คอลัมนิสต์

'ทุ่นระเบิดพอเพียง'เสริมเขี้ยวทัพเรือไทย

'ทุ่นระเบิดพอเพียง'เสริมเขี้ยวทัพเรือไทย

09 เม.ย. 2555

'ทุ่นระเบิดพอเพียง'เสริมเขี้ยวเล็บ...ทัพเรือไทย : ตะลุยกองทัพ โดย ไชยฤทธิ์ เสนาะวาที : เรื่อง วัชรชัย คล้ายพงษ์ : ภาพ

              สถานการณ์ความมั่นคงของโลกที่เริ่มเปลี่ยนแปลง หลายประเทศเสริมเขี้ยวเล็บด้านการทหารอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะความพยายามในการพัฒนาขีดความสามารถด้านการสงครามทุ่นระเบิด (Sea Mine Warfare) ของตน และประเทศไทยอาจจะต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากทุ่นระเบิดดังกล่าว จึงจำเป็นต้องมีการเรียนรู้ และจัดหาทุ่นระเบิดฝึกแบบล่องหนมาเพื่อเตรียมความพร้อมด้านการสงครามทุ่นระเบิดของกองทัพเรือ
   
              ด้วยขีดจำกัดเกี่ยวกับการเข้าถึงเทคโนโลยีล่องหนที่มีชั้นความลับสูงของต่างชาติ รวมทั้งความล่อแหลมจากการรั่วไหลของข้อมูลความลับของยุทโธปกรณ์ฝ่ายไทย จึงจำเป็นต้องศึกษาวิจัยเพื่อสร้างทุ่นระเบิดฝึกแบบล่องหนด้วยขีดความสามารถของกองทัพเรือเอง และเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ที่กองทัพเรือซุ่มทำวิจัย พัฒนา "ทุ่นระเบิดล่องหน" (Stealth) หวังสกัดเรือดำน้ำที่อาจรุกรานน่านน้ำไทย ทั้งนี้ หากนำเข้าทุ่นระเบิดดังกล่าวจะต้องใช้งบประมาณสูงถึงลูกละ 1 ล้านบาท แต่ผลิตผลจากงานวิจัยทำให้กองทัพไทย สามารถผลิตทุ่นระเบิดได้ในราคา 7 หมื่นบาทเท่านั้น
   
              "กองเรือทุ่นระเบิดของเรา นอกจากจะมีหน้าที่กวาดทุ่นระเบิดในทะเลแล้ว ยังได้ทำการวิจัยโครงการต่างๆ อีกหลายโครงการ ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาได้ดำเนินการวิจัยและพัฒนาทุ่นระเบิดมาอย่างต่อเนื่อง โครงการที่ได้ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน คือ โครงการทุ่นระเบิดปราบเรือดำน้ำ และโครงการทุ่นระเบิดล่องหน จนเป็นผลสำเร็จ และขณะนี้เตรียมส่งโครงการดังกล่าวเพื่อของบประมาณมาปฏิบัติแผนตามที่กำหนดไว้" พล.ร.ต.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการกองเรือทุ่นระเบิด กองทัพเรือ กล่าวว่า ถึงทุ่นระเบิดล่องหนที่ผลิตได้เองในประเทศ เพื่อปราบเรือดำน้ำ ซึ่งมีต้นทุนการผลิตที่ถูกกว่าสั่งซื้อจากต่างประเทศหลายเท่าตัว
   
              สำหรับการทำงานของ ทุ่นระเบิดปราบเรือดำน้ำและทุ่นระเบิดล่องหน พัฒนามาจากกลไกทุ่นระเบิดง่าย มีลักษณะเป็นทรงกลมที่ลอยอยู่ใต้น้ำ เคลือบด้วยสารไฟเบอร์โคท 11 เพื่อป้องกันการตรวจจับจากโซนาร์ ตัวระเบิดมีเขารอบตัวเหมือนหอยเม่น พอเรือดำน้ำแล่นมาชนก็ระเบิดขึ้น เรือก็จะจมหรือแตกออกจากพลังทีเอ็นทีกว่า 100 กิโลกรัมที่ซ่อนอยู่ในทุ่นระเบิด และทุ่นระเบิดดังกล่าวมุ่งทำลายข้าศึก ปกติจะไม่เป็นอันตรายต่อชาวบ้าน ยกเว้นจงใจเดินเรือเข้าไปในพื้นที่ที่วางทุ่นระเบิดไว้ และทุ่นระเบิดจะตั้งเวลาให้ทำงานเฉพาะในห้วงเวลาสงครามเท่านั้น พอเลิกสงครามทุ่นระเบิดทะเลจะหยุดทำงานทันที
   
