
ฉาก "สู้คดี"
เรื่องที่ 3 เกลอแกนนำคนเสื้อแดงออกมาระบุว่าถูกจัดฉาก ให้ดูเหมือนคนเสื้อแดงไปไล่ทุบรถนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ถูกมองว่าแค่จังหวะหนึ่งของการต่อสู้คดีเท่านั้น
เหตุที่เกิดในกระทรวงมหาดไทย เป็นการวางยุทธศาสตร์ก่อกวน ป่วนเมือง มีที่มาเพราะคนเสื้อแดงกำลังฮึกเหิมว่าจะชิงชัยชนะเหนือรัฐบาล ถ้าสังเกตให้ดีในห้วงเวลาใกล้กัน ก็มีเคลื่อนพลไปปิดล้อม "การประชุมสุดยอดอาเซียนและประเทศคู่เจรจา" ที่เมืองพัทยา จนงานต้องยกเลิก
กลางกรุงเทพฯ ยังมีกลุ่มแท็กซี่เสื้อแดงนำรถไปกีดขวางการจราจรย่านอนุสาวรีชัยสมรภูมิ จนเป็นอัมพาตกันทั้งเมือง คนเจ็บ คนป่วยเข้าโรงพยาบาลในย่านนั้นแบบทุลักทุเล
คนเมืองได้เห็นพฤติกรรมเหล่านี้ผ่านทาง "ดีสเตชั่น" ที่คนเสื้อแดงบอกว่านี่คือสถานีประชาธิปไตย ได้เห็นรับฟังการถ่ายทอดสดผ่านวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้หลบหนีคดีว่าปลุกปั่นคนเสื้อแดงอย่างไร
ยังมีภาพของแกนนำ 3 เกลอและคนอื่นๆ บนเวทีปราศรัยว่า สั่งการให้คนเสื้อแดงเคลื่อนไปที่ไหน ทำอะไรบ้าง
เหล่านี้ล้วนอยู่ในสายตาของผู้ชม "ดีสเตชั่น" และติดตามข่าวสารโดยตลอด
นอกจากสื่อในเมืองไทยแล้ว ยังมีสื่อต่างชาติอีกมากมายที่เข้ามาทำข่าวความเคลื่อนไหวของผู้นำอาเซียนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังลุกลามไปทั่วโลก
ภาพข่าวความเคลื่อนไหวของแกนนำคนเสื้อแดง ได้รับการถ่ายทอดไปทั่วโลก
แม้แต่ทำเนียบขาวยังออกมาแสดงความเสียใจต่อการกระทำคนเสื้อแดง ที่ทำให้ประเทศไทยเกิดความเสียหาย รวมถึงภูมิภาคนี้ด้วย
เรื่องจัดฉากหรือไม่จัดฉากคณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้นคงเร่งดำเนินการสอบสวนอย่างเร่งด่วน
รวมถึงการสอบสวนเรื่องการสลายการชุมนุมด้วย เชื่อว่าไม่นานข้อเท็จจจริงคงปรากฏ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สาทิตย์ วงศ์หนองเตย คงติดต่อขอภาพข่าวทั้งหมดจากสื่อบ้านเราและต่างประเทศแล้ว
ชาวบ้านอย่าเพิ่งเครียดเพราะการออกมาเปิดประเด็นต่างๆ เพื่อสู้คดี หลังจากโดนแจ้งข้อหาหนัก คงยื้อกันก่อนสร้างเงื่อนไขไปเรื่อยๆ รอจังหวะการเมืองเข้ามาช่วย
จากนี้ไปคงมีความเคลื่อนไหวอีกเยอะ จะให้ดีตำรวจควรเร่งสรุปสำนวนส่งอัยการฟ้องศาลเพื่อตัดสินว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะคนเสื้อแดงโดนรังแกจริงหรือเปล่า