
เตรียมรับมือแผ่นดินไหว
เตรียมรับมือแผ่นดินไหว : บทบรรณาธิการประจำวันที่ 14 พ.ย.2555
ที่ผ่านมาประเทศไทยมักเกิดภัยธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับน้ำมากกว่าภัยพิบัติลักษณะอื่นๆ ซึ่งถือเป็นภัยร้ายแรงนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เหตุอุทกภัยใหญ่แต่ละครั้งสร้างความวิตกกังวลให้แก่ประชาชนเป็นอย่างมาก มีผู้คนล้มตาย บาดเจ็บ จำนวนไม่น้อย เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล และกระทบลงไปถึงระดับครัวเรือนโดยตรง ทำให้ทุกรัฐบาลมุ่งเน้นไปในเรื่องการดูแลน้ำในภาพรวมมากกว่าภัยธรรมชาติชนิดอื่นๆ อย่าง แล้งหรือภัยหนาว ทั้งๆ ที่ยังมีอีกหนึ่งภัยพิบัติที่น่ากลัวและมีเค้าที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือ เหตุแผ่นดินไหว ถึงแม้เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวยังไม่เคยรุนแรงถึงขนาดทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนักก็ตาม
ในประวัติศาสตร์ยังได้กล่าวถึงเหตุแผ่นดินไหวใหญ่เขตภาคเหนือเช่น ที่ จ.พิษณุโลก แต่ความเสียหายมีไม่มากนักเนื่องจากตึกรามบ้านช่องรวมถึงผู้คนยังน้อยอยู่ แต่ในปัจจุบันเมื่อความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์มาถึงระดับตรวจวัดโครงสร้างทางธรรมชาติได้ เราจึงพบรอยเลื่อนมีพลังที่พาดผ่านประเทศไทยจำนวนมาก เหล่านี้เองที่นักวิทยาศาสตร์เกรงว่า หากเกิดแผ่นดินไหวระดับรุนแรงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อรอยเลื่อนใต้ดินพวกนี้ และจะเกิดหายนะตามมาแบบคาดไม่ถึง เพราะเมืองใหญ่ในประเทศไทยไม่ได้มีการคำนวณโครงสร้างเพื่อรองรับแรงสั่นสะเทือนต่อเหตุดังกล่าว เมื่อเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขึ้น จะทำให้ประชาชนล้มตาย บ้านเรือนพังพินาศอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ล่าสุดเกิดแผ่นดินไหวในประเทศพม่า ขนาด 6.6 ริกเตอร์ ศูนย์กลางอยู่ทางตอนเหนือของเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า ห่างจาก อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 400 กิโลเมตร สร้างความเสียหายให้กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างหนัก วัด เจดีย์เก่า โบราณสถานบ้านเรือนประชาชนพังเสียหาย มีคนล้มตายกว่า 10 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ในหัวเมืองเหนือเกือบทั้งหมด รวมถึงกรุงเทพมหานครด้วย ที่สำคัญภาคเหนือของไทยมีรอยเลื่อนสำคัญอยู่ถึง 8 แห่ง ได้แก่ รอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน, รอยเลื่อนแม่ปิง, รอยเลื่อนแม่ทา, รอยเลื่อนแม่จัน, รอยเลื่อนเถิน, รอยเลื่อนพะเยา, รอยเลื่อนปัว และรอยเลื่อนอุตรดิตถ์ ซึ่งต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
จากการสังเกตตามที่นักวิชาการรายงานพบว่า ทางภาคเหนือของประเทศไทยมีแผ่นดินไหวถี่และรุนแรงเพิ่มขึ้น ถึงแม้จะยังไม่สั่นสะเทือนอย่างชัดเจน แต่หน่วยวัดริกเตอร์ก็ขยับสูงขึ้นเป็นสัญญาณที่เราจะประมาทไม่ได้ ประกอบกับผังเมืองเก่าทั้งภาคเหนือหรือแม้แต่ในกรุงเทพฯ เองก็ไม่ได้สร้างเพื่อรองรับเหตุแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ดังนั้นหากไทยได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในประเทศเพื่อนบ้านหรือในบ้านเราเอง อาจทำให้รอยเลื่อนขยายตัว อาคารสูง ย่านชุมชน ในเมืองใหญ่อาจหายไปในพริบตา รัฐบาลหรือหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบต้องไม่ประมาท แม้รัฐบาลจะมีแผนรองรับภัยพิบัติแต่ก็เป็นแค่พิมพ์เขียวอยู่ ควรเริ่มซักซ้อมแผนอพยพและตรวจสอบอาคารเสี่ยงไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันความสูญเสียที่ไม่อาจคาดเดาได้