คอลัมนิสต์

สกู๊ปบัลลงดอร์

สกู๊ปบัลลงดอร์

11 ธ.ค. 2551

สกู๊ปบัลลงดอร์ คริสเตียโน โรนัลโด้ "ผมยังเหมือนเดิม" ผลการประกาศรางวัล "บัลลงดอร์" ประจำปี 2008 จัดว่าไม่มีพลิกโผใดๆ เมื่อ คริสเตียโน โรนัลโด้ ที่มีผลงานเด่นมาตลอดทั้งปี คว้ารางวัลนี้ไปครองได้ตามความคาดหมาย จึงน่าจะเป็นจุดสูงสุดอีกจุดหนึ่งในชีวิตนักเตะของปีกจอมพลิ้วรายนี้ เนื่องจากเป็นรางวัลที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก ขณะที่ในอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เจ้าตัวประกาศชัดว่ายังเป็นคนเดิม และจะไม่หวั่นไหวกับความกดดันแน่นอน รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมยุโรป หรือบัลลงดอร์ ถือว่าเป็นรางวัลที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในโลก จากการที่นิตยสารฟรองซ์ฟุตบอล ได้สร้างเครือข่ายผู้สื่อข่าวที่น่าเชื่อถือเอาไว้ 96 แห่ง เพื่อลงคะแนนเสียงกัน และที่ผ่านมาผลการแจกรางวัลค่อนข้างตรงไปตรงมากกว่ารางวัลของฟีฟ่า ซึ่งในปีนี้ผลคะแนนออกมาอย่างที่รู้กันว่าแหล่งข่าวถึง 77 แห่งจาก 96 แห่ง เทคะแนนให้แก่ โรนัลโด้ จึงเป็นคะแนนที่ขาดลอย โรนัลโด้ จึงเป็นนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด คนที่ 4 ที่ได้รางวัลนี้ต่อจาก จอร์จ เบสต์, เดนิส ลอว์ และ บ็อบบี ชาร์ลตัน รวมทั้งเป็นนักเตะโปรตุกีสรายที่ 3 ต่อจาก ยูเซบิโอ และ หลุยส์ ฟิโก้ จอมสับจากโปรตุเกสเผยความในใจต่อ ฟรองซ์ฟุตบอล ว่า "มันเป็นวันหนึ่งที่งดงามที่สุดของชีวิตผม การได้รางวัลนี้เป็นสิ่งที่ผมฝันมาตั้งแต่เด็ก ผมขอขอบคุณผู้ที่โหวตคะแนนให้ ผมขอขอบคุณเพื่อนร่วมทีมเช่นเดียวกัน ผมอยากกลับมาได้รางวัลนี้อีกครั้งเพราะมันรู้สึกดีมาก ผมอายุเพียงแค่ 23 ปี มันจึงเป็นเรื่องที่สุดยอดมาก" อย่างไรก็ตามแม้ว่ารางวัลนี้จะเป็นรางวัลที่สำคัญที่สุดในชีวิต แต่ โรนัลโด้ ออกมาประกาศอย่างชัดเจนว่ารางวัลนี้คงไม่ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตนักเตะของเขามากนัก เพราะแต่ละนัดก็มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่อยู่แล้ว อีกทั้งการได้รางวัลก็ไม่ได้ทำให้เกิดความกดดันมากขึ้นแต่อย่างใด "ผมต้องเล่นกับความกดดันอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะผู้คนต่างมีความคาดหวังจากผมสูง และผมไม่คิดว่านั่นจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไร การได้รางวัลทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมาก เพราะมันเป็นวันที่ดีที่สุดในชีวิตของผม แต่ความรับผิดชอบของผมยังคงเดิม ผมอยากจะเล่นให้ดีกับสโมสร และทีมชาติต่อไป รวมทั้งพยายามทำผลงานให้ดีได้เท่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แน่นอนว่าผมสามารถพัฒนาได้อีก มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมยังต้องเรียนรู้" "คุณไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองคิดว่าคุณรู้ทุกอย่าง ผมยังคงมีความทะเยอทะยานอีกมาก และผมจะยังทำงานอย่างหนักทุกวัน ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ได้ดีกว่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่ผมจะพยายาม ฤดูกาลใหม่หมายความถึงความท้าทายใหม่ๆ และผมอยากจะช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ได้มากกว่านี้" โรนัลโด้เผยกับสถานีโทรทัศน์เอ็มยูทีวีของแมนฯ ยูไนเต็ด ส่วน ป๋าเฟอร์กี้ ที่ถือว่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้ โรนัลโด้ มีวันนี้เชื่อว่า การได้รางวัลนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว "เขามหัศจรรย์อยู่แล้ว เขาสมควรได้รางวัล 42 ประตูจากนักเตะตำแหน่งนี้เป็นเรื่องเหลือเชื่อ เขาทำได้สุดยอดเมื่อฤดูกาลที่แล้วกับพวกเรา เขาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น เล่นด้วยทักษะที่ยอดเยี่ยม ซึ่งก็ต้องให้เครดิตแก่เขา" ก่อนหน้านี้ โรนัลโด้ ก็เพิ่งจะคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมโลกจากฟิฟโปรมาแล้ว ถึงตอนนี้ก็ บัลลงดอร์ และในช่วงต้นปีหน้าจัดว่าเป็นตัวเต็งที่จะคว้ารางวัลของ ฟีฟ่า อีกรายการ แต่จากความมุ่งมั่นไม่หยุดนิ่ง ที่มีอยู่ในตัวของ คริสเตียโน โรนัลโด้ แล้วคงจะได้เห็นอะไรดีๆ จากดาวเตะรายนี้อีกมากมายแน่นอน จากคำยืนยันที่ว่า "ผมยังเหมือนเดิม" จิตติ ล้อมกรอบ ผลบัลลงดอร์ 2008 1 คริสเตียโน โรนัลโด้ (แมนฯ ยูไนเต็ด) 446 แต้ม 2 ลีโอเนล เมสซี (บาร์เซโลนา) 281 แต้ม 3 เฟอร์นันโด ตอร์เรส (ลิเวอร์พูล) 179 แต้ม 4 อิเคร์ กาซิยาส (รีล มาดริด) 133 แต้ม 5 ซาบี เอร์นันเดซ (บาร์เซโลนา) 97 แต้ม 6 อังเดร อาร์ชาวิน (เซนิตฯ) 64 แต้ม 7 ดาวิด บีญ่า (บาเลนเซีย) 55 แต้ม 8 กาก้า (เอซี มิลาน) 31 แต้ม 9 ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (อินเตอร์) 30 แต้ม 10 สตีเว่น เจอร์ราร์ด (ลิเวอร์พูล) 28 แต้ม เส้นทางลูกหนังโรนัลโด้ คริสเตียโน โรนัลโด้ เกิดที่เกาะมาเดยรา ประเทศโปรตุเกส เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 1985 ก่อนจะเติบโตมาเป็นเด็กฝึกหัดของ สปอร์ติง ลิสบอน ในเมืองหลวง จนเมื่อปี 2002 มีโอกาสลงสนามให้ทีมในซูเปอร์ ลีกา ตอนที่อายุ 17 ปี หลังจากที่ลงเล่นในทีมชาติชุดเยาวชนของโปรตุเกสมาแล้ว ปี 2003 ยิงประตู แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ในระหว่างเกมอุ่นเครื่อง ทำให้ "เฟอร์กี้" เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คว้าตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 12.24 ล้านปอนด์ พร้อมกับได้เสื้อหมายเลข 7 ของ เดวิด เบ็คแฮม ซึ่งย้ายไปอยู่กับ รีล มาดริด จากนั้นลงเล่นให้ทีมชาตินัดแรกในเกมชนะ คาซัคสถาน 1-0 และยิงประตูแรกให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมชนะ ปอร์ทสมัธ 3-0 ปี 2004 ได้รับการโหวตจากแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ให้เป็นนักเตะแห่งปี และเป็นหนึ่งในผู้ยิงจุดโทษให้ โปรตุเกส เขี่ย อังกฤษ ตกรอบรองชนะเลิศยูโร 2004 ด้วยสกอร์ 6-5 ปี 2005 ลงเล่นให้ทีมชาติในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับ รัสเซีย ทั้งๆ ที่เพิ่งเสียบิดาไปเพียง 1 ชั่วโมง ช่วงปลายปีต่อสัญญาใหม่กับทีมถึงปี 2010 ปี 2006 มีเรื่องผิดใจกับ เวย์น รูนีย์ เพื่อนร่วมทีมในฟุตบอลโลกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยการฟ้องกรรมการ โฮราซิโอ เอลิซอนโด้ จน รูนีย์ โดนใบแดง และโปรตุเกสเอาชนะอังกฤษ ด้วยการดวลจุดโทษอีกครั้ง จากนั้นก็มีข่าวเรื่องการย้ายทีมมาตลอด โดยเฉพาะกับ รีล มาดริด ปี 2007 รับหน้าที่กัปตันทีมชาติโปรตุเกสในเกมอุ่นเครื่องกับ บราซิล ด้วยอายุแค่ 22 ปี, ตกลงเซ็นสัญญาใหม่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปอีก 5 ปี, ควบรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม และเยาวชนยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ซึ่งเป็นนักเตะคนแรกที่เหมารางวัลนับตั้งแต่ แอนดี เกรย์ เมื่อปี 1977, ได้รับเลือกเป็นนักเตะแห่งปีของสมาคมข่าวฟุตบอลอังกฤษหลังช่วย แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ชิพ, ได้รับเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมอันดับ 3 ของฟีฟ่าต่อจาก กาก้า และ ลีโอเนล เมสซี ปี 2008 ได้รับเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมพีเอฟเอเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน, ช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ชิพด้วยการไปชนะวีแกน, รีล มาดริด ประกาศทุ่มเงินจะซื้อตัวไปร่วมทีม, จบฤดูกาลด้วยการเป็นแชมป์ยุโรป และยิงประตูรวม 42 ประตู ใน 1 ฤดูกาล ทำลายสถิติสโมสรเดิมของ จอร์จ เบสต์ ที่มีมายาว 40 ปี, ตัดสินใจปักหลักกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อในฤดูกาลนี้ก่อนยิงประตูที่ 100 ให้ทีมในเกมกับ สโต๊ค ซิตี และได้รับรางวัลบัลลงดอร์ จากนิตยสารฟรองซ์ฟุตบอล