
บีอาร์เอ็นและ'อามีน โต๊ะมีนา'
บีอาร์เอ็นและ'อามีน โต๊ะมีนา' : มนุษย์สองหน้า โดย แคน สาริกา
นับตั้งแต่มีการตั้ง "ศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้" (ศปก.กปต.) โดยให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการ ศปก.กปต. ก็มีผลงานที่ได้รับการความสนใจจากสื่อคือ มีคำสั่งแต่งตั้งนักการเมืองกลุ่มวาดะห์ เป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี
ในกลุ่มที่ปรึกษาชุดดังกล่าว มีรายชื่อของ เด่น โต๊ะมีนา อดีต ส.ส.ปัตตานีหลายสมัย ซึ่งเป็นบุตรชายของ "หะยีสุหรง" และเป็นน้องชายของ "หะยีอามีน โต๊ะมีนา" อดีต ส.ส.ปัตตานี 2 สมัย พร้อมกับ พ.ญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 16 กรมสุขภาพจิต ที่เป็นบุตรสาวของเด่น โต๊ะมีนา
ดั่งที่ทราบกัน "เด่น" เป็นผู้รวบรวม ส.ส.ชายแดนใต้ ก่อตั้ง "กลุ่มวาดะห์" ตั้งแต่สมัยเป็น ส.ส.สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่กลุ่มนี้ก็ประสบความสำเร็จทางการเมืองในการเลือกตั้ง 22 มีนาคม 2535 โดยสวมเสื้อพรรคความหวังใหม่ ลงสนามทั้ง 3 จังหวัด (ปัตตานี นราธิวาส และยะลา)
ผลการเลือกตั้ง 2535/1 พรรคประชาธิปัตย์ชวดเก้าอี้ ส.ส.3 จังหวัดเป็นครั้งแรก และพรรคความหวังใหม่ ได้ 7 ที่นั่ง (พรรคสามัคคีธรรม 2 ที่นั่ง)
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายทหารใหญ่ มีบทบาทในการดับไฟใต้สมัยแรก ด้วยนโยบายการเมืองนำการทหาร และเฉพาะที่ชายแดนใต้ ได้ใช้ชื่อโครงการพัฒนาเพื่อสันติสุข "ฮารับปันบารู" จนเป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่
เมื่อ พล.อ.ชวลิต ตั้งพรรคความหวังใหม่ จึงดึงนักการเมืองกลุ่มวาดะห์มาร่วมงาน และเขียนชื่อพรรคความหวังใหม่ เป็นภาษามลายูว่า PARTI HARAPAN BARU
เวลาที่ "เด่น" ไปหาเสียงที่ไหนในเวลานั้น ก็มักจะพูดว่า "ผมรู้จัก พล.อ.ชวลิต ตั้งแต่สมัยเป็น ผบ.ทบ. ผบ.สส. เคยทำงานด้วยกัน โดยเฉพาะกรณีอามีน"
ครั้งหนึ่ง พล.อ.ชวลิต เคยทอดสะพานสันติภาพ เชื้อเชิญผู้นำมุสลิม 3 จังหวัด รวมถึง "หะยีอามีน โต๊ะมีนา" ที่ลี้ภัยการเมืองอยู่ในมาเลเซียให้กลับประเทศ ในสมัยดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. แม้จะไม่สำเร็จ แต่ก็เป็นเนื้อนาบุญอันส่งผลมาถึงการเลือกตั้ง 2535/1 ที่ปลายด้ามขวาน
สำหรับหะยีอามีน โต๊ะมีนา เป็นบุตรชาย "หะยีสุหรง" ที่ถูกศาลตัดสินจำคุก 4 ปี 8 เดือน ฐานกล่าวร้ายรัฐบาล ตามเอกสารที่แจกจ่ายต่อประชาชน ส่วนโทษฐานแบ่งแยกดินแดน ศาลยกฟ้อง
ปี 2497 หลังจากพ้นโทษแล้ว หะยีสุหรงเดินทางกลับปัตตานี แต่ระหว่างถูกตำรวจอุ้มไปฆ่าด้วยการถ่วงน้ำที่ทะเลสาบสงขลา พร้อมคนสนิทและลูกชาย
เมื่อหะยีอามีน โต๊ะมีนา ลูกชายของหะยีสุหรง ลงสมัคร ส.ส.เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2500 ได้นำเรื่องศาสนานำการเมือง เรื่องสิทธิเสรีภาพของคนมุสลิมมาปราศรัยหาเสียง หะยีอามีนจึงได้รับเลือกให้เป็น ส.ส.ปัตตานี 2 สมัย ช่วงที่มีการเลือกตั้ง 2 ครั้งในปีเดียวกัน
ปี 2501 หะยีอามีน จัดพิมพ์หนังสือชื่อ "รวมแสงแห่งสันติ" ออกเผยแพร่จำนวน 10,000 เล่ม เนื้อหาเน้นความร่วมมือกันในหมู่ชาวมลายู ปรากฏว่า หนังสือของหะยีอามีนถูกเผาทิ้งทั้งหมด และตัวเขาถูกจับในข้อหาแบ่งแยกดินแดน
หะยีอามีน ถูกส่งฟ้องศาลทหารกรุงเทพฯ ในข้อหาสมคบกับพวกกระทำการเป็นขบถเพื่อแบ่งแยกราชอาณาจักร กระทำการโฆษณาโดยทางวาจา และหนังสือให้ประชาชนกระด้างกระเดื่องเพื่อก่อการขบถ
13 มีนาคม 2503 อุสตาซอับดุลการิม ก่อตั้ง "ขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปัตตานี" (Barisan Revolusi Nasional Melayu Patani) หรือที่รู้จักกันในนาม "บีอาร์เอ็น"
ก่อนปี 2500 อุสตาซอับดุลการิม ได้ร่วมต่อสู้กับ "ขบวนการแนวร่วมปลดแอกแห่งชาติปัตตานี" หรือ "บีเอ็นพีพี" ภายใต้การนำของ ต่วนกูญาลาลนาเซร์ (อดุลย์ ณ สายบุรี)
แต่หลังสิ้น "ต่วนกูญาลาลนาเซร์" จึงเกิดบีอาร์เอ็น โดยการนำของอุสตาซ อับดุลการิม เจ้าของทฤษฎี "ชาตินิยมอิสลามสังคมนิยม" ที่หันหลังให้อุดมการณ์ "กู้ชาติเพื่อเจ้า"
การเคลื่อนไหวของบีอาร์เอ็น เข้มแข็งกว่าบีเอ็นพีพี และมีการจัดตั้ง "กองทัพปลดแอกมุสลิมฯ" ขยายงานมวลชนออกไปอย่างกว้างขวาง
ปี 2508 ก่อนถึงวันนัดฟังคำพิพากษาวันเดียว คณะรัฐมนตรีรัฐบาลถนอม กิตติขจร มีมติให้ถอนฟ้องหะยีอามีน ด้วยเหตุผลทางการเมือง
เมื่อหะยีอามีนได้รับการปล่อยตัว และกลับไปอยู่ปัตตานี ก็ถูกติดตาม และขึ้นบัญชีดำ จนต้องลี้ภัยอยู่ในบ้านญาติทางฝั่งมาเลย์ และเสียชีวิตในประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อหลายปีก่อน
มีข้อมูลของหน่วยความมั่นคงระบุว่า "อามีน" มีส่วนร่วมในการก่อตั้งบีอาร์เอ็น และเป็นต้นคิดในการแยกตัวเป็น "บีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต" แต่ข้อมูลนี้ก็ได้รับการปฏิเสธจากคนในตระกูล "โต๊ะมีนา"
"เด่น" ย้ำกับสื่อทุกครั้งว่า พี่ชาย-อามีน ก็ไม่ต่างจากบิดา-หะยีสุหรง ทั้งคู่ล้วนเป็นเหยื่ออธรรม
..................
(หมายเหตุ : บีอาร์เอ็นและ'อามีน-โต๊ะมีนา' : มนุษย์สองหน้า โดย แคน สาริกา)