คอลัมนิสต์

'เสธ.หนั่น'กับ'เสธ.อ้าย'

'เสธ.หนั่น'กับ'เสธ.อ้าย'

28 พ.ย. 2555

'เสธ.หนั่น'กับ'เสธ.อ้าย' : มนุษย์สองหน้า โดยแคน สาริกา

              ก่อนหน้า "เสธ.อ้าย" จะนัดชุมนุมใหญ่ 2 วัน ก็มีข่าว "เสธ.หนั่น" พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ได้เข้ารับการรักษาพยาบาลที่ รพ.ศิริราช ด้วยปัญหาโรคระบบทางเดินหายใจ (ถุงลมโป่งพอง) ขณะนี้ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์

              ครั้นถึงวันที่ "เสธ.อ้าย" พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นำทัพประชาชนออกสู่สมรภูมิ ก็ประสบความล้มเหลวเหมือนคราวที่เขานำกำลังทหาร 3 กองพัน เข้าก่อการยึดอำนาจแต่ไม่สำเร็จเมื่อ 35 ปีที่แล้ว

              สองอดีตนายทหารเป็นตัวละครที่โลดแล่นอยู่ในหนังสือ "กอดคอเข้าคุก" เขียนโดย ศิระ ดีระพัฒน์, สมชาย ฤกษ์ดี และวีระ มุสิกพงศ์

              สมัยโน้น "ศิระ-สมชาย-วีระ" เป็นนักข่าวประจำกองบรรณาธิการนสพ.ชาวไทย โดยมีเจ้าของนสพ.ชื่อ สมพจน์ ปิยะอุย ซึ่งในบันทึกเบื้องหลังการยึดอำนาจเล่มนี้บอกว่า "สมพจน์" เป็นสปอนเซอร์รายหนึ่งของ พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ

              จากหนังสือ "กอดคอเข้าคุก" บอกเล่าสาเหตุที่ "เสธ.หลาด" ต้องคิดการใหญ่ สืบเนื่องมาจากแรงแค้นส่วนตัวที่ถูกกระทำจากคณะปฏิรูปการปกครอง 2519 ที่มีคำสั่งปลด "พล.อ.ฉลาด" ออกจากตำแหน่งประจำการกองบัญชาการทหารสูงสุด

              ช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 พล.อ.ฉลาด ได้รับการสนับสนุนจากพรรคชาติไทย จนขยับขึ้นตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารบก แต่ภายหลังรัฐมนตรีกลาโหมของพรรคประชาธิปัตย์ เด้ง พล.อ.ฉลาดไปประจำกองบัญชาการทหารสูงสุด และถูกปลดโดยคณะรัฐประหารที่นำโดย พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ และ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์

              ศิระ ดีระพัฒน์ บันทึกฉากการวางแผนปฏิวัติโดย พล.อ.ฉลาด กำหนดให้กำลังทหารจาก "พล.ร.9" เมืองกาญจนบุรี เป็นตัวเปิดเกม หลังจากนั้น กำลังทหารในกรุงเทพฯ จะเป็นหน่วยสนับสนุนต่อเนื่อง

              ทำไมต้องเป็นทหารกองพลทหารราบที่ 9 ? คำตอบคือ "เสธ.หลาด" มีลูกน้องที่ไว้ใจมากที่สุดคนหนึ่งชื่อ พ.ต.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ (ยศและตำแหน่งขณะนั้น)

              "พ.ต.บุญเลิศ" ถือว่า พล.อ.ฉลาด เป็นผู้มีพระคุณ ตั้งแต่สมัยเขารับราชการเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษที่จังหวัดเชียงราย "เสธ.หลาด" ดูแลกรมยุทธการ ได้ชวนทหารหนุ่มไปอยู่กรุงเทพฯ ต่อมาได้ไปร่วมรบในสงครามเวียดนามในนาม "กองพลเสือดำ" โดยมี "เสธ.หลาด" เป็น ผบ.กองกำลังทหารไทย

              เมื่อสงครามในเวียดนามยุติ ทหารอาสาสมัครในนามกองพลเสือดำก็เข้าประจำการในกองพลทหารราบที่ 9 เมืองกาญจนบุรี ฉะนั้นทหารหนุ่มคุมกำลังระดับกองพันจึงมีเคารพนับถือ "เสธ.หลาด" เป็นอย่างมาก

              เวลานั้น "พ.ต.บุญเลิศ" เป็นผู้บังคับกองพันที่ 1 และทำการแทน 2 กองพันคือกองพันที่ 2 และ 3 ได้นำกำลังทหารไม่เต็มอัตราจากเมืองกาญจน์ เข้ายึดสวนรื่นฤดี หอประชุมกองทัพบก และสนามเสือป่า ในช่วงเช้าตรู่วันที่ 26 มีนาคม 2520 แต่โชคร้ายของ "เสธ.หลาด" ไม่มีหน่วยทหารในกรุงเทพฯ ออกมาสนับสนุนตามที่ตกลงกันไว้

              สุดท้ายฉากจบของคณะปฏิวัติก็มาถึง พ.ต.สุรยุทธ์ จุลานนท์ (ยศและตำแหน่งขณะนั้น) ในฐานะเพื่อนรักของ พ.ต.อัศวิน หิรัญศิริ ลูกชาย "เสธ.หลาด" ได้อาสา พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะเลขาธิการคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน เข้าเจรจากับกลุ่มผู้ก่อการปฏิวัติจนได้ข้อยุติ

              รัฐบาลออกแถลงการณ์ชี้แจงเรื่องการยินยอมให้บุคคล 5 คน ประกอบด้วย พล.อ.ฉลาด, พ.ท.สนั่น ขจรประศาสน์ (ทหารคนสนิทของ เสธ.หลาด), พ.ต.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์, พ.ต.วิศิษฐ์ คงประดิษฐ์ และพ.ต.อัศวิน หิรัญศิริ (ลูกชายของ เสธ.หลาด) ให้สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัวนายทหารชั้นผู้ใหญ่สองคน

              พอถึงสนามบินดอนเมือง พล.อ.เกรียงศักดิ์ไม่ทำตามข้อตกลง หรือพูดง่ายๆ ว่า "หักหลัง" จึงทำให้ผู้ก่อการทั้งหมดกลายเป็นกบฏในทันที

              วันนี้ "เสธ.อ้าย" อดีตผู้ก่อการ 26 มีนา ร่วมมือกับ สมพจน์ ปิยะอุย ตั้งองค์การพิทักษ์สยาม ประกาศปฏิวัติประชาชน แต่กระทำการไม่สำเร็จ และกำลังโดนกล่าวโทษว่าเป็น "กบฏ" อีกครั้งหนึ่ง