
'มอเตอร์ไซค์...ไฟฟ้า'คู่ชีพสายตรวจ
'มอเตอร์ไซค์...ไฟฟ้า' คู่ชีพ...ตำรวจสายตรวจ : สารพันตำรวจ โดยพัฐอร พิจารณ์โสภณ
หากใครเห็นดาบตำรวจนายหนึ่งที่ประจำอยู่ที่ตู้พักสายตรวจบ้านเขาพระงาม อ.เมือง จ.ลพบุรี ขี่มอเตอร์ไซค์คันเล็กๆ มีเสียงไม่ดังมาก ออกตรวจในพื้นที่ใกล้ๆ อยู่เป็นประจำ คงแอบสงสัยว่าทำไมหน้าตาเจ้ามอเตอร์ไซค์สายตรวจถึงได้เปลี่ยนไปจากเดิม ก่อนจะถึงบางอ้อว่าเจ้ามอเตอร์ไซค์คันเล็กนี้ แปรสภาพจากโครงรถมอเตอร์ไซค์เก่า ก่อนจะมีการนำมาดัดแปลงกลายเป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพื่อนำมาใช้ในการเป็นสายตรวจชุมชนนั่นเอง
ด.ต.เชิงชาย เหลืองดำรงค์ ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองลพบุรี เล่าให้ฟังว่า ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบประดิษฐ์อยู่แล้ว เคยเรียนด้านช่างยนต์มาก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง บางทีก็อาศัยเปิดอินเทอร์เน็ตอ่านเก็บความรู้ไปเรื่อย จนวันหนึ่งคิดว่าอยากทำมอเตอร์ไซค์ไว้พาลูกสองคนขี่รถเล่นในหมู่บ้าน แต่อยากให้เสียงมันเงียบไม่ไปรบกวนชาวบ้าน ประกอบกับออกตรวจไปตามร้านขายของเก่าบ่อยๆ มักจะมีคนนำของที่ลักลอบขโมยมาขาย เมื่อเห็นว่ามีเศษเหล็กและโครงจักรยานยนต์เก่าที่ไม่ได้นำมาใช้งานอยู่จำนวนมาก จึงมีความคิดที่จะนำมาประกอบเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยมีการเชื่อมเหล็ก ต่อชุดมอเตอร์ และแบตเตอรี่ ก็ลองมาเชื่อมมาวางโครงแล้วก็ซื้อแฮนด์ที่ซื้อตามตลาดนัดมาประกอบ รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่สั่งเอามาจากอินเทอร์เน็ต จึงกลายมาเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าคันนี้
"จริงๆ ควรจะใช้เวลาไม่นาน แต่เนื่องจากงานตำรวจไม่ค่อยมีเวลา กว่าจะประกอบเสร็จและลองใช้ก็นานหลายเดือน เพราะค่อยๆ ทำวันละนิดวันละหน่อย จนออกมาเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเพื่อให้สามารถนำไปขับขี่ได้อีกครั้ง แต่รถจักรยานยนต์คันนี้ไม่ได้ใช้น้ำมันแต่อย่างใด แต่เป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าแทนเพื่อเป็นการช่วยต้นสังกัดประหยัดการใช้น้ำมันและเป็นการช่วยลดมลพิษได้อีกทางหนึ่งด้วย"
ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปรามรายนี้ เล่าต่อไปว่า เมื่อทำเสร็จเห็นว่าใช้ได้ดีก็เลยนำมาใช้ในที่ทำงาน กลายเป็นรถสายตรวจอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งสะดวกมากเพราะรถมีขนาดเล็กเข้าออกได้ทุกซอยและไม่ส่งเสียงรบกวนชาวบ้าน ยังลดมลพิษ ประหยัดน้ำมัน และที่เป็นจุดเด่นของรถคันนี้คือมีเสียงที่เงียบ หากมีการก่อเหตุของคนร้ายขึ้นในหมู่บ้านเมื่อได้รับแจ้งรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะวิ่งไปถึงตัวคนร้ายได้โดยไม่มีเสียง
โดยรถคันนี้ใช้แบตเตอรี่ในการขับเคลื่อนที่ตัวรถจะมีไฟส่องสว่าง มีกระดิ่งไว้ทักทายชาวบ้านในเวลาออกตรวจจะวิ่งได้ประมาณ 20-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และรถต้นแบบคันนี้ ชาร์จไฟครั้งหนึ่งจะวิ่งได้สักประมาณ 20 กิโลเมตรก็ต้องนำมาชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง โดยจะใช้เวลาชาร์จประมาณ 1-2 ชั่วโมง ก็สามารถใช้ได้ ซึ่งพอสำหรับเป็นสายตรวจในหมู่บ้านแล้ว เพราะการออกตรวจเมื่อแวะบ้านไหนก็สามารถขอชาร์จไฟที่บ้านของชาวบ้านได้
"เมื่อก่อนจะใช้รถยนต์ไป แต่หลังๆ เห็นว่าพื้นที่มันใกล้เลยใช้จักรยานยนต์ไฟฟ้าคันนี้แทน หรือเกิดเหตุในพื้นที่ไม่ไกลมาก อย่างเหตุทะเลาะวิวาท รถชนใกล้ๆ ถึงแม้จะวิ่งได้ไม่เร็วมากแต่ก็ประหยัดและไม่สร้างมลพิษ กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการใช้งาน แรกๆ พอขับออกไปตรวจชาวบ้านก็มีแซวบ้างว่าขี่รถอะไรมา บางทีก็แซวกันขำๆ"
ด.ต.เชิงชาย เผยความตั้งใจว่า ตอนนี้ก็ผลัดกันใช้อยู่ที่ตู้สายตรวจบ้านเขาพระงาม ที่จะเลือกใช้ตามความเหมาะสมของหน้างาน ซึ่งเวลาออกไปตรวจก็จะพ่วงสายชาร์จไปด้วย เมื่อแบตเตอรี่หมดที่ไหนก็สามารถชาร์จตรงนั้นได้เลย แต่ตอนนี้ก็กำลังคิดค้นพัฒนาให้มันชาร์จในตัวได้แบบรถยนต์ จึงต้องอาศัยถามชาวบ้านร้านค้าที่มีความรู้อยู่บ่อยๆ ก็เหมือนเป็นการสร้างมวลชนที่เขาจะได้กล้ามาแจ้งเบาะแสกับเราได้
ด้าน พ.ต.อ.ณัชภูม เหลืองวิไล ผกก.สภ.เมืองลพบุรี ได้ทดลองขับขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า หรือจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นรถต้นแบบสายตรวจประจำหมู่บ้าน บอกว่า แนวความคิดนี้เป็นแนวความคิดที่ดีเพราะช่วยประหยัดพลังงานและช่วยลดมลพิษในหมู่บ้านขึ้นมาได้ทั้งเสียงและควันจากท่อไอเสีย ซึ่งโรงพักจะมีการสนับสนุนต่อไปเพราะถือเป็นตำรวจที่มีความคิดดี และต้องมีการทดลองใช้อีกระยะหนึ่ง และต้องพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย
........
(หมายเหตุ : 'มอเตอร์ไซค์...ไฟฟ้า' คู่ชีพ...ตำรวจสายตรวจ : สารพันตำรวจ โดยพัฐอร พิจารณ์โสภณ)