คอลัมนิสต์

'พันศักดิ์'คนนอกฝัน

'พันศักดิ์'คนนอกฝัน

05 ก.ย. 2555

'พันศักดิ์'คนนอกฝัน : มนุษย์สองหน้า โดยแคน สาริกา

              ตลอดสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อพลิกอ่านข่าวทางสื่อสิ่งพิมพ์ ก็พบว่า พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ถูกคอลัมนิสต์จัดหนักกรณี "รุมอัดเสี่ยโต้ง"
 
              ไม่ว่าจะใช้อักษรย่อ "พ.พาน" หรือ "กุนซือหูกระต่าย" แต่ใครก็ทราบดีว่า บุคคลที่ไม่พอใจการทำงานของ "โต้ง" กิตติรัตน์ ณ ระนอง ขุนคลังรัฐบาลยิ่งลักษณ์คือ "พันศักดิ์" เจ้าของสถิติ "ประธานที่ปรึกษา 3 นายกฯ" (ยุคชาติชาย 2531-2534, ยุคทักษิณ 2544-2549 และยุคยิ่งลักษณ์-ปัจจุบัน)
 
              จะว่าไปแล้ว นักข่าวรุ่นหลังไม่ค่อยรู้จัก "ตัวตน" และ "ความคิด" ของพันศักดิ์มากนัก ส่วนใหญ่มักทราบว่าเขาเป็น "ที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก" สมัยรัฐบาลชาติชาย อันประกอบด้วย ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ, สุรเกียรติ์ เสถียรไทย, บวรศักดิ์ อุวรรณโณ โดยมีพันศักดิ์เป็นประธาน
 
              นับจากการดำเนินแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ โดยรัฐบาลสฤษดิ์ บุคคลที่อยู่ในกระบวนการผลิตนโยบายยุทธศาสตร์ของประเทศไทย มักจะเป็นคนในหรือ "เทคโนแครต" แต่ "พันศักดิ์" เข้ามาในฐานะคนนอก แต่เขาก็ถูกมองว่าเป็นสายล่อฟ้า จนต้องหอบเสื้อหอบผ้าออกจากไทยถึง 3 ครั้ง 3 คราในช่วง 30 ปี
 
              "พันศักดิ์" เป็นบุตรชาย ประยูร วิญญรัตน์ อดีตข้าราชการกระทรวงการคลัง และเคยเป็นผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ เขาจบปริญญาตรีด้านกฎหมายระหว่างประเทศ จากอังกฤษ จากนั้นบิดาฝากให้ทำงานอยู่ฝ่ายวิชาการ ธนาคารกรุงไทย เพียงช่วงสั้นๆ ก่อนจะหันไปทำหนังสือพิมพ์ตามความชอบส่วนตัว
 
              ชีวิตการทำหนังสือพิมพ์ เริ่มต้นที่ "จตุรัสรายสัปดาห์" เมื่อปี 2513 ทำได้ 4 ฉบับ ก็ถูกสั่งปิดในยุครัฐบาลจอมพลถนอม
 
              หลัง 14 ตุลาคม 2516 จตุรัสรายสัปดาห์กลับมาอีกครั้ง และถูกมองว่าเป็นหนังสือฝ่ายซ้าย เพราะคอลัมนิสต์รวมถึงตัวพันศักดิ์แสดงทัศนะต่อต้านฐานทัพสหรัฐในประเทศไทย
 
              เมื่อเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ก็ถูกสั่งปิด พันศักดิ์ในฐานะบรรณาธิการถูกจับติดคุก ต่อมาทางการต้องยอมปล่อยตัว เพราะได้รับการร้องขอจากสหรัฐโดยตรง เขาจึงหนีภัยการเมืองไปอยู่สหรัฐประมาณ 2 ปี
 
              จตุรัสยุคสุดท้าย เริ่มเมื่อเดือนกันยายน 2524 แต่ทำได้ 3 ปีก็หมดเงินสนับสนุน ราวปี 2538 พันศักดิ์มาร่วมงานกับ สนธิ ลิ้มทองกุล ทำหนังสือพิมพ์เอเชีย ไทม์ส (Asia Times) หลังกลับมาจากการหนีภัยการเมืองครั้งที่ 2
 
              เมื่อเกิดวิกฤติฟองสบู่ 2540 พันศักดิ์ออกจากค่ายผู้จัดการ ก็ไปศึกษาเรื่องเอสเอ็มอี โมเดล (SME Model) ซึ่งเขาเคยเสนอในการสัมมนาแห่งหนึ่งว่า เอสเอ็มอีเป็นทางออกวิกฤติสังคมไทย
 
              "คนอื่นอาจจะคิดว่า การยื้อแย่งอำนาจรัฐก็เพื่อแบ่งสินทรัพย์ของรัฐ แต่สำหรับผม คือการสร้างโอกาสให้ไพร่ มีโอกาสในชีวิตที่ค่อนข้างจะเท่าเทียมกัน เวลาเราพูดอย่างนี้ถูกมองว่าซ้าย"
 
              แสดงว่าวาทกรรม "สร้างโอกาสให้ไพร่" ของพันศักดิ์ มาก่อนคำว่า "ประชานิยมเพื่อคนรากหญ้า" ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
 
              นักหนังสือพิมพ์รุ่นน้องคนหนึ่งมองพัฒนาการทางความคิดของพันศักดิ์ว่า "มาจากการตกผลึกที่สำคัญจากความต่อเนื่องจากเหตุการณ์สำคัญของสังคมไทยที่ปะทุมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2514 และ 2519 แต่เป็นการตกผลึกที่พัฒนาไปใน Globalization"
 
              หากสืบค้นร่องรอยของพันศักดิ์ข้างต้น ก็พอเข้าใจได้ว่า เหตุใดเขากับกิตติรัตน์ จึงทำงานร่วมกันได้ยาก เนื่องจากทั้งคู่มาจากต่างสายพันธุ์ทางความคิด