              "หากเราคาดว่าสงครามจะยาวนาน 1 ปี ก็อาจตั้งนาฬิกาภายในทุ่นระเบิดให้ทำงานตามที่เรากำหนด หลังจากนั้นระเบิดดังกล่าวจะหยุดทำงานหรือทำลายตัวเอง" พล.ร.ต.ลือชัย บอกถึงหลักการควบคุมทุ่นระเบิด
      
              พล.ร.ต.ลือชัย บอกด้วยว่า ประเทศแรกที่ผลิตทุ่นระเบิดคือประเทศเยอรมนี และหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือเมื่อ 69 ปี ก่อนหน้านี้ ไทยเป็นประเทศแรกที่สามารถผลิตได้ โดยทุ่นระเบิดปราบเรือดำน้ำ และทุ่นระเบิดล่องหนมีข้อดีหลายข้อ ข้อแรกสามารถใช้วัสดุในประเทศผลิตได้ทุกชิ้นส่วน ทำให้ราคาถูกตกอยู่ที่ 7 หมื่นบาทต่อลูก โดยมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับทุ่นระเบิดของบริษัทต่างประเทศที่เสนอขายกัน ในราคาลูกละกว่า 1 ล้านบาท
        
              ส่วนประสิทธิภาพของทุ่นระเบิดดังกล่าว สามารถปราบเรือดำน้ำได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเรือดำน้ำรุ่นเก่าจนถึงเรือดำน้ำที่ทันสมัยที่สุด เพราะจะไม่ส่งเสียงโซนาร์หาเป้าขณะปฏิบัติการ ทำให้เรือดำน้ำไม่สามารถรู้ตำแหน่งของทุ่นระเบิดและอาจชนโดยไม่รู้ตัว อีกทั้งปกติจะวางทุ่นระเบิดจำนวนมาก จึงสามารถปราบเรือดำน้ำได้พร้อมกันหลายลำ ซึ่งกำลังรบชนิดอื่นๆ ไม่สามารถปราบเรือดำน้ำได้หลายลำ เมื่อวางทุ่นระเบิดแล้ว ไม่ต้องดำเนินการอะไรอีก ลดค่าใช้จ่ายการปฏิบัติการ นอกจากนี้ทุ่นระเบิดยังปราบเรือดำน้ำได้แม้ในขณะคลื่นลมแรง
     
              การวิจัยและพัฒนาทุ่นระเบิดครั้งนี้นั้น ถือว่าเป็นการเตรียมการและป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยทางน่านน้ำ แม้ว่าไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอ ทางกองทัพจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
      
              ทั้งนี้ โครงการทุ่นระเบิดปราบเรือดำน้ำ และทุ่นระเบิดล่องหน เป็นความพยายามจะผลิตทุ่นระเบิดในประเทศ ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการสร้างวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์การพัฒนากองทัพ ด้วยการพึ่งพาตนเอง เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2546 ณ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม แจ้งวัฒนะ ซึ่งเน้นการผลิตอาวุธด้วยอุตสาหกรรมในประเทศ โดยสรุปก็คือ กองทัพซื้อทุ่นระเบิดปราบเรือดำน้ำของไทย เพื่อเอาไปปราบเรือดำน้ำปรมาณูประชาชนก็รวย ทหารเรือไปปราบเรือดำน้ำก็ชนะ เป็นการผสานยุทธศาสตร์การทหารและเศรษฐกิจเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน !! 

........

(หมายเหตุ : 'ทุ่นระเบิดพอเพียง'เสริมเขี้ยวเล็บ...ทัพเรือไทย  : ตะลุยกองทัพ   โดย ไชยฤทธิ์ เสนาะวาที : เรื่อง  วัชรชัย คล้ายพงษ์  : ภาพ)