ลับเขี้ยวเล็บ'ทหารพรานหญิง'ใจรักชาติ
ลับเขี้ยวเล็บ'ทหารพรานหญิง'ใจรักชาติมิได้ผูกขาดด้วยเพศ! : ตะลุยกองทัพโดยณรงค์ นวลสกุล
"ทหารพราน" ถือเป็นกำลังหลักส่วนหนึ่งที่ปฏิบัติภารกิจการรักษาความสงบเรียบร้อย และพิทักษ์อธิปไตยของชาติในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยมีกำลัง "ทหารพรานหญิง" ปฏิบัติหน้าที่เคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารพรานที่เป็นชาย และสามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของทหารพรานหญิงให้มีความแม่นยำ ฉับไว และสามารถป้องกันตัวเองได้อย่างรัดกุมยิ่งขึ้น น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ จึงเป็นประธานจัดการแข่งขันการ "ปฏิบัติการทางยุทธวิธี" ของอาสาสมัครทหารพรานหญิงที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่สังกัด 9 กรม รวม 200 นาย ณ สนามยิงปืนค่ายจุฬาภรณ์ จ.นราธิวาส ตามนโยบายของกองทัพที่ทยอยจัดส่งทหารพรานลงมาปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งสิ้น 1 หมื่นนาย
น.อ.สมเกียรติกล่าวถึงบทบาทของทหารพรานหญิงในพื้นที่ว่า ทหารพรานหญิงเหล่านี้ถือว่ามีความสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่เชิงจิตวิทยา รวมถึงการเข้าตรวจค้นเป้าหมายที่สำคัญๆ และการใช้ความอ่อนโยนของทหารพรานหญิงหลีกเลี่ยงคำครหาต่างๆ ที่กลุ่มผู้ไม่หวังดีมักจะฉวยโอกาสกล่าวหาว่าทหารใช้ความรุนแรงกับประชาชน
สำหรับการแข่งขันปฏิบัติการทางยุทธวิธีดังกล่าวมีการแข่งขัน ยิงปืนแบบคู่บัดดี้, การยิงปืนแบบฉับพลัน และ การป้องกันการถูกซุ่มโจมตีขบวนรถ โดยมีกติกาให้ทหารพรานหญิงใช้เวลาให้เร็วที่สุดในการยิงต่อสู้กับคนร้าย
ภารกิจในการเข้าแข่งขันในครั้งนี้มีการสมมุติสถานการณ์ว่า หลังจากที่ทางการประกาศให้คนร้ายมอบตัวแต่โดยดี แต่ถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่ จึงสั่งการให้ทหารพรานหญิงใช้วิจารณญาณในการต่อสู้ทางยุทธวิธีกับกลุ่มคนร้ายเพื่อฝ่าวิถีกระสุนเอาตัวรอด และเข้าจับกุมคนร้ายให้ได้
นอกจากนี้ ยังมอบภารกิจให้ทหารพรานหญิง "เข้าเคลียร์พื้นที่" ทั้งในป่าและหุบเขา โดยต้องมีการฝึกฝนการโรยตัวจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ เช่นเดียวกับทหารชายทั่วไป ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่กองทัพจะได้ฝึกฝนทางด้านร่างกายและจิตใจของทหารพรานหญิงให้มีความพร้อมมากที่สุด หากต้องเผชิญสถานการณ์จริง เพื่อให้สมกับสมญานาม "ดอกไม้เหล็ก" อย่างแท้จริง
น.อ.สมเกียรติกล่าวย้ำว่า ทหารไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องประเทศชาติ และปัจจุบันภารกิจต่างๆ ในพื้นที่มีความละเอียดอ่อนมาก และบางภารกิจอาจต้องใช้ทหารหญิง บางภารกิจต้องใช้ทหารชาย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
"รู้สึกพอใจมากที่ทหารพรานหญิงมียุทธวิธีที่ไม่แตกต่างจากทหารชาย โดยมีอยู่ครั้งหนึ่งผมได้ลงพื้นที่ตรวจค้นบ้านพักต้องสงสัยของคนร้าย ซึ่งครั้งนั้นทหารพรานหญิงสามารถใช้ความละเอียดอ่อนและความรอบคอบของเพศหญิงจนสามารถยึดของกลางที่ซุกซ่อนไว้ในที่ลับตามาได้อย่างเหลือเชื่อ" น.อ.สมเกีรยติกล่าวชื่นชมทหารพรานหญิง
ส.ต.หญิง จุฬาภรณ์ ยุ่งยั้ง สังกัดกรมทหารพรานที่ 45 ที่เข้าร่วมฝึกในครั้งนี้กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสมาสวม "เสื้อสีดำอันทรงเกียรติ" ซึ่งแรกๆ ทางบ้านก็ทักท้วงว่ามันอันตราย แต่ด้วยความเด็ดเดี่ยวและมุ่งมั่นของตนทำให้ทางบ้านยอมรับ และมีกำลังใจเต็มที่ในการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประเทศชาติเพื่อให้ชาวบ้านที่อยู่แนวหลังใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
"มีคนถามอยู่เสมอว่าเหนื่อยมั้ย ซึ่งดิฉันก็จะตอบกลับไปตรงๆ ว่าเหนื่อย แต่รู้สึกภูมิใจมากกว่าที่แม้จะเกิดมาเป็นหญิง แต่ก็สามารถตอบแทนบุญคุณแผ่นดินเกิดได้ไม่แพ้ชาย และถึงตายก็ไม่เสียดายชีวิต" ส.ต.หญิง จุฬาภรณ์ กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
อส.ทพ.หญิง ฐานิตา ชัยนุรัตน์ ทหารพรานหญิงสังกัดเดียวกัน กล่าวตรงกันว่า รู้สึกภูมิใจที่สุดที่ได้มาเป็น "ทหารของแผ่นดิน" เพื่อรับใช้พี่น้องประชาชน และได้มีโอกาสปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ ยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันแล้วไม่ว่าทหารหญิงหรือชายก็ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะนำไปสู่ความสงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
"ทุกคนคงคิดว่าทหารพรานหญิงคงจะสบายกว่าทหารชาย ซึ่งที่จริงแล้วทั้งทหารชายและหญิงต้องทุ่มเททำงานเหมือนกัน ต้องผ่านการฝึกฝนทุกรูปแบบเหมือนทหารชายเพื่อให้ร่างกายและจิตใจมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ที่มีทั้งงานเบาๆ และหินสุดโหดที่ดิฉันผ่านมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน และรู้สึกภูมิใจที่ได้รับใช้ประเทศชาติ"
ความแข็งแกร่งทั้งทางร่างกายและจิตใจของ "ดอกไม้เหล็ก" เหล่านี้แสดงให้เห็นเป็นอย่างดีว่า "จิตวิญญาณรักชาติ" มิได้ผูกขาด และสงวนลิขสิทธิ์ไว้เฉพาะเพศชายแต่อย่างใด
.........
(หมายเหตุ : ลับเขี้ยวเล็บ'ทหารพรานหญิง'ใจรักชาติมิได้ผูกขาดด้วยเพศ! : ตะลุยกองทัพโดยณรงค์ นวลสกุล)