" ในการทำหน้าที่การข่าวสู้กับคอมมิวนิสต์

              พ.อ.หาญ มองว่า ในยุคโน้น กอ.รมน. เข้าใจคำว่า "คอมมิวนิสต์" แตกต่างกันมาก ทหารส่วนใหญ่จะเชื่อว่า ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) เป็นข้าศึกอริราชศัตรูแทรกซึมเข้ามาบ่อนทำลาย ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์  ขณะที่ทหารส่วนน้อยเห็นว่า "คอมมิวนิสต์เป็นปัญหาการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติของสังคม ปัญหาคอมมิวนิสต์นั้นแท้จริงแล้วก็คือ ปัญหาพรรคการเมือง"

              พคท.เป็นพรรคการเมือง ไม่ต่างพรรคประชาธิปัตย์ พรรคกิจสังคม พรรคเกษตรสังคม ฯลฯ ในเวลานั้น เพียงแต่พรรคการเมืองส่วนใหญ่เดินแนวทางสันติ แต่ พคท. เดินในแนวทางรุนแรง

              ฉะนั้น พ.อ.หาญ จึงเปรียบเทียบว่า "พคท.ใช้แนวทางรุนแรง กล่าวคือ จับอาวุธเช่นเดียวกับพรรคพวกกลุ่มการเมืองที่ใช้กำลังทหารทำการปฏิวัติรัฐประหารในอดีตนั่นเอง...จะผิดแปลกแตกต่างกันด้วยโอกาส เช่นหากยังไม่ชนะหรือยังไม่สำเร็จก็ถูกขนานนามว่าพวกกบฏ หรือพวก ผกค. เมื่อชนะแล้วหรือสำเร็จแล้วก็มักจะเปลี่ยนเรียกใหม่ว่าฝ่ายรัฐบาล"

              ผู้ที่เสนอว่า คอมมิวนิสต์เป็นปัญหาการเมือง แนวทางแก้ปัญหาก็ต้องแก้ด้วยการเมือง ไม่ใช่แก้ปัญหาด้วยการใช้แสนยานุภาพ กลายเป็น "แกะดำ" ใน กอ.รมน. และสุดท้ายเขาก็ถูกบีบให้ลาออกจากราชการ

              จากปี 2518 ถึงปี 2523 สถานการณ์การเมืองทั้งในและต่างประเทศ พลิกผันรวดเร็วมาก และในที่สุด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ตัดสินใจออกคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 ว่าด้วยนโยบายการเมืองนำการทหาร หรือการแก้ไขปัญหาคอมมิวนิสต์ด้วยการเมือง

              ว่าไปแล้ว สถานการณ์ทางสากลบีบให้รัฐบาลไทย พ.ศ.โน้น คือเหตุปัจจัยหลักที่ทำให้รัฐบาลเปรมต้องตัดสินใจเลือกแก้ปัญหาคอมมิวนิสต์ด้วยการเมือง

              เมื่อศึกษากันอย่างจริงจัง ก็จะทราบว่า นายทหารนอกคอกแบบ พ.อ.หาญ พงศ์สิฏานนท์ หรือนายทหารที่เรียกตัวเองว่า "ทหารประชาธิปไตย" ต้องใช้เวลาอธิบายความกับคนสีเดียวกันนานเท่าใด กว่าทุกฝ่ายจะยอมรับแนวคิดดังกล่าวข้างต้น

              เหมือนโลกหมุนกลับ 360 องศา พ.ศ.นี้ ผู้ที่ได้รับอานิสงส์จากคำสั่งนายกฯ เปรม พากันแต่งชุดทหารดาวแดง มาเรียกร้องให้ทหารต่อสู้เอาชนะเผด็จการรัฐสภา ที่มีเนื้อหาคล้ายคำสั่งที่ 65/2525 ว่าด้วยการสร้างประชาธิปไตยในฝันของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ

              มิเพียงเท่านั้น ทหารดาวแดงยุคโซเชียลมีเดีย ยังยึดถือวินัย 10 ข้อของ ทปท. แต่ไม่เอายุทธศาสตร์ "โค่นภูเขาสามลูก" (นายทุน ขุนศึก ศักดินา) ดั่งเช่นในอดีต โดยทหารดาวแดงสนามหลวง มีจุดยืนจะพิทักษ์สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ สมดังคำร้องเพลงมาร์ชธรรมาธิปไตย

              "เหล็กเพชรยังพังทลาย สิ่งใดที่ยังยืนยง ขุนเขาราบลง เมื่อได้ผ่านถึงกาลเวลา.." พลันที่นึกถึงเพลงเก่าๆ ก็ยิ่งมึนงงกับเรื่องแปลกเหลือเชื่อ เมื่อเห็นดาวแดงส่องแสงริบหรี่เหนือทุ่งพระเมรุ

...........

(หมายเหตุ : ชาวนาดาวแดงและสนามหลวง : มนุษย์สองหน้า  โดยแคน สาริกา)