
เคราะห์ซ้ำ กรรมซัด วิบัติเป็น
เคราะห์ซ้ำ กรรมซัด วิบัติเป็น : บทบรรณาธิการประจำวันที่ 25 ก.ค.
พล.ต.พิทยา กระจ่างวงษ์ ผู้บัญชาการศูนย์การบินทหารบก จังหวัดลพบุรี ยืนยันว่า กองทัพบกจะยุติการบินเฮลิคอปเตอร์แบบเบลล์ 212 ทั้งหมด เพื่อตรวจสอบสมรรถนะให้แน่ใจ ก่อนจะทำการบินต่อไป ถ้อยคำนี้เกิดขึ้นหลังจากเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบลล์ 212 ลำที่เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจ เคลื่อนย้ายศพ พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ จังหวัดกาญจนบุรี และนายศรวิชัย คงตันนิกูล ช่างภาพสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ตกซ้ำเป็นลำที่สามเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (24 ก.ค.) ในเขต อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ทำให้มีทหารเสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บสาหัส 1 นาย นี่จะใช้เหตุผลชนิดใดอธิบายอีก เมื่อสภาพอากาศ ทัศนวิสัย ในขณะเกิดเหตุปลอดโปร่ง ปกติ นอกจากคำอธิบายที่เหนือเหตุผล
หลายคนพูดถึงสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา หรือสามเหลี่ยมปีศาจ พื้นที่อาถรรพณ์ อยู่ทางทิศตะวันตก ของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ซึ่งดูดกลืนอากาศยาน และเรือผิวน้ำจมหายไปจำนวนหนึ่ง จนเป็นที่เล่าลือว่าอากาศยาน และเรือเหล่านั้น ถูกดูดออกไปนอกโลก มีเรื่องของมนุษย์ต่างดาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ต่อมาเมื่อปี 2553 นายโจเซฟ โมนาแกน ชาวอเมริกัน เสนอทฤษฎีใหม่ว่า สาเหตุที่เรือจมและเครื่องบินตก เกิดจากแก๊สมีเทนที่ก่อตัวขึ้น โดยแก๊สอยู่ในท้องทะเลบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เมื่อแก๊สเหล่านี้ขึ้นสู่พื้นผิว มันจะทะยานสู่อวกาศ ขยายตัวเป็นวงกว้าง ก่อตัวเป็นฟองแก๊สขนาดใหญ่ ดูดวัตถุที่ผ่านไปลงสู่ท้องทะเล แต่ไม่ว่าจะอธิบายด้วยเหตุผลอาถรรพณ์เบอร์มิวดา หรือเหตุผลวิทยาศาสตร์ ก็คงแตกต่างจากกรณีแก่งกระจาน
เฮลิคอปเตอร์ทั้งสามลำ ที่ตกต่อเนื่องกัน ในบริเวณพื้นที่แก่งกระจาน ซึ่งจนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 17 ราย นับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดของกองทัพบก บุคลากรที่สูญเสียไป ล้วนเป็นทรัพยากรที่ล้ำค่าไม่อาจประเมินได้ และก็คงไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น แก่งกระจานไม่ใช่เบอร์มิวดาแน่นอน เพราะไม่มีอากาศยานลำใดสูญหายไป แต่ก็คงห้ามความคิดในแบบสังคมไทยไม่ได้ว่า พื้นที่บริเวณนั้นอาจมีอาถรรพณ์ที่อยู่เหนือคำอธิบายอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ และต่อไปอาจจะมีศาลเพียงตาหรือถาวรวัตถุที่เป็นบันทึกประวัติศาสตร์ไว้ ณ ที่แห่งนั้นว่า มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น เช่นเดียวกับในหลายพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุเช่นเดียวกัน เช่น บนยอดดอยอินทนนท์
ไม่ว่าจะอย่างไร ย่อมมีคำถามถึงการดูแล และมาตรฐานความปลอดภัยของเฮลิคอปเตอร์ กองทัพบก ซึ่งเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนถึงสามครั้งแล้ว ในแง่จิตวิทยา นักบิน ช่างเครื่อง ผู้โดยสาร ที่ยังจำเป็นต้องใช้การเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ปฏิบัติภารกิจ เคลื่อนย้ายศพต่อไปอีก เนื่องจากยังไม่มีวิธีการใดที่จะลำเลียงศพออกจากที่เกิดเหตุสะดวก และรวดเร็วเช่นนี้ คงอยู่ในภาวะหวาดกลัวภัย ที่ดูเหมือนจะไม่มีหลักประกัน หรือเหตุผลอื่นใดมาอธิบายได้ แต่ในแง่กองทัพบก หน่วยงานเจ้าของเฮลิคอปเตอร์ทั้งสามลำ ซึ่งก็ยังไม่ได้มีการประเมินมูลค่าความเสียหายในตัวทรัพย์สิน จะต้องสรุปข้อมูลทั้งหมด และแถลงสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนให้สาธารณชนรับรู้โดยพลัน