
ระวัง!ปรากฏการณ์'คลองสามวา'
ระวัง!ปรากฏการณ์'คลองสามวา' : ขยายปมร้อน โดยสมถวิล เทพสวัสดิ์
ถือเป็นครั้งแรกที่ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี ได้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ที่สั่งให้ "สุขุมพันธุ์ บริพัตร" ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดประตูระบายน้ำคลองสามวาเพื่อระบายน้ำลงสู่คลองแสนแสบเพิ่มรวม 1 เมตร
หลังจากมี "มวลชน" จำนวนหนึ่งกดดันให้เจ้าหน้าที่รัฐเปิดประตูระบายน้ำออกจากพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น และเกิดการปะทะกันเล็กน้อยจนกระทั่งมี "ส.ส." พรรคเพื่อไทย "จิรายุ ห่วงทรัพย์" และ "วิชาญ มีนชัยนันท์" เข้ามาเจรจากับชาวบ้านที่ต้องการให้เปิดประตูระบายน้ำเพิ่มรวม 1.5 เมตร แต่สุดท้ายจบลงที่ 1 เมตร
โดย "ส.ส.วิชาญ" เป็นผู้ถือกุญแจไปเปิดประตูระบายน้ำให้อยู่ที่ระดับ 1 เมตร
ช่วงแรก "ผู้ว่าฯ กทม." ปฏิเสธที่จะเปิดประตูระบายน้ำที่ระดับดังกล่าว จนกว่าจะมี "คำสั่ง" เป็นทางการเนื่องจากก่อนหน้านี้มีหนังสือเป็นทางการให้ "ผู้ว่าฯ กทม." ปกป้อง "นิคมอุตสาหกรรมบางชัน" เขตมีนบุรี ไม่ให้ถูกน้ำท่วม
ดังนั้นเมื่อ "วิชาญ" ส.ส.ในพื้นที่ไปตกลงกับชาวบ้านและได้ข้อยุติให้เปิดประตูระบายน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ตกลงกันไว้ที่ 80 เซนติเมตร มาเป็น 1 เมตร ทาง "ผู้ว่าฯ กทม." จึงต้องการคำสั่งที่เป็นทางการจาก "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" เพราะการเปิดประตูระบายน้ำคลองสามวาเพิ่มมีความ "เสี่ยง" ที่น้ำอาจไหลท่วมพื้นที่ "นิคมอุตสาหกรรมบางชัน" ได้
นั่นแสดงให้เห็นว่า "ผู้ว่าฯ กทม." ในฐานะ "ผู้นำองค์กรท้องถิ่น" ไม่เห็นด้วยกับการเปิดประตูระบายน้ำในครั้งนี้ เพราะรู้ดีว่าระบบเครือข่ายการระบายน้ำในพื้นที่กทม.มีความเชื่อมโยงกันคล้ายเครือข่ายใยแมงมุม
"ธีระชน มโนมัยพิบูลย์" รองผู้ว่าฯ กทม. ได้แสดงความกังวลหลังจากเปิดประตูระบายน้ำคลองสามวาระดับ 1 เมตร อาจทำให้นิคมอุตสาหกรรมบางชัน เขตมีนบุรี ได้รับผลกระทบจากการเปิดประตูระบายน้ำสูงขึ้นจากเดิม
"หากน้ำเข้าคลองแสนแสบจากการเปิดประตูคลองสามวา ก็จะเข้าสู่พื้นที่ในคันพระราชดำริ และเข้าระบบคลอง ซึ่งพื้นที่ กทม. สูงต่ำไม่เท่ากัน การปล่อยที่ 1.5 เมตร เข้ามาเท่ากับว่าน้ำจะค่อยๆ เริ่มย้อนศร และมุดเข้ามาในคลองย่อยและผุดตามผิวถนน หากคุมไม่ได้จะลามไปพื้นที่เศรษฐกิจ จุดที่หนักสุดคือ นิคมอุตสาหกรรมบางชันที่จะกระทบรุนแรง หากยังคุมมวลชนไม่ได้ หากไม่ใจเย็น ที่ประกาศว่า 20 เขตจะไม่ท่วม สถานการณ์จะกลับไปเหมือนเดิมคือ 50 เขต จะโดนหมด"
ไม่มีใครรู้เรื่องท้องถิ่นดีเท่าคนท้องถิ่นเอง!
เหมือนกับ "ชาญ พวงเพ็ชร" นายกอบจ.ปทุมธานี เคยให้สัมภาษณ์ตัดพ้อว่า "คนปทุมฯ" ไม่มีโอกาสบริหารจัดการน้ำด้วยตัวเอง และสุดท้าย "น้ำจะท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีวันลด" และสิ่งที่เกิดขึ้นกับ จ.ปทุมธานี ได้พิสูจน์คำพูดของ "ชาญ" เป็นอย่างดี
หากประตูระบายน้ำที่อื่นในพื้นที่กรุงเทพฯ เกิดปรากฏการณ์เดียวกับประตูระบายน้ำคลองสามวา ไม่ยึดหลักการระบายน้ำตามระบบที่ "สำนักการระบายน้ำ กทม." ได้จัดวางไว้
รับรอง กทม.ทั้ง 50 เขต มีหวังต้องร้องเพลง "พี่เบิร์ด" ที่ว่า "จับมือไว้แล้วท่วมพร้อมกัน" อย่างแน่นอน !