
ผู้คุมกฎทำให้กฎศักดิ์สิทธิ์
ผู้คุมกฎทำให้กฎศักดิ์สิทธิ์ : บทบรรณาธิการประจำวันที่ 7 ก.พ.2555
นับเป็นเรื่องที่น่าตกใจที่กลุ่มนักโทษแดน 2 เรือนจำจังหวัดตรังร่วมกันก่อเหตุทุบทำลาย-เผาอาคาร เรือนนอน และที่พักผู้คุม ก่อนที่จะส่งตัวแทนเข้าเจรจากับทางเรือนจำที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ไปดูแลเหตุการณ์ด้วยตนเอง สิ่งที่กลุ่มนักโทษยื่นเป็นเงื่อนไขให้เรือนจำตรังดำเนินการนั้น เรียกได้ว่า เป็นสิทธิที่นักโทษพึงได้รับตามมาตรฐานสากลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่พัก ยารักษาโรค การพบญาติหรือทนายความ การประกอบพิธีทางศาสนา การรับข้อมูลข่าวสารตามที่เรือนจำจัดให้ การรับ-ส่งจดหมายติดต่อกับบุคคลภายนอกซึ่งปัจจุบัน กรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ใช้อีเมล หรือโทรศัพท์ติดต่อกับญาติได้ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์
ปัญหาที่เกิดขึ้นจนบานปลายกลายเป็นจลาจลภายในเรือนจำนั้น น่าจะเป็นสิทธิในข้อหลัง เนื่องจากนโยบายรัฐบาลนั้นต้องการเข้มงวดกับการติดต่อของนักโทษในเรือนจำกับคนภายนอก เพราะที่ผ่านมาผลการสืบสวนสอบสวนพ่อค้ายาเสพติดหลายรายต่างก็ซัดทอดว่า นักโทษในคุกเป็นคนสั่งยาเสพติด นโยบายรัฐบาลจึงให้ผู้คุมเข้มงวดการติดต่อกับโลกภายนอกของนักโทษ และผู้คุมที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ก็ทำหน้าที่ตามนโยบายรัฐบาลคือเพิ่มความเข้มข้นในการดูแลการติดต่อของนักโทษทั้งหมด แต่ผลการเจรจาของจังหวัดและเรือนจำกับตัวแทนนักโทษ ผู้คุมรายนี้กลับต้องถูกย้าย
การลงโทษนักโทษอาญานั้น โดยหลักแล้วเพื่อให้เกิดความเกรงกลัวและเข็ดหลาบไม่กล้ากลับไปทำชั่วอย่างที่เคย การกักขังก็เพื่อไม่ให้หลบหนีและเพื่อให้เรือนจำได้บำบัดฟื้นฟู ด้วยหวังว่าเมื่อพ้นโทษแล้ว นักโทษเหล่านั้นสามารถกลับไปใช้ชีวิตร่วมกับสังคมได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ ผู้คุม ที่ต้องถูกย้ายพ้นจากเรือนจำจังหวัดตรัง (อย่างน้อยชั่วคราว) ทั้งที่ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งนั้นเป็นการเสี่ยงต่อความเชื่อมั่นในระบบการควบคุมดูแลนักโทษของกรมราชทัณฑ์ ที่ในวันนี้มีนโยบายย้ายนักโทษคดีค้ายาเสพติดไปรวมไว้ที่เดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่าที่นั่นต้องการผู้คุมที่ต้องเข้มงวดมากเป็นพิเศษ
พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคัดแยกผู้ต้องขังคดียาเสพติดรายสำคัญ ในวันเดียวกัน ก็ดูจะมองกรณีที่เรือนจำจังหวัดตรังอย่างผิวเผิน คิดเพียงว่าเป็นการเรียกร้องตามสิทธิของนักโทษ ทั้งที่เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงนโยบายระดับชาติในเรื่องการปราบปรามยาเสพติดที่มุ่งจำกัดสิทธิในการติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอกได้ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์
ไม่ว่าจะเป็นกรงไก่ หรือกรงเสือ มันจะไม่มีวันแข็งแรงพอที่จะควบคุมบรรดาขาใหญ่ที่พร้อมจะใช้กฎหมู่ต่อรองกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มักจะโอนอ่อนหรือเลือกจะโอนอ่อนผ่อนตาม ทั้งที่กฎระเบียบของกรมราชทัณฑ์นั้นชัดเจนในตัวมันเองอยู่แล้ว เรื่องนี้ก็ไม่ต่างจากเรื่องอื่นๆ ที่กฎหมาย หรือกฎระเบียบมีอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือผู้ปฏิบัติ จะทำให้กฎเหล่านั้นศักดิ์สิทธิ์ เป็นธรรม หรืออยุติธรรม