
กห.เผย เร่งจัดทำแผนปฏิรูปตำรวจระยะ 20 ปี -ปรับภาคบริการ ปชช.
“โฆษกฯกห.” เผยคณะทำงานขับเคลื่อนที่5 ส่วนงานความมั่นคง เร่งจัดทำแผนปฏิรูปตำรวจระยะ20ปี นำร่อง 500 สน. ด้านภาคบริการ ปชช. คาด"ตั๋วแมงมุม" เริ่มทดลองใช้ ส.ค.-ก.ย.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 มีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพร้อมเพรียง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นพล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการปฏิรูประบบงานความมั่นคง การจัดทำฐานข้อมูลด้านความมั่นคง ซึ่งสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)เป็นเจ้าภาพหลักที่รวบรวมและบริหารจัดการข้อมูลของทุกกระทรวงที่เกี่ยวกับความมั่นคง คาดว่าจะทำแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.2560 เพื่อเชื่อมต่องานมั่นคงให้บูรณาการกันได้ง่ายขึ้น
ส่วนยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหม แบ่งเป็นยุทธศาสตร์ พ.ศ.2560-2579 เพื่อรองรับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของรัฐบาล มีเป้าหมายเพื่อให้โครงสร้างของกองทัพกะทัดรัด มีกำลังพลที่เหมาะสม และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถปฏิบัติภารกิจได้หลากหลาย และยุทธศาสตร์พ.ศ. 2560-2569 เป็นแผนพัฒนาขีดความสามารถ เพื่อเสริมสร้างความสมบูรณ์ของหน่วยงานให้พร้อมรบ และเป็นหลักประกันความมั่นคงในการเผชิญภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆทุกมิติ คาดว่าจะเสนอเข้าสู่สภากลาโหมภายในเดือนต.ค.นี้
โฆษกฯกลาโหม กล่าวว่า นอกจากนั้นยังมีการพัฒนาระบบบริการประชาชนให้ได้รับการแจ้งความและการสอบสวน มีสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยหลัก มีการจัดทำยุทธศาสตร์การปฏิรูปกิจการตำรวจระยะ 20 ปี ใน 10 ประเด็น มีเป้าหมายเป็นองค์การบังคับใช้กฎหมายที่ยุติธรรม มีมาตรฐานสากล ประชาชนเชื่อมั่น โดยเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำคือปฏิรูปงานสอบสวนและการบังคับใช้กฎหมายโดยจะเริ่มจากสถานีตำรวจกว่า 500 สถานี ให้เสร็จภายในเวลา 1 ปีครึ่ง และยังมีเรื่องปฏิรูปข่าวกรองที่เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างหน่วยงาน ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ รัฐบาลยังยกระดับธุรกิจการรักษาความปลอดภัยภาพรวมทั้งระบบ ที่มีอยู่เกือบ 4 แสนคน โดยมีการออกฏหมายเพื่อพัฒนาผู้ได้รับการบริการและคุณภาพชีวิตของพนักงานโดยมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการจัดให้มีการศึกษานอกเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดสำหรับพนักงานที่ปฏิบัติงานก่อนเดือนมี.ค. 59 และให้สตช.จัดทำฐานข้อมูลของพนักงานรักษาความปลอดภัยและบริษัทรักษาความปลอดภัย
พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า สำหรับการแก้ปัญหาการบินพลเรือน ได้มีการปรับปรุงกฎหมายการบินพลเรือนให้เกิดความทันสมัย และปรับปรุงกฎหมายเดินอากาศของไทย ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาในชั้นของคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่าจะนำเข้าครม.พิจารณาเห็นชอบภายในเดือนธ.ค.นี้ ขณะที่การแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายโดยไร้การควบคุม(ไอยูยู )นั้น ทางไทยได้เตรียมความพร้อมในการหารือกับคณะของผู้แทนของสหภาพยุโรป(อียู) ที่เดินทางมา ระหว่างวันที่ 13 มิ.ย.- 5 ก.ค.จำนวน 3 คณะ เจ้าหน้าที่เทคนิคด้านการตรวจสอบเกี่ยวกับศูนย์การแจ้งการเข้าออกของเรือ การตรวจสัตว์น้ำที่ท่า การนำเข้าสัตว์น้ำ คณะหารือระดับเจ้าหน้าที่ทางเทคนิค เพื่อหารือถึงกฎหมายประมงและแผนกบริหารจัดการประมง การติดตามควบคุมการทำประมง และการบังคับใช้กฎหมายและลงโทษผู้กระทำผิด และคณะหารือทางด้านเทคนิคระดับสูง เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างอียูและนักวิชาการด้านประมง ซึ่งรัฐบาลมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาทั้งระบบ
พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าระบบบริหารจัดการรายได้กลาง ระบบตั๋วร่วม หรือบัตรแมงมุมในการใช้บริการขนส่งทั้งไฟฟ้า รถเมล์ และขนส่งอื่น ตามที่รัฐบาลต้องการอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชน คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน ส.ค.-ก.ย.โดยทดลองใช้ในรถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าสายสีม่วง และจะทยอยเปิดตามความพร้อมของรถไฟฟ้าแต่ละสาย คาดว่าต้นปี 60 น่าจะดำเนินการได้เรียบร้อย โดยรัฐบาลจะเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน ในการบริหารจัดการตั๋วร่วม ซึ่งเริ่มต้นรัฐจะเป็นผู้ถือหุ้นไม่เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อแก้ปัญหาด้านการจราจร ลดภาระในการใช้ขนส่งสาธารณะ เป็นต้น