คอลัมนิสต์

เด้ง'ร.ต.อ.'เซ่นหมายเรียกแม่ค้าถั่วต้ม

เด้ง'ร.ต.อ.'เซ่นหมายเรียกแม่ค้าถั่วต้ม

20 มิ.ย. 2556

เด้ง'ร.ต.อ.'ช่วยราชการ เซ่นหมายเรียกแม่ค้าถั่วต้ม : สายตรวจระวังภัย โดยทีมข่าวอาชญากรรม


             "ป้าไม่เคยมีเงินเก็บสักบาท หาเช้ากินค่ำไปวันๆ เท่านั้น แถมถูกขู่จะออกหมายจับอีก ทำให้เครียดและมีอาการจะเป็นลมแทบทุกวัน กลุ้มใจมาก สุขภาพแย่ลง กินไม่ได้นอนไม่หลับ หมดเรี่ยวหมดแรง ไม่สามารถหาบถั่วต้มไปขายได้" นางปรีดา เจริญสุข อายุ 58 ปี แม่ค้าขายถั่วต้มตลาดหลังสวน จ.ชุมพร เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว "คม ชัด ลึก ทีวี" จ.ชุมพร

             พร้อมกับโชว์หมายเรียกของกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2556 เป็นหมายเรียกครั้งที่ 2 ลงนามโดย "ร.ต.อ." พนักงานสอบสวน มาให้ผู้สื่อข่าวดู

             นายสาธิต ศรีหฤทัย ผู้สื่อข่าวคมชัดลึกทีวี ประจำ จ.ชุมพร ชี้แจงผ่าน "รายการโรงพักระวังภัย" เนื่องจากนางปรีดาอ่านหนังสือไม่ออกว่า หมายเรียกฉบับนี้เป็นฉบับที่ 2 โดยรายละเอียดของหมายเรียก ระบุว่า เป็นคดีอาญาระหว่าง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (ผู้กล่าวหา) กับบริษัทแห่งหนึ่งกับพวก (ผู้ต้องหา) นางปรีดา เจริญสุข เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทดังกล่าว

             มีหน้าที่ต้องทำบัญชีและกรรมการผู้จัดการไม่ได้ยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ภายในหนึ่งเดือน นับแต่วันที่งบการเงินนั้นได้รับอนุมัติในที่ประชุมใหญ่ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ. 2545 มาตรา 11 วรรค 1 มีโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท และในฐานะกรรมการผู้จัดการ มีโทษปรับอีกไม่เกินห้าหมื่นบาท

             นายสาธิต ชี้แจงอีกว่า หมายเรียกดังกล่าวยังมีคำสั่งให้นางปรีดาเดินทางไปพบ "ร.ต.อ." คนดังกล่าว ที่กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ อาคาร 2 ชั้น 9 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ เวลา 10.00-15.00 น. วันที่ 24 พฤษภาคม 2556 ในหมายเรียก ระบุว่า ถ้าไม่ไปพบก็จะออกหมายจับ จับกุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา มาตรา 66

             ส่วนนางปรีดา เล่าว่า เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับหมายเรียกจากไปรษณีย์ มีพี่สาวเจ้าของบ้านอ่านให้ฟัง เมื่อได้ฟังถึงกับเป็นลม เพราะเป็นแค่แม่ค้าหาบถั่วต้มขายในตลาดหลังสวน มีรายได้เพียงไม่ถึงวันละ 200 บาท พอมีกินมีใช้ไปวันๆ

             "ชีวิตนี้ไม่เคยไปกรุงเทพฯ เลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เคยเอาประชาชนให้ใครเพื่อไปทำอะไรกับใคร แต่จู่ๆ กลายเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทใหญ่โตในกรุงเทพฯ ที่ไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อของบริษัท"

             นางปรีดาบอกอีกว่า อยากจะขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้ตัวเอง จึงติดต่อไปยังผู้สื่อข่าวมาช่วยเหลือและพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ เพื่อให้ตำรวจหน่วยดังกล่าวตรวจสอบแก้ไขให้ถูกต้อง และรับผิดชอบในความผิดพลาดครั้งนี้ด้วย

             ขณะที่ พ.ต.อ.ชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ รองผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมเศรษฐกิจ (รอง ผบก.ปอศ.) ชี้แจงผ่าน "รายการโรงพักระวังภัย" ว่า ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ตำรวจเจ้าของคดีไปช่วยราชการแล้ว สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น อาจเป็นเพราะกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินกับคดีกับบริษัท ซึ่งแต่ละครั้งจะส่งมาให้ดำเนินเป็นหมื่นๆ บริษัท โดยแนบรายชื่อกรรมการบริษัท เช่นกรณีบริษัทนี้มีรายชื่อเป็นกรรมการบริษัท 7 คน แต่ไม่ได้แนบตัวเลข 13 หลัก มาให้ ตำรวจจึงไปตรวจสอบจากระบบกรมการปกครอง ปรากฏว่า มีชื่อคนเดียว จึงส่งไปตามนั้น ทั้งที่จริงๆ แล้วชื่อนี้มีหลายคนด้วยซ้ำ

             "คดีของนางปรีดาจบแล้ว เป็นการออกหมายผิด โดยพิจารณาตามรูปภาพ อายุ พฤติการณ์ เมื่อออกหมายผิดก็ต้องถอน นางปรีดาก็ไม่ต้องทำอะไร ซึ่งวันศุกร์นี้ ( 21 มิ.ย.) จะเชิญกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์มาพูดคุยว่า ควรจะมีการกล่าวโทษเฉพาะคนลงชื่อในงบดุล เพราะการกล่าวโทษลักษณะนี้เป็นการเหวี่ยงแห ไม่เป็นธรรม"

             "ในส่วนของนางปรีดา ตอนนี้ท่านผู้การได้ส่งตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาคนหนึ่งเดินทางไปพบที่บ้านแล้ว เพื่อขอโทษที่ทำให้ตกใจ เป็นข้อผิดพลาดของพนักงานสอบสวน ใครหรือบุคคลใดที่ได้รับหมายเรียกแล้วมั่นใจว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทเลย สามารถประสานพนักงานสอบสวนได้ ถ้าโทรไปหาแล้ว 2 ครั้ง พนักงานสอบสวนไม่รับสาย ให้ร้องเรียนได้เลย ผมจะดำเนินการทันที" พ.ต.อ.ชัยณรงค์กล่าวในทันที

...................

(หมายเหตุ : เด้ง'ร.ต.อ.'ช่วยราชการ เซ่นหมายเรียกแม่ค้าถั่วต้ม : สายตรวจระวังภัย โดยทีมข่าวอาชญากรรม)