คอลัมนิสต์

ปะการังเทียม'รถถัง'ฟื้นคืนชีวิตทะเลไทย

ปะการังเทียม'รถถัง'ฟื้นคืนชีวิตทะเลไทย

10 ก.ย. 2555

ปะการังเทียม'รถถัง'ฟื้นคืนชีวิตทะเลไทย : ตะลุยกองทัพ โดยกิตตินันท์รอดสุพรรณ : [email protected]

               "ประมงพื้นบ้านตั้งแต่ปัตตานีจนถึงนราธิวาสหลายร้อยคนเขียนจดหมายมาถึงข้าพเจ้าแล้วก็เซ็นชื่อมาเป็นบัญชีหางว่าวขอให้ข้าพเจ้าช่วยจัดทำปะการังเทียมเพิ่มเติมขึ้นอีก ปะการังเทียมนั้นใช้ได้ผลจริงๆ น่าภาคภูมิใจหน่วยงานทั้งหลายที่ได้ช่วยเหลือประชาชน และข้าพเจ้าขอถือโอกาสนี้ส่งข่าวถึงกลุ่มประมงพื้นบ้าน

               ข้าพเจ้าพยายามขอร้องขอให้ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และทุกแห่งช่วยกันประสานเชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอก็คงเริ่มจัดสร้างพื้นที่ปะการังเทียมได้อีก เพื่อประชาชนจะได้ไปตกปลาไปทำมาหากินได้เพิ่ม"

               จากพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม2552 ณศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต กองทัพบกจึงได้นำรถถัง ที 69 จำนวน25 คันมาทำเป็น "ปะการังเทียม" ในน่านน้ำ จ.นราธิวาสเพื่อสนองพระราชเสาวนีย์

               กระทั่งถึงวันนี้ผ่านมา 2 ปีสภาพของรถถังได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนมีปลาจำนวนมากว่ายเข้าออกผ่านช่องว่างของตัวรถถัง พื้นผิวเหล็กที่ว่างเปล่ามีทั้งเพรียงและหอยชนิดต่างๆ มาจับจองพื้นที่จนปกคลุมทั่วไปทั้งคัน จนเป็นที่กล่าวขวัญกันในวงการดำน้ำท่องเที่ยว ที่อยากจะหาโอกาสมาดำน้ำดูรถถังในโลกใต้ทะเลสักครั้งในชีวิต

               พ.อ.สรรเสริญแก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบกที่เดินทางมาติดตามโครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเล อันเนื่องจากพระราชดำริในพื้นที่ จ. นราธิวาสกล่าวว่า หลังจากที่กองทัพบกได้นำรถถังที่ปลดประจำการแล้วมาทำเป็นแนวปะการังเทียมได้ 2 ปีหลังจากที่ได้ดำน้ำลงไปดูความเปลี่ยนแปลงก็พบว่ามีปลาและสัตว์ทะเลชนิดต่างๆ อยู่ในนั้นอย่างมากมาย

               "จากการที่ได้คุยกับชาวประมงในพื้นที่ก็ได้รับคำตอบว่า การทำประมงมีความคึกคักเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นไปตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ต้องการให้ชาวประมงในพื้นที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น" โฆษกกองทัพบกกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

               ครูดนัยฟูตระกูล ประธานชมรมรักษ์เล นักดำน้ำคุ้นเคยกับน่านน้ำนราธิวาสเป็นอย่างดี บรรยายถึงทะเลแถบนี้ว่า บริเวณนี้เคยเป็นกองหินใต้ทะเลที่สวยงาม บวกกับลักษณะภูมิประเทศที่เป็นช่องลมใต้พัดผ่านทำให้น่านน้ำแถบนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแพลงตอน ทำให้มีปลาน้อยใหญ่มาอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก แต่จากการที่มีเรือประมงต่างถิ่นเข้ามาทำประมงโดยใช้เรืออวนลากไปจนถึงหน้าดิน ส่งผลให้ระบบนิเวศใต้ทะเลถูกรบกวนอย่างหนัก และเสียหายอย่างมาก สัตว์น้ำที่เคยมีอยู่มากมายก็พลอยหายไปด้วย ปะการังที่เคยมีอยู่เหลือแต่เพียงพื้นทรายราบเรียบ

               "แต่หลังจากที่มีปะการังเทียม และมีกฎหมายห้ามเรือประมงขนาดใหญ่ทำการประมงในรัศมี 5 ไมล์ทะเลจากฝั่งไม่นานนักความสมบูรณ์ของสัตว์น้ำก็เริ่มกลับมา ปลาฝูงที่ไม่เคยพบเห็นมานานอย่างปลาข้างเหลืองก็กลับมาแหวกว่ายซอกซอนไปตามแนวปะการังเทียม แส้ทะเลและปะการังอ่อนก็เริ่มกลับมาสวยงาม" ครูดนัยชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง

               นายมะรอฟีลอตันหยง ประธานเครือข่ายประมงพื้นบ้าน ต.กะลุวอเหนืออ.เมืองจ.นราธิวาสเล่าว่า ราวๆ ปี 2545-2546 การทำประมงในย่านนี้วิกฤติหนักสัตว์น้ำลดน้อยลงทำให้ต้องออกทะเลไปไกลฝั่ง เสียทั้งเวลาและน้ำมัน ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นทำให้ชีวิตฝืดเคือง รายได้ไม่พอเลี้ยงครอบครัว ชาวบ้านบางส่วนต้องขายเรือไปทำอาชีพอื่น แต่ในปัจจุบันเริ่มมีปลาให้จับมากขึ้นตามแนวชายฝั่ง

               ทั้งนี้จากการเราที่ได้ดำน้ำลงไปสังเกตการณ์ร่วมกับคณะของกองทัพบกก็พบว่ามีปลาชนิดต่างๆ ชุกชุม ไม่ว่าจะเป็นปลาเศรษฐกิจอย่างปลากระมง ปลาสาก ปลาแก้วกู่ หรือปลาสวยงามอย่างปลาการ์ตูนอานม้า ปลาผีเสื้อ แม้กระทั่งทากเปลือยสีสันสดใสขวัญใจนักดำน้ำ ก็เข้ามาอาศัยอยู่ในบริเวณนี้

               ขณะที่ข้อมูลของสำนักงานประมงจ.นราธิวาสระบุว่า มีปลาในแนวปะการังเทียมที่สำรวจพบมากถึง 180 ชนิดและในช่วงที่ทะเลสงบจะมีเรือท่องเที่ยวพานักดำน้ำมาสัมผัสกับโลกใต้ทะเลแถบนี้อยู่เป็นประจำ

               ที่สำคัญการได้รถถังมาเป็นแนวปะการังเทียมช่วยให้การทำการประมงประเภทอวนรุนและอวนลากไม่สามารถทำได้ เพราะรถถังมีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก หากลากอวนมาเกี่ยวก็จะได้รับความเสียหายหนัก และความแข็งแกร่งของเนื้อเหล็กก็สามารถทนทานการกัดกร่อนของน้ำทะเลได้อีกนาน นับว่าการสร้างแนวประการังเทียมจากรถถังสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนให้แก่ท้องทะเลไทย

               ในเร็วๆนี้ยังมีอีกโครงการหนึ่งซึ่งสอดรับกับการอนุรักษ์ทะเลไทย คือนิทรรศการ "ทะเลงามด้วยน้ำพระทัย" ที่จัดแสดงภาพถ่ายความอุดมสมบูรณ์ที่เกิดขึ้นในแนวปะการังเทียมในน่านน้ำจ.นราธิวาสที่มีทั้งตู้โบกี้รถไฟ, รถขยะ กทม., แท่งคอนกรีต และรถถัง โดยจะเปิดให้ประชาชนผู้ที่สนใจได้ชมกันในงานของดีเมืองนรา และเทศการแข่งเรือกอและ ในช่วงวันที่ 18-25 กันยายนนี้


......................

(หมายเหตุ : ปะการังเทียม'รถถัง'ฟื้นคืนชีวิตทะเลไทย : ตะลุยกองทัพ โดยกิตตินันท์รอดสุพรรณ : [email protected])