
'ผมอยู่เหนือเนิน 900 เมตร'สัญญาณสุดท้ายจากแบล็กฮอว์ก
'ผมอยู่เหนือเนิน 900 เมตร' สัญญาณสุดท้ายจากแบล็กฮอว์ก : ตะลุยกองทัพ โดยทีมข่าวความมั่นคง
ความพยายามไขปริศนาว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เฮลิคอปเตอร์ที่ทันสมัยที่สุดของกองทัพ "แบล็กฮอว์ก" ตกกลางป่าฝั่งประเทศพม่า คร่าชีวิต พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผบ.พล.ร.9 และ 7 นายทหาร รวมถึงช่างภาพ ททบ.5 อีก 1 คน การติดต่อระหว่างนักบินกับฐาน ผ่าน "วิทยุสื่อสาร" เป็นอีกจิ๊กซอว์หนึ่งที่น่าจะนำไปสู่การเปิดเผยความจริง และนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมาเรียนรู้และส่งต่อให้แก่คนรุ่นหลัง
ร.ต.วรภาส เบญจชาติ หัวหน้าชุดปฏิบัติการงานด้านการข่าว หน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ บอกว่า ตนมีหน้าที่ในการประสานงานการปฏิบัติของหน่วยทั้งข้างหน้าและข้างหลัง
ก่อนที่แบล็กฮอว์กจะตก วันที่ 19 กรกฎาคม ได้ติดต่อกับฐานปฏิบัติการต้นน้ำเพชร หรือ "ท่าไม้ 5" ตามการเรียกขาน มี ร.อ.ธนะวัฒน์ วิริยาวุฒิ ผู้บังคับส่วนลาดตระเวนเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ ที่ปฏิบัติภารกิจตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม โดยเวลา 11.25 น. ได้รายงานมาว่าพื้นที่ดังกล่าวมีหมอกปกคลุม และสามารถตรวจได้ประมาณ 40-50 เมตร ลักษณะอากาศเปิด ทำให้ พล.ต.ตะวัน สั่งให้นำแบล็กฮอว์กขึ้นเพื่อออกเดินทางไปดูพื้นที่เป้าหมาย และรับศพนายทหารทั้ง ?5
เวลา 11.55 น. อยู่ระหว่างการฟังวิทยุสื่อสาร แต่ก็ไม่ได้ติดต่ออะไร เนื่องจากมีคำสั่งว่าไม่ให้ใช้วิทยุในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะต้องการให้มีการติดต่อสื่อสารระหว่างแบล็กฮอว์กกับ ร.อ.ธนะวัฒน์ ที่อยู่ในพื้นที่
"ตอนนี้แบล็กฮอว์กอยู่เหนือที่หมาย แนวสนามที่ได้วางไว้เป็นแนวเหนือใต้ใช่หรือไม่" คำถามจากแบล็กฮอว์กถามภาคพื้น
"มองเห็นผมหรือไม่ เพราะตอนนี้ผมอยู่เหนือเนิน 900 เมตรจากระดับน้ำทะเล"
แต่หลังจากนั้นเสียงติดต่อสื่อสารกันก็เงียบหายไป จนกระทั่งมาได้รับรายงานอีกครั้งในเวลา 12.15 น. นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งได้นำเครื่องของอุทยานบินตามไปด้วยแจ้งมาว่า "ขณะนี้แบล็กฮอว์ก บินอยู่เหนือเนิน 900"
หลังจากนั้นตนได้รับคำสั่งจากรองผู้บังคับการลาดตระเวนเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ โดยสั่งการผ่านทางวิทยุด้วยการให้ตนติดต่อทางวิทยุไปยังฐานทหารพม่าเพื่อแจ้งข่าวเกี่ยวกับเครื่องบินแบล็กฮอว์กตก โดยขณะนั้นสามารถวัดมุมตกของเครื่องบินได้ประมาณ 240 องศา หรือประมาณระยะเครื่องบินตกจากจุดเดิมประมาณ 1-2 กิโลเมตร โดยที่คาดการณ์ครั้งแรกอยู่ที่พิกัด เอ็นคิว 243118 แต่พิกัดที่ตรวจพบคือ เอ็นคิว 251126
“การสูญเสียครั้งนี้ถือว่าใหญ่มาก และผมก็เสียใจมาก เพราะผมเป็นคนรายงานให้ พล.ต.ตะวัน ได้รับทราบถึงสภาพอากาศ และสภาพเหตุการณ์ด้านหน้า โดยที่ท่านได้สั่งการให้รายงานให้ทราบรายละเอียดทุก 5 นาที ก่อนที่ท่านจะขึ้นเครื่อง ฐานปฏิบัติการทางทหารบริเวณต้นน้ำเพชร ได้รายงานมาว่าสภาพอากาศมีฝนตกเล็กน้อย และเมื่อฝนหยุดตก พล.ต.ตะวัน ได้เดินเข้ามาหาผมพอดี บอกกับผมว่าให้จุดธูปอัญเชิญนายทหารที่เสียชีวิตทั้ง 5 นาย มาทีละศพ ทีละดอก ให้กลับบ้าน” ร.ต.วรภาสกล่าวด้วยน้ำตาซึมที่ได้เล่าถึงคำพูดสุดท้ายของ พล.ต.ตะวัน
“มึงต้องรายงานให้ ผบ.ทราบทุกๆ 5 นาที"
ใครจะคิดว่า นั่นคือคำสั่งครั้งสุดท้ายของ ผบ.พล.ร.9 แน่นอน รวมทั้ง ร.ต.วรภาส ในวันนี้ ก็ยังอยากให้มันเป็นเพียงแค่ฝันร้าย
"ผมปฏิบัติตามคำสั่งของ ผบ.ทุกคำพูดที่ท่านได้สั่งการเอาไว้ ผมรายงานให้ ผบ.ได้รับทราบตั้งแต่แบล็กฮอว์กออกเดินทาง" ร.ต.วรภาสกล่าวพร้อมกับย้ำว่า พล.ต.ตะวัน เป็นคนที่เสียสละตัวเองเพื่อนำลูกน้องกลับมา ท่านมีหัวใจที่เด็ดเดี่ยวมาก
ขณะที่นายทหารยศพันเอกที่ใกล้ชิดกับ พล.ต.ตะวัน เปิดเผยด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ก่อนไป พล.ต.ตะวันบอกว่า “พี่จะไปเอาน้องๆ กลับมาให้ได้ เพราะลูกเมียเขารออยู่ที่กองพลทหารราบที่ 9 หลายวันแล้ว"
"ใครจะให้ผมทำอะไร หรือให้ไปกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ พล.ต.ตะวัน และน้องๆ ที่อยู่ในเครื่องปลอดภัย ผมก็ทำทุกอย่าง เพราะผมต้องการเอานายกลับบ้านเหมือนกัน ผมไม่เคยรีรอแม้แต่เสี้ยววินาที แม้แต่จัดส่งกำลังพลเข้าไปช่วยค้นหา แม้ว่าอากาศจะไม่เปิดก็ให้ใช้ชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าไปเพื่อค้นหา”
เขาบอกว่า แม้ว่าความหวังจะริบหรี่เมื่อทราบข่าวว่า เมื่อเวลา 11.08 น. วันที่ 22 กรกฎาคม ชุดลาดตระเวนได้พบศพแรก แต่อีก 8 ชีวิต ยังไม่ทราบ ก็ยังภาวนาขอให้รอดปลอดภัย แต่ทราบภายหลังว่าเสียชีวิตทั้งหมด 9 ศพ
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนฝันไป ไม่ใช่เรื่องจริง ผมอยู่ใกล้ชิดกับ พล.ต.ตะวัน รู้ดีว่าท่านพยายามทำทุกอย่างเพื่อลูกน้อง และเพื่อหน่วย เพราะท่านเป็นคนรักลูกน้อง และพล.ร.9 มาก ท่านไม่ค่อยได้หลับได้นอนเลยตั้งแต่ฮิวอี้ตกวันที่ 16 กรกฎาคม ท่านพยายามทำทุกอย่างเพื่อลูกน้อง ถือว่าเป็นบุญของพวกเราที่ได้ท่านมาเป็น ผบ.พล.ร.9"
“พล.ต.ตะวัน เฝ้าติดตามสถานการณ์ทุกคืน ตีสองตีสามก็ยังไม่นอน เมื่อหลับไปสักพักท่านก็ตื่นขึ้นมาอีก ท่านกังวลใจกับการช่วยน้องๆ มาก ท่านพยายามนำเครื่องบินขึ้นไปแต่ก็ได้แค่เขาพระเนินทุ่งเท่านั้น นั่งดูทิศทางที่จะไปที่เป้าหมาย โดยท่านเดินทางไปถึงสองหนแล้ว และการไปครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สาม"
"ท่านเชื่อว่าท่านไม่เคยคิดร้ายใคร และบุญที่ทำมาจะสามารถนำพาลูกน้องกลับมาจากเนิน 900 ให้ได้ ท่านเป็นห่วงหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องงานด้านความมั่นคงตามแนวชายแดน 4 จังหวัดที่ท่านรับผิดชอบคือ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี และ จ.กาญจนบุรี ระยะทาง 846 ตารางกิโลเมตร ท่านบอกว่าจะต้องทำให้ได้จะให้ทั้ง 4 จังหวัดได้ยินเสียงของท่าน เวลาที่ท่านพูดที่กองพลทหารราบที่ 9 โดยเฉพาะบริเวณด่านสิงขรช่องพระเจดีย์” นายทหารคนสนิทบอกถึงความมุ่งมั่นของ พล.ต.ตะวัน
ทีมข่าวความมั่นคง