คอลัมนิสต์

หยุดก่อนหยุดเขื่อนแม่วงก์

หยุดก่อนหยุดเขื่อนแม่วงก์

05 พ.ค. 2555

หยุดก่อนหยุดเขื่อนแม่วงก์ : บทบรรณาธิการประจำวันที่5พ.ค.2555

             รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งหนึ่งว่ากำลังเดินแต้มผิดในมาตรการป้องกันน้ำท่วม เมื่ออนุมัติงบประมาณจำนวน 1.3 หมื่นล้านบาท ในโครงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ เขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ เพื่อป้องกันน้ำท่วมในเขต อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการศึกษาให้รอบด้านว่าได้คุ้มกับเสียหรือไม่ หรือแม้ว่าการศึกษาถึงผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) จะยังไม่แล้วเสร็จ โดยยังไม่ยอมฟังเสียงทักท้วงจากกลุ่มอนุรักษ์ที่ยืนยันว่าการสร้างเขื่อนไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของการแก้ปัญหาน้ำท่วมหรือน้ำแล้ง
 
              จากการศึกษาของมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้ข้อสรุปว่า การสร้างเขื่อนนี้จะได้ไม่คุ้มเสีย เพราะเก็บน้ำได้เพียง 250 ล้านลบ.ม.เท่ากับว่าสามารถรองรับพื้นที่เกษตรกรรมกว่า 2 แสนไร่ ในพื้นที่ อ.แม่วงก์ ได้แค่ 40 วัน ขณะที่การทำนาข้าวต้องการใช้น้ำมากถึง 120 วัน ไม่ต้องพูดถึงการที่ต้องรักษาระดับเก็บกับน้ำไว้อย่างน้อย 100-150 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของเขื่อน
 
              ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ระบบนิเวศของผืนป่าแม่วงก์กำลังฟื้นตัวมากขึ้นหลังการสัมปทานป่าไม้สักเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตามด้วยการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อ 25 ปีที่ผ่านมา ผลการศึกษาของสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าสากลแห่งประเทศไทยยังพบว่า มีการแพร่กระจายพันธุ์ของสัตว์ป่านานาชนิด โดยเฉพาะเสือโคร่งจากห้วยขาแข้ง ซึ่งเข้ามาใช้พื้นที่หากินในพื้นที่ป่าแม่วงก์ สะท้อนให้เห็นว่า ผืนป่าบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์และเหมาะสมในการแพร่ขยายพันธุ์ของสัตว์ป่า เนื่องจากมีสภาพเป็นพื้นที่ป่าริมน้ำ ซึ่งมีเพียง 2 แห่งในประเทศไทย คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และอุทยานแห่งชาติแม่วงก์เท่านั้น
 
              หนำซ้ำจากการตรวจสอบพบว่า เขื่อน และฝายขนาดกลาง และเล็กราว 6 แห่งในพื้นที่ลุ่มน้ำสะแกกรัง ครอบคลุมเขต จ.อุทัยธานี และ จ.นครสวรรค์ ไม่เคยมีศักยภาพในการเก็บกักน้ำ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นจะต้องสร้างเขื่อนแม่วงก์เพิ่มเติม เพราะคงไม่สามารถช่วยบรรเทาภัยแล้ง และแก้น้ำท่วมได้ เนื่องจากพื้นที่ จ.อุทัยธานี อยู่ในเขตเงาฝนทำให้มีฝนตกน้อย และไม่มีปริมาณน้ำลงเขื่อน ขณะที่การบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาดทำให้พื้นที่รับน้ำผลประโยชน์ของเขื่อนไม่ช่วยเกษตรกรใน จ.อุทัยธานี เราเห็นด้วยกับกลุ่มอนุรักษ์ที่คัดค้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ เพราะคงไม่คุ้มค่าหากจะแลกผืนป่ากว่า 1 หมื่นไร่ เพื่อทำเขื่อน ซึ่งมีแต่ผลาญเงินแต่ไม่มีน้ำ และไม่ใช่คำตอบทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้ง และยิ่งเห็นด้วยกับข้อเสนอที่ให้ผนวก "ป่าแม่วงก์-คลองลาน" เข้ากับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง-ทุ่งใหญ่นเรศวร ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ และเป็นเรื่องที่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ควรจะรับฟัง แล้วนำไปไตร่ตรองให้รอบคอบใหม่ เพราะการตัดสินใจผิดพลาดครั้งนี้ จะยิ่งซ้ำเต็มระบบนิเวศให้ยิ่งเลวร้ายมากขึ้